แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ นิยาย บท 201

สวี่รั่วฉิงคิดถึงลูกสาวของตนเองสวี่อี้หานขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ถึงแม้อายุจะยังไม่มาก แต่เมื่อเห็นดาราหนุ่มหล่อที่อยู่ในโทรทัศน์นั้นก็แทบจะคลั่งไคล้ขึ้นมา

แท้จริงแล้วอาจจะเป็นกรรมพันธุ์ของเธอที่ถ่ายทอดผ่านยีนไปสู่ลูก เมื่อมองเห็นหนุ่มหล่อก็แทบจะเข่าอ่อนเดินไม่ตรงเลยทีเดียว

ภายใต้แสงไฟสีเหลืองทองอร่ามอันงดงามนั้น สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งดูค่อนข้างเฉยเมยไร้อารมณ์

ตอนที่สีสันหลากหลายของแสงไฟนั้นสาดแสงส่องไปบนใบหน้าของเขา ก็ทำให้สีหน้าที่ดูเฉยเมยไร้อารมณ์ของเขานั้นดูอ่อนโยนขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง

สวี่รั่วฉิงพินิจพิเคราะห์ลี่ถิงเซิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นสายตาของสวี่รั่วฉิงที่เพ่งมองเขาอยู่ พร้อมหันหน้ากลับมา "เธอก็คิดแบบนี้เหรอ?"

ในน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความไม่พอใจ และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

ผู้ชายที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตาของสวี่รั่วฉิงเอง

สวี่รั่วฉิงจ้องมองไปทางคุณนายลี่ที่อยู่ไม่ไกลนั้นที่กำลังถือแก้วไวน์พร้อมกับจ้องนิ่งๆมาทางเธอเช่นกัน น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงราบเรียบ มุมปากยกขึ้น "ประธานลี่ ไม่ว่าฉันจะคิดยังไง ตอนนี้คุณก็ต้องไปเจอหน้าแม่ของคุณแล้วไม่ใช่เหรอคะ?"

ลี่ถิงเซิ่งจ้องไปที่ใบหน้ามุมข้างของสวี่รั่วฉิง

เธอพูดอย่างใจลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แตกต่างกับผู้หญิงที่เพิ่งจูบด้วยเมื่อครู่อย่างกับคนละคน

สวี่รั่วฉิงสามารถสัมผัสได้ถึงสายตาที่แผดเผาของลี่ถิงเซิ่ง เธอยืดหลังตรง "ประธานลี่ เธอกำลังมองคุณอยู่นะคะ"

หลังจากที่สวี่รั่วฉิงพูดจบ ลี่ถิงเซิ่งจึงค่อยๆละสายตาออกจากสวี่รั่วฉิง และหันมองไปทางผู้หญิงที่อยู่ห่างจากพวกเขาสองคนไปไม่ไกล

ตามที่สวี่รั่วฉิงพูด คุณนายลี่กำลังมองมาที่พวกเขาสองคนอยู่ตลอด

ราวกับมั่นใจว่าลี่ถิงเซิ่งจะต้องทิ้งสวี่รั่วฉิงแน่นอนเหมือนที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้

ตามความเป็นจริงแล้วหากต้องแต่งงานกับตระกูลสวี่ หรือเลือกแต่งกับผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า คนปกติทั่วไปก็คงจะตัดสินใจเลือกอย่างแรกแน่ๆ

แววตาของลี่ถิงเซิ่งจมดิ่งในทันที

อย่างน้อยที่สุดเมื่อครู่นี้ เธอคงเข้าใจจุดประสงค์ที่เขาพาเธอมางานเลี้ยงราตรีนี้ผิดไปแล้วอย่างแน่นอน

เขามีวิธีปฏิเสธการแต่งงานกับตระกูลสวี่มากมายนับหมื่นวิธี แต่ไม่มีสักวิธีที่จำเป็นต้องเอาผู้หญิงมาใช้เพื่อเป็นข้ออ้าง

ในสถานที่จัดงานเลี้ยงราตรีมีหนุ่มสาวชายหญิงอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งนั้น เมื่อพวกเขามองเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของลี่ถิงเซิ่ง พวกเขาก็แทบจะจำไม่ได้ และอดไม่ได้ที่หยุดสายตาจับจ้องไปที่เธอ

แล้วพวกเขาก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา ผู้หญิงที่มางานราตรีกับลี่ถิงเซิ่งคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกัน

ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล พวกเขาต้องจำได้แน่

แต่เนื่องจากว่าไม่คุ้นเลย นั่นแสดงว่าไม่ใช่คนที่อยู่ในแวดวงตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล

แปลกจริงๆ ทุกคนล้วนพูดกันว่าลี่ถิงเซิ่งหมั้นกับสวี่รั่วยีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังควงผู้หญิงอีกคนมางานเลี้ยงราตรีที่คุณนายหลินเป็นเจ้าภาพอย่างตามอำเภอใจได้อยู่?

วันนี้ทั้งคนตระกูลลี่และคนตระกูลสวี่ก็ล้วนแล้วแต่มางานนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?

แปลกที่สวี่รั่วฉิงเผชิญหน้ากับลี่ถิงเซิ่งแล้วไม่มีใครพูดอะไร เธอไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาพร้อมให้ความร่วมมือกับลี่ถิงเซิ่ง ไม่สนสายตาพวกนั้นที่มองมาทางเธอ พร้อมกับเดินด้วยท่วงท่าสุภาพและสง่างามไปที่ตรงหน้าของคุณนายลี่…

ในเวลาเดียวกันนั้น ข้างๆนั้นยังมีสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ด้วย

ระหว่างนั้น พวกเขาทุกคนก็ล้วนดึงดูดความสนใจของสายตาของทุกคนในงานราตรีนั้น

ใครจะรู้ ลี่ถิงเซิ่งนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะหมั้นกับสวี่รั่วยี

ทำไมถึงจงใจดื้อรั้นที่จะพาผู้หญิงที่สวยโดดเด่นอีกคนมางานนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูลเช่นนี้

สวี่รั่วฉิงนั้นเคยเจอคุณนายลี่เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แต่สำหรับสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปนั้นไม่เหมือนกัน

พวกเขาเป็นพ่อแม่ของเธอเมื่อหกปีก่อน

เธอคิดว่าพวกเขาจะเป็นพ่อและแม่ของเธอได้ตลอดไป

จนถึงวันนั้นเมื่อหกปีก่อน

แม้เวลาหกปีนั้นจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนพริบตาเดียว แต่เธอก็ยังจำได้ดีว่าในอดีตเธอรักพวกเขาขนาดไหน และเกลียดแค้นพวกเขามากแค่ไหนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยอมให้สวี่รั่วยีทำผิด

ความแค้นนั้นยังไม่ได้รับการชำระ จริงๆแล้วสวี่รั่วฉิงไม่ได้คิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมามากเท่าไหร่นัก

เธอยิ้มเล็กๆพร้อมกับมองไปที่คุณนายลี่และสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ป ราวกับคนที่ได้แต่เชื่อฟัง เหมือนคนสวยแต่ทำอะไรไม่เป็น

เธอเพียงต้องร่วมมือกับลี่ถิงเซิ่งให้ดีก็พอแล้ว

สีหน้าของคุณนายลี่นั้นทรุดลง เธอเอ่ยปากถามอย่างไม่เกรงใจ "นี่ลูกพาเธอมาทำอะไร"

หรือจะพูดได้ว่า ผู้หญิงอย่างสวี่รั่วฉิง ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่จะโผล่มาที่นี่ และยิ่งไม่ควรปรากฏตัวข้างกายลี่ถิงเซิ่งเช่นนี้!

นี่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการหักหน้าคุณนายลี่เพียงเท่านั้น แต่เป็นการหักหน้าสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปอีกด้วย

สายตาที่คุณนายลี่มองไปที่สวี่รั่วฉิงนั้น เต็มไปด้วยความมืดมัวและใจร้าย

เธอเพียงแค่เคยเห็นสวี่รั่วฉิงผ่านทางภาพถ่ายเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันจริงๆ ดูสวยมีเสน่ห์กว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก

ถ้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว กุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะในเมืองหลินชวนนี้คงไม่มีใครสามารถเทียบผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ได้แม้แต่คนเดียว

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดวงตาที่ปราดเปรียวนั้นเลย

ลึกๆในใจคุณนายลี่นั้นรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย ทำไมเธอรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาของผู้หญิงคนนี้เช่นนี้

สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ใส่ใจ สายตาอึมครึมนั้นมองไปที่คุณนายลี่ พร้อมกระตุกยิ้ม "เธอเป็นแฟนสาวของผม ก็ต้องมากับผมเป็นธรรมดาสิครับ คุณแม่"

ท่าทางไม่สนใจของลี่ถิงเซิ่งนั้น ทำให้คุณนายลี่นั้นโมโหเล็กน้อย และยิ่งทำให้สามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปรู้สึกอับอาย

แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานเลี้ยงราตรีของตระกูลหลิน แม้ว่าในใจของคุณนายลี่จะโกรธแต่ก็ไม่สามารถที่จะระบายออกมาได้

ทำได้เพียงชี้นิ้วไปที่สวี่รั่วฉิง "คิดไม่ถึงว่าคุณแอนจะไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ช่างหัวสูงชอบประจบสอพลอซะเหลือเกิน"

รอยยิ้มอันงดงามบนใบหน้าสดสวยของสวี่รั่วฉิงนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด

แววตาของเธอเวลานี้ เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ทั้งลึกซึ้งและเปิดเผย ราวกับว่ามองอะไรออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

เธอคล้ายกับจะตอบคำถามของคุณนายลี่ แต่สายตานั้นกลับมองไปที่สามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ป

"แน่นอน ฉันต้องประจบสอพลออยู่แล้ว ในเมื่อประธานลี่กับฉันนั้นถูกใจชอบกัน ฉันก็ต้องรีบคว้าเขาไว้ไม่ให้หลุดมือเป็นธรรมดา"

สวี่รั่วฉิงพูด ลึกๆในใจนั้นคิดอยากจะระบายความโกรธแค้นเมื่อหกปีก่อนของเธอออกมาให้หมด

ความเกลียดแค้นลึกๆในใจเธอแทบจะพรั่งพรูออกมากับเหตุการณ์นี้

ในใจเธอคิดว่า พวกคุณแคร์สวี่รั่วยีมากนักไม่ใช่เหรอ? พวกคุณยอมให้เธอโยนฉันทิ้งลงทะเลไปเมื่อหกปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันฉวยเอาผู้ชายที่ลูกสาวสุดที่รักของพวกคุณรักมากที่สุดไปต่อหน้าต่อตาพวกคุณล่ะ?

ดวงตาของลี่ถิงเซิ่งนั้นเปล่งประกาย มีความหมายลึกซึ้ง

เขาปรายตาลง ควบคุมอารมณ์พร้อมมองปราดไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างกาย พร้อมกับพูดตามออกมาเบาๆ "ถ้าแม่เรียกให้ผมมา เพื่อที่จะทำให้แฟนผมอับอายขายหน้า งั้นนี่ก็เป็นการเหยียดหยามการอบรมของแม่เองแล้วล่ะครับ คุณแม่"

เสียงทุ้มต่ำของลี่ถิงเซิ่ง นั้นไพเราะราวกับระดับเสียงเมเจอร์ของเชลโล่

แต่เมื่อฟังผ่านเข้าหูของหลายๆคนในงานนี้แล้ว ก็ทำให้ความรู้สึกนั้นเปลี่ยนไป

คุณนายลี่คุมสีหน้าไว้ไม่อยู่

คำตำหนิตรงๆของลี่ถิงเซิ่งนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าลูกชายของตัวเองนั้นอกตัญญูต่อตัวเธอเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียวนั้น

ลี่ถิงเซิ่งก้มหัวลงช้าๆ พร้อมกับจูบลงเบาๆที่หัวของหญิงสาวต่อหน้าพวกเขา

สีหน้าคุณนายลี่และสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปนั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกและเริ่มทนไม่ไหว

แต่มีเพียงแค่สสี่รั่วฉิงเท่านั้นที่สามารถได้ยินเสียงของลี่ถิงเซิ่งพูดอยู่ข้างหูเธอ "เธอเริ่มจะยั้งสติไม่อยู่แล้วนะ"

เสียงนั้นเบามาก แต่จี้แทงใจดำเป็นที่สุด

เขาเตือนเธอ ให้หยุดเพียงเท่านี้

ลี่ถิงเซิ่งพูดจบ ก็ขมวดคิ้วแน่น พบว่าสวี่รั่วฉิงยังไม่ได้สติ ดังนั้นจึงทำได้แค่โอบคว้าเอวบางของเธอไว้ ให้เธอนั้นพิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา

นั่นทำให้สวี่รั่วฉิงเพิ่งได้สติรู้ตัวว่าเมื่อครู่เธอเองนั้นลืมตัวไป

เธอเม้มปาก ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

เสียงของลี่ถิงเซิ่งดังมาจากบนหัวของเธอ ความเย็นชาที่เธอคุ้นเคย และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่เธอนั้นยากที่จะคาดเดา

"ผมขอตัวพาเธอไปก่อนนะครับ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ