สวี่รั่วฉิงคิดถึงลูกสาวของตนเองสวี่อี้หานขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ถึงแม้อายุจะยังไม่มาก แต่เมื่อเห็นดาราหนุ่มหล่อที่อยู่ในโทรทัศน์นั้นก็แทบจะคลั่งไคล้ขึ้นมา
แท้จริงแล้วอาจจะเป็นกรรมพันธุ์ของเธอที่ถ่ายทอดผ่านยีนไปสู่ลูก เมื่อมองเห็นหนุ่มหล่อก็แทบจะเข่าอ่อนเดินไม่ตรงเลยทีเดียว
ภายใต้แสงไฟสีเหลืองทองอร่ามอันงดงามนั้น สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งดูค่อนข้างเฉยเมยไร้อารมณ์
ตอนที่สีสันหลากหลายของแสงไฟนั้นสาดแสงส่องไปบนใบหน้าของเขา ก็ทำให้สีหน้าที่ดูเฉยเมยไร้อารมณ์ของเขานั้นดูอ่อนโยนขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
สวี่รั่วฉิงพินิจพิเคราะห์ลี่ถิงเซิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นสายตาของสวี่รั่วฉิงที่เพ่งมองเขาอยู่ พร้อมหันหน้ากลับมา "เธอก็คิดแบบนี้เหรอ?"
ในน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความไม่พอใจ และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ผู้ชายที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตาของสวี่รั่วฉิงเอง
สวี่รั่วฉิงจ้องมองไปทางคุณนายลี่ที่อยู่ไม่ไกลนั้นที่กำลังถือแก้วไวน์พร้อมกับจ้องนิ่งๆมาทางเธอเช่นกัน น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงราบเรียบ มุมปากยกขึ้น "ประธานลี่ ไม่ว่าฉันจะคิดยังไง ตอนนี้คุณก็ต้องไปเจอหน้าแม่ของคุณแล้วไม่ใช่เหรอคะ?"
ลี่ถิงเซิ่งจ้องไปที่ใบหน้ามุมข้างของสวี่รั่วฉิง
เธอพูดอย่างใจลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แตกต่างกับผู้หญิงที่เพิ่งจูบด้วยเมื่อครู่อย่างกับคนละคน
สวี่รั่วฉิงสามารถสัมผัสได้ถึงสายตาที่แผดเผาของลี่ถิงเซิ่ง เธอยืดหลังตรง "ประธานลี่ เธอกำลังมองคุณอยู่นะคะ"
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงพูดจบ ลี่ถิงเซิ่งจึงค่อยๆละสายตาออกจากสวี่รั่วฉิง และหันมองไปทางผู้หญิงที่อยู่ห่างจากพวกเขาสองคนไปไม่ไกล
ตามที่สวี่รั่วฉิงพูด คุณนายลี่กำลังมองมาที่พวกเขาสองคนอยู่ตลอด
ราวกับมั่นใจว่าลี่ถิงเซิ่งจะต้องทิ้งสวี่รั่วฉิงแน่นอนเหมือนที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้
ตามความเป็นจริงแล้วหากต้องแต่งงานกับตระกูลสวี่ หรือเลือกแต่งกับผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า คนปกติทั่วไปก็คงจะตัดสินใจเลือกอย่างแรกแน่ๆ
แววตาของลี่ถิงเซิ่งจมดิ่งในทันที
อย่างน้อยที่สุดเมื่อครู่นี้ เธอคงเข้าใจจุดประสงค์ที่เขาพาเธอมางานเลี้ยงราตรีนี้ผิดไปแล้วอย่างแน่นอน
เขามีวิธีปฏิเสธการแต่งงานกับตระกูลสวี่มากมายนับหมื่นวิธี แต่ไม่มีสักวิธีที่จำเป็นต้องเอาผู้หญิงมาใช้เพื่อเป็นข้ออ้าง
ในสถานที่จัดงานเลี้ยงราตรีมีหนุ่มสาวชายหญิงอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งนั้น เมื่อพวกเขามองเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของลี่ถิงเซิ่ง พวกเขาก็แทบจะจำไม่ได้ และอดไม่ได้ที่หยุดสายตาจับจ้องไปที่เธอ
แล้วพวกเขาก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา ผู้หญิงที่มางานราตรีกับลี่ถิงเซิ่งคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกัน
ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล พวกเขาต้องจำได้แน่
แต่เนื่องจากว่าไม่คุ้นเลย นั่นแสดงว่าไม่ใช่คนที่อยู่ในแวดวงตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล
แปลกจริงๆ ทุกคนล้วนพูดกันว่าลี่ถิงเซิ่งหมั้นกับสวี่รั่วยีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังควงผู้หญิงอีกคนมางานเลี้ยงราตรีที่คุณนายหลินเป็นเจ้าภาพอย่างตามอำเภอใจได้อยู่?
วันนี้ทั้งคนตระกูลลี่และคนตระกูลสวี่ก็ล้วนแล้วแต่มางานนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?
แปลกที่สวี่รั่วฉิงเผชิญหน้ากับลี่ถิงเซิ่งแล้วไม่มีใครพูดอะไร เธอไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาพร้อมให้ความร่วมมือกับลี่ถิงเซิ่ง ไม่สนสายตาพวกนั้นที่มองมาทางเธอ พร้อมกับเดินด้วยท่วงท่าสุภาพและสง่างามไปที่ตรงหน้าของคุณนายลี่…
ในเวลาเดียวกันนั้น ข้างๆนั้นยังมีสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ด้วย
ระหว่างนั้น พวกเขาทุกคนก็ล้วนดึงดูดความสนใจของสายตาของทุกคนในงานราตรีนั้น
ใครจะรู้ ลี่ถิงเซิ่งนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะหมั้นกับสวี่รั่วยี
ทำไมถึงจงใจดื้อรั้นที่จะพาผู้หญิงที่สวยโดดเด่นอีกคนมางานนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูลเช่นนี้
สวี่รั่วฉิงนั้นเคยเจอคุณนายลี่เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
แต่สำหรับสามีภรรยาสวี่ซื่อกรุ๊ปนั้นไม่เหมือนกัน
พวกเขาเป็นพ่อแม่ของเธอเมื่อหกปีก่อน
เธอคิดว่าพวกเขาจะเป็นพ่อและแม่ของเธอได้ตลอดไป
จนถึงวันนั้นเมื่อหกปีก่อน
แม้เวลาหกปีนั้นจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนพริบตาเดียว แต่เธอก็ยังจำได้ดีว่าในอดีตเธอรักพวกเขาขนาดไหน และเกลียดแค้นพวกเขามากแค่ไหนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยอมให้สวี่รั่วยีทำผิด
ความแค้นนั้นยังไม่ได้รับการชำระ จริงๆแล้วสวี่รั่วฉิงไม่ได้คิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมามากเท่าไหร่นัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ