เลขาตอบกลับมา "คุณผู้หญิง คุณวางใจเถอะ คุณหนูอี้ฝานและคุณหนูอี้หานทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้ว"
ซูจิ่วเอ๋อร์วางใจลงไปบ้างแล้ว
ตอนนี้เธอไม่ได้กังวลแค่เรื่องการผ่าตัดของเพื่อนสนิทเธอ แต่เธอยังกังวลเกี่ยวกับลูกบุญธรรมของเธออีกด้วย
ซูจิ่วเอ๋อร์วางมือถือลงบนเก้าอี้ ลุกขึ้นถามบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ข้างๆ "การผ่าตัดยังไม่เสร็จเหรอคะ? สถานการณ์หนักหนาสาหัสมากเลยเหรอ?"
เธอไม่เคยเจอการผ่าตัดที่ยาวนานติดต่อกันยี่สิบชั่วโมงแบบนี้มาก่อน
ตกลงแล้วรั่วฉิงนั้นอาการสาหัสมากแค่ไหน ยี่สิบชั่วโมงยังผ่าตัดไม่เสร็จอีก
ฝั่งทางคนของโรงพยาบาลที่รับผิดชอบเมื่อได้ยินคำถามของซูจิ่วเอ๋อร์ ก็ทำได้แค่พยายามอธิบายอย่างอดทน "สถานการณ์ของคุณแอนนั้น มากกว่าครึ่งคือบริเวณศีรษะที่ได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างหนัก ปกติอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นมักจะบาดเจ็บบริเวณขา ถ้าหากศีรษะกับบริเวณหลังได้รับบาดเจ็บไปพร้อมกัน ฉะนั้นความยากของการผ่าตัดก็จะยิ่งเพิ่มระดับความยากขึ้นตามไปด้วยค่ะ"
คำพูดของพนักงานโรงพยาบาล ทำให้ซูจิ่วเอ๋อร์ใจสั่น
ทั้งศีรษะและบริเวณหลังนั้นได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ งั้นคงจะไม่…
ซูจิ้วเอ๋อร์รีบถาม "งั้นมันจะส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตปกติของเธอหรือเปล่าคะ? เธอยังอายุน้อย เธอยังไม่ได้…"
เธอนั้นรู้สึกใจแหลกสลายเล็กน้อย พนักงานโรงพยาบาลเห็นดังนั้น จึงรีบพูดปลอบใจ "คุณซู คุณอย่าเพิ่งวิตกกังวลเกินไปก่อนเลยค่ะ คุณแอนเป็นคนดีพระเจ้าต้องคุ้มครอง อีกทั้งศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดให้นี้ก็เป็นแพทย์ที่ฝีมือดีที่สุด คุณแอนต้องผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แน่ๆ"
คำพูดของพนักงานโรงพยาบาล ลี่ถิงเซิ่งได้ยินชัดทุกคำไม่มีตกหล่น
แม้ว่าสายตาเขาจะทั้งล้าและง่วงนอน แต่ก็ยังเฉียบคมอยู่มาก
ถ้าคนตระกูลสวี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้จริงๆ เขาจะไม่ไว้หน้าใดๆ และทำให้คนตระกูลสวี่ต้องชดใช้อย่างสาสม
ซูจิ่วเอ๋อร์ปากสั่น ศีรษะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก…สวี่รั่วฉิงต้องได้รับอุบัติเหตุอย่างหนักมากแน่ๆ ถึงได้ก่อให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
รั่วฉิงเมื่อสี่ปีก่อน เธอก็เคยถูกสวี่รั่วยีจะฆ่าเธอโดยการโยนลงน้ำมาก่อน
ถ้าเกิดเธอไม่ได้อยู่แถวนั้นพอดี แล้วช่วยชีวิตสวี่รั่วฉิงไว้ ก็เกรงว่ารั่วฉิงคงจะต้องจากโลกนี้ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ในใจซูจิ่วเอ๋อร์นั้นคาดเดาไปถึงสถานการณ์หนึ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
สัมผัสที่หกของเธอนั้นบอกเธอ ว่าคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งใหญ่นี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลอย่างแน่นอน คนคนนั้นต้องเป็นสวี่รั่วยีแน่ๆ
ซูจิ่วเอ๋อร์คิด สายตาคู่นั้นค่อยๆเหลือบขึ้น เพ่งมองไปที่ลี่ถิงเซิ่งอย่างจริงจัง
ตอนนี้เธอคาดเดาใจของลี่ถิงเซิ่งได้ยากมาก ว่าสวี่รั่วฉิงนั้นสำคัญกับเขาขนาดไหน
ถ้าเธอบอกลี่ถิงเซิ่งไปโดยตรง ว่าอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสวี่รั่วยี เกรงว่าคงจะต้องถูกสงสัยแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนี้ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง บอกเรื่องนี้ให้คุณผู้ชายซูรู้ "พ่อคะ รั่วฉิงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ค่ะ คู่กรณีเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นคนที่สวี่รั่วยีส่งมา เรื่องนี้พ่อสามารถตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม? ถ้าเกิดมั่นใจว่าเป็นคนของสวี่รั่วยีทำจริงๆ งั้นความแค้นนี้ หนูจะช่วยรั่วฉิงแก้แค้นเอง"
หลังจากส่งข้อความบอกข่าวเรียบร้อย ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไว้
ตอนที่กำลังจะกดสั่งของกินเล่นมื้อดึกจากเดลิเวอรี่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดเธอ
"ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าใหม่ขึ้นมาแล้วครับ" หัวหน้าเฉินวิ่งมาอย่างเร่งรีบ เพราะมีเบาะแสเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุรถยนต์ของสวี่รั่วฉิงและเป็นเรื่องที่สำคัญมากจนเขาต้องมารายงานลี่ถิงเซิ่งด้วยตัวเอง
หัวหน้าเฉินมองเห็นซูจิ่วเอ๋อร์ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ทำไมถึงมีผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยอีกคนมาอยู่ที่นี่ได้?
หัวหน้าเฉินมองไปทางลี่ถิงเซิ่ง "ประธานลี่ คนนี้คือใครครับ?"
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองไปทางซูจิ่วเอ๋อร์นิ่งๆ "เพื่อนของแอนนา"
หัวหน้าเฉินตอบ"อ้อ" มาคำเดียว เห็นลี่ถิงเซิ่งไม่ได้สนใจอะไร และไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ