บทที่ 648 สิ่งที่เธอต้องการคือการสนับสนุนจากฉัน
“นรมน!”
บุริศร์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไป
รถคันหนึ่งหยุดตรงหน้านรมนไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร และนรมนก็ถูกปัญญ์กอดเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น
“ตาบอดเหรอ?”
คนขับรถตกใจเหงื่อแตกไปทั้งร่าง ทันใดนั้นความโกรธก็ตามขึ้นมา
ปัญญ์จ้องเขม็งคนขับรถแล้วพูดขึ้น “โชคดีที่นายตาไม่ได้บอด ไม่งั้นนายเจอดีแน่ ออกไปซะ!”
คนขับรถเห็นปัญญ์ไม่ใช่คนที่คุยด้วยง่าย และเห็นท่าทางเสียสติของนรมน ก็ตกใจรีบเหยียบคันเร่งขับหนีไป
เมื่อบุริศร์มาถึงก็เห็นภาพนี้
นรมนยังคงอยู่ในอ้อมแขนปัญญ์ ท่าทางน่ารักทำให้เขาเห็นแล้วอิจฉาในใจ
คิดว่าจะไปดึงนรมนออกมา เมื่อนึกถึงอาการปวดศีรษะของตัวเอง เขาก็หยุดฝีเท้าอย่างช่วยไม่ได้
เขามองปัญญ์ไถ่ถามทุกข์สุขกับนรมนโดยที่ทำอะไรไม่ได้ สองมือกำเข้าหากันแน่น อาการปวดศีรษะไม่เจ็บเท่าอาการปวดใจในตอนนี้
เขาต้องเสียนรมนไปจริงๆ ใช่ไหม?
ไม่!
ถึงจะตกลงหย่าแล้ว เขาก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้กับนรมน
ในที่สุดบุริศร์ก็แน่ใจกับความคิดที่แท้จริงของก้นบึ้งจิตใจตัวเอง
ให้อิสระกับนรมน ไม่อยากให้เธอลำบากใจ ยอมหย่าร้างอะไรพวกนั้น ทั้งหมดก็เพื่อลบล้างหักหนี้นรมน เพื่อหาข้ออ้างให้ตัวเองไล่ตามนรมนอีกครั้ง
ตอนนี้เห็นปัญญ์ข้างกายนรมน บุริศร์ก็ยิ่งเสียใจ
นี่คือภรรยาของเขา ผู้หญิงของเขา!
ใครก็อย่าคิดจะแย่งนรมนไปจากเขา!
แต่ก่อนหน้านี้ เขาต้องการทำสองสามเรื่อง
แววตาบุริศร์มีอารมณ์ที่บรรยายไม่ได้ จากนั้นก็หันตัวเดินออกไป
ทั้งร่างนรมนทึ่มไปแล้ว
เธอไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองเป็นอะไร หลังจากโดนบุริศร์บังคับจูบ ก็ไม่ใช่ว่าจะโกรธทั้งหมด ยิ่งเกลียดตัวเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้มากกว่า
เมื่อครู่นี้ เธอเกือบมีอารมณ์ เกือบหลงระเริงไปกับจูบบุริศร์แล้วจริงๆ
แต่เธอจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?
เธอที่เสียสติไม่เห็นรถฝั่งตรงข้ามด้วยซ้ำ ร่างเกือบฝังอยู่ใต้ล้อภายใต้การหนีที่กระวนกระวาย ถ้าไม่ได้ปัญญ์ช่วยไว้ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้เธอจะมีสภาพอย่างไร
“พี่นรมน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? พี่อย่าทำให้ฉันตกใจสิ เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้น? ลูกอาการไม่ค่อยดีเหรอ?”
ถามคำถามยาวเหยียด นรมนไม่รู้ว่าควรตอบข้อไหนดี
“พี่นรมน?”
“ไม่เป็นอะไร”
นรมนส่ายหน้า แสดงว่าตัวเองสบายดีมาก เธอจะบอกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ให้ปัญญ์ฟังได้อย่างไร
ไม่ได้!
ไม่สามารถปล่อยให้บุริศร์นำจมูกเดินได้อีกต่อไป
ถึงแม้จะรักเขา แต่ก็ต้องควบคุมตัวเอง การแต่งงานที่ถูกลิขิตไว้ว่าไม่ได้ผล ก็อย่าไปฝืนมันเลย
นรมนผลักอ้อมกอดของปัญญ์ จัดการอารมณ์ตัวเองให้ดี แล้วใช้มือทำท่าทางพูดขึ้น “ลูกไม่เป็นอะไร ไม่กี่วันนี้ฉันอาจจะไปๆ กลับๆ นายไม่ต้องตามฉันมา ฉันไม่เป็นอะไร เดี๋ยวนายได้โปรดช่วยฉันหาห้องหน่อย ฉันจะย้ายออกไปอยู่”
ปัญญ์ตกตะลึง พูดขึ้น “พี่นรมน คุณอยู่บ้านผมก็ดีแล้ว อย่าไปหาห้องอยู่คนเดียวเลย แล้วความสัมพันธ์ของพี่กับพี่สาวผมมันยังไม่ชัดเจนเหรอ?”
“ไม่ๆๆ ฉันต้องการหาห้อง เดี๋ยวหย่าแล้ว เด็กๆ จะอยู่กับฉัน อยู่บ้านนายไม่ค่อยสะดวก และฉันต้องการเรียนรู้การอยู่อย่างอิสระ และไม่สามารถพึ่งพาพวกคุณได้ตลอดเวลา ตอนนี้ฉันมีห้างGolden Harvestแล้ว ชีวิตไม่มีปัญหาหรอก ดังนั้นช่วยฉันหาห้องเถอะนะ รบกวนด้วย”
นรมนรีบทำท่าทาง
ปัญญ์เห็นเธอดื้อรั้นแบบนี้ ก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบตกลง
ทั้งสองขึ้นรถไปที่ซูเปอร์มาเก็ต ปัญญ์ซื้อเนื้อสัตว์และผักเป็นเพื่อนนรมน จากนั้นก็กลับบ้าน
นรมนไปเยี่ยมกิจจา กิจจายังคงอยู่ในห้องตัวเอง คมทิพย์เรียกอย่างไรก็ไม่ยอมออกมา
เธอเห็นกิจจานั่งอยู่ข้างหน้าต่างมองออกไปข้างนอก ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
นรมนมานั่งข้างๆ กิจจา
กิจจารู้สึกถึงลมหายใจของนรมน หันศีรษะไปเหลือบมองเธอ จากนั้นก็ยิ้ม
ทันใดนั้นนรมนก็ตื่นเต้นขึ้นมา
กิจจายิ้มแล้ว!
เขาจะเดินออกจากห้องแล้วใช่ไหม?
นรมนมองหนังสือเล่มหนึ่งในมือกิจจา พลิกดูมัน ไม่คิดว่าจะเป็นหนังสือภาษามือ
กิจจากำลังเรียนภาษามือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...