ตอน บทที่ 226 ขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม? จาก แค้นรักสามีตัวร้าย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 226 ขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ แค้นรักสามีตัวร้าย ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 226 ขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม?
“โอ๊ย!”
ตุลยาไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกกมลจู่โจมทันที ยกมือขึ้นและตบลงมาด้วยความขาดสติ
“กมล!”
นรมนตกใจ กอดกมลเอาไว้แน่น และฝ่ามือของตุลยาก็ตกลงมา
เสียง“เพียะ”ดังขึ้น ฝ่ามือของตุลยาตบลงบนใบหน้าของนรมน ส่งเสียงดังกังวาน
ทั้งสองนิ่งไปพร้อมกัน
ตุลยาไม่คิดว่าตนเองจะลงไม้ลงมือ แถมยังตบลงบนใบหน้าของคนอย่างจัง ส่วนนรมนก็ไม่ได้สติไปชั่วขณะ
บอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างคุมเชิงอย่างตึงเครียด
“ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ตุลยารู้สึกชาฝ่ามือเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการตบเมื่อกี้ไม่ได้เบาๆ
นรมนกลับมองหน้าเธอและกล่าวเสียงเบาว่า:“ฉันขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม?”
ประโยคนี้ทำให้ตุลยารู้สึกหดหู่ใจ ตอนนี้ความโกรธทั้งหมดเปลี่ยนเป็นความจนปัญญา
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่สาว พี่มองเห็นฉันดูเหมือนโจรลักพาตัวได้อย่างไร?คงไม่ใช่เพราะฉันเสียโฉมถึงได้สงสัยฉันใช่ไหม?”
“ฉันเพียงแค่อยากดูมือถือของเธอ”
นรมนดื้อรั้นมาก
ตอนนี้กมลก็มองออกมา เป็นหม่ามี้ของเธอที่กวนใจคนอื่นไม่ยอมหยุด
เธอดึงชายเสื้อของนรมนเบาๆและกระซิบถามว่า:“หม่ามี้ ทำไมหม่ามี้ต้องอยากดูมือถือของคนอื่นด้วยคะ?”
คำถามนี้นรมนไม่สามารถตอบกมลได้ ส่วนตุลยายิ่งอยากรู้ เพียงแต่เพราะเมื่อกี้ตนเองพลั้งมือไป เธอจึงยื่นมือถือให้ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
“อ่า ไม่ต้องพูดละ พี่สามารถดูทุกอย่างในมือถือของฉันได้ เพียงแค่ห้ามยุ่งกับมัน”
พูดจบก็ยื่นมือถือให้นรมนเหมือนเด็กๆ
นรมนรับมือถือมา เริ่มดูผ่านๆอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคลังภาพ เธอต้องการหาเบาะแสอะไรก็ตามจากมือถือเครื่องนี้ จนกระทั่งหวังว่าจะเจอรู้ภาพที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเธอสักเล็กน้อย
แต่น่าเสียดาย ไม่มีอะไรสักอย่าง
นรมนเลื่อนไปเลื่อนมา จนพบเข้ากับรูปภาพหนึ่ง
บนภาพนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่ภายใต้แสงแดด พร้อมกับความระทมทุกข์เล็กน้อย ทำให้คนรู้สึกสงสาร เพียงแต่นี้ไม่ใช่จุดที่ทำให้นรมนประหลาดใจ จุดที่เธอประหลาดใจก็คือ นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงในภาพวาดที่เธอนำออกมาจากห้องภาพของชินทรอย่างยิ่ง
“ผู้หญิงคนนี้คือใคร?”
นรมนถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ตุลยาเหลือบมองและตอบว่า:“แม่ของฉันเอง!”
“แม่ของเธอ?”
“ใช่สิ!”
ตุลยาพยักหน้า กล่าวอย่างภาคภูมิใจสุดๆ:“แม่ของฉันสวยไหม?ฉันจะบอกให้นะแม่ของฉันตอนสาวสวยมาก เพียงแค่ตอนนี้อายุเยอะแล้ว เอ๋?พี่รู้จักแม่ของฉันหรือ?”
คำถามนี้นรมนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
รู้จักไหม?
ในความเป็นจริงเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เลย
แต่หากบอกไม่รู้จัก ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับที่ตนเองเคยจินตนาการเอาไว้ เธอมักจะรู้สึกว่าทั้งสองน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ตอนนี้กลับหาไม่เจอว่าจุดเชื่อมต่ออยู่ตรงไหน
นรมนส่ายหน้า ส่งมือถือคืนให้แก่ตุลยา
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอีกฝ่ายซุกซ่อนไว้เก่งเกินไป หรือตนเองเข้าใจตุลยาผิด ถึงอย่างไรมือถือของตุลยาสะอาดสุดๆ ไม่มีอะไรที่น่าสงสัย
“ขอโทษด้วย เมื่อกี้ฉันบุ่มบ่ามไปเอง”
นรมนรีบกล่าวขอโทษ
ท่าทีโต้ตอบของตุลยาดูค่อนข้างเกรงใจ
“เมื่อกี้ฉันก็ทำไม่ดี ว่าแต่แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพี่?พ่อแม่ของพี่ถูกคนลักพาตัวไปหรือคะ?ฉันสามารถให้คนช่วยตรวจสอบได้”
คำพูดของตุลยาทำให้นรมนคิดปฏิเสธทันที เพียงแต่นึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
ถ้าบอกว่าตอนนี้เธอถูกคนเฝ้าติดตาม มือถือถูกดักฟัง เธอจะไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง ตุลยาตรงหน้าอาจจะสามารถลองตรวจสอบให้ได้
“เธอกำลังจะไปไหน?”
นรมนถามขึ้นมาทันที
ตุลยายักไหล่และตอบว่า:“ตอนนี้ฉันน่าเกลียดแบบนี้ ฉันจะไปที่ไหนได้ เพียงแต่ฉันได้ยินมาว่าในอเมริกามีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม สามารถรักษาแผลไฟไหม้ ฉันจึงอยากลองดู แต่พ่อของฉันไม่ยอมเห็นด้วยเด็ดขาด ฉันจึงต้องแอบออกไป ใครจะไปคิดว่าจะถูกพี่จับตัวเอาไว้ในโทษฐานที่เป็นโจรลักพาตัว”
พูดถึงตรงนี้ ตุลยารู้สึกหดหู่มาก
นรมนนึกถึงสิ่งที่ตนเองเคยประสบมาก่อน
ห้าปีก่อนแผลไฟไหม้ของเธอหนักกว่าตุลยาเยอะมาก
ใบหน้าของตุลยาถึงแม้จะดูน่าหวาดกลัวมาก แต่เมื่อสังเกตอย่างละเอียดแล้วยังสามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้
“ใบหน้าของเธอเสียโฉมได้อย่างไร?”
เพราะรู้ว่าแผลจากการถูกไฟไหม้นั้นเจ็บปวดมาก นรมนจึงมีความรู้สึกเห็นใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ต่อเธอ
ตุลยาถอนหายใจและตอบว่า:“ทำการทดลอง ทำได้ไม่ดี กระเด็นใส่ตนเองเต็มๆ”
“เธอทำอาชีพอะไรหรือ?”
“ฉันจะสามารถทำอะไรได้?พ่อของฉันเป็นประธานสถานพักฟื้น ส่วนแม่ของฉันเป็นหมอ ฉันยังจะทำอะไรได้ล่ะ เรียนหมอไง เพียงแต่ฉันชอบทดลองเคมี คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ตนเองน่าสมเพชแบบนี้”
พูดถึงตรงนี้ ตุลยาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
นรมนยื่นมือออกไป หยิบกระดาษปากกา เขียนที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ให้ตุลยา และกระซิบเสียงเบา:“นี่คือที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เธอบอกหล่อนไปว่าคุณแคทเธอรีแนะนำเธอมา หล่อนจะช่วยเธอเอง”
“ว้าว คิดไม่ถึงว่าพี่จะรู้จักMrs.Yan!”
“เย้!”
กมลดีใจเป็นพิเศษ
สองแม่ลูกเข้าไปในห้องน้ำ นรมนคอยอาบน้ำให้กมล มองเห็นรูเข็มเล็กใหญ่บนร่างกายของเธอ นรมนรู้สึกทุกข์ใจมาก
เดิมทีเธอไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้ แต่เป็นเพราะเธอ เป็นเพราะเธอกมลจึงถูกรเมศปฏิบัติแบบนี้
เธอจะเล่าสิ่งเหล่านี้ให้กมลฟังอย่างไร?
ความรู้สึกของนรมนหล่นวูบ
“หม่ามี้ หม่ามี้กำลังคิดถึงแด๊ดดี้หรือคะ?แด๊ดดี้ไปไหน?คืนนี้ไม่กลับมาหรือ?”
คำถามรัวๆของกมลทำให้นรมนได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ช่วงนี้แด๊ดดี้ของหนูยุ่งมาก ดังนั้นช่วงนี้จะเหมือนแค่พวกเราสองแม่ลูก ทำไม?หนูไม่มีความสุขหรือคะ?”
“มีความสุขค่ะ แต่หนูก็คิดถึงแด๊ดดี้”
คำพูดของกมลทำให้นรมนน้อยใจ
“เจ้าเด็กคนนี้ใจร้ายจริงๆ หม่ามี้อยู่กับหนูห้าปี หนูรู้จักกับแด๊ดดี้แค่กี่วัน?ได้ของใหม่ลืมของเก่าไม่ชอบหม่ามี้แล้ว?”
กมลรีบกอดลำคอของนรมน กล่าวอย่างออดอ้อน:“ชอบหม่ามี้ค่ะ กมลชอบทั้งหม่ามี้ ชอบทั้งแด๊ดดี้ แต่ตอนนี้อยู่ดีๆก็คิดถึงแด๊ดดี้”
คำพูดนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ
นรมนรู้สึกว่าตอนนี้กมลพูดเก่งขึ้นเรื่อยๆ ปากเล็กๆเหมือนเคลือบด้วยน้ำผึ้ง
“ลูกนะลูก!อีกสักพักพวกเราวีดีโอคอลหาแด๊ดดี้กันไหม?ถ้าแด๊ดดี้ไม่ยุ่ง”
นรมนบีบจมูกของลูกสาว ถามอย่างเอาใจ
“ค่ะ!”
แน่นอนว่ากมลชอบสุดๆ
ทั้งสองเล่นน้ำอยู่สักพัก นรมนจึงหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกมล อุ้มเธอออกจากห้องอาบน้ำ แต่ตอนออกมากลับพบกิจจาที่แอบเข้ามา
“กิจจา?”
นรมนเรียกกิจจา ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกสุดๆ
“หม่ามี้!”
“พี่กิจจา มากอดหน่อย!”
กมลยื่นแขนตรงไปทางกิจจา จนเขาตกใจถอยหลัง
“นี่ๆๆ ใส่เสื้อผ้าก่อน”
ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้กิจจามีเงาดำมืดในหัวใจอย่างรุนแรง
ตั้งแต่กมลเห็นบุริศร์กับนรมนจูบกัน มักจะต้องการเข้าไปจูบกิจจา ทำให้เขาตกใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ วันนี้มองเห็นกมลในร่างเปลือยเปล่าต้องการโผ่เข้าหาตนเอง เขาตกใจกลัวจนแทบจะวิ่งหนีกระเจิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...