บทที่ 226 ขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม?
“โอ๊ย!”
ตุลยาไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกกมลจู่โจมทันที ยกมือขึ้นและตบลงมาด้วยความขาดสติ
“กมล!”
นรมนตกใจ กอดกมลเอาไว้แน่น และฝ่ามือของตุลยาก็ตกลงมา
เสียง“เพียะ”ดังขึ้น ฝ่ามือของตุลยาตบลงบนใบหน้าของนรมน ส่งเสียงดังกังวาน
ทั้งสองนิ่งไปพร้อมกัน
ตุลยาไม่คิดว่าตนเองจะลงไม้ลงมือ แถมยังตบลงบนใบหน้าของคนอย่างจัง ส่วนนรมนก็ไม่ได้สติไปชั่วขณะ
บอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างคุมเชิงอย่างตึงเครียด
“ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ตุลยารู้สึกชาฝ่ามือเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการตบเมื่อกี้ไม่ได้เบาๆ
นรมนกลับมองหน้าเธอและกล่าวเสียงเบาว่า:“ฉันขอดูมือถือของเธออีกครั้งได้ไหม?”
ประโยคนี้ทำให้ตุลยารู้สึกหดหู่ใจ ตอนนี้ความโกรธทั้งหมดเปลี่ยนเป็นความจนปัญญา
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่สาว พี่มองเห็นฉันดูเหมือนโจรลักพาตัวได้อย่างไร?คงไม่ใช่เพราะฉันเสียโฉมถึงได้สงสัยฉันใช่ไหม?”
“ฉันเพียงแค่อยากดูมือถือของเธอ”
นรมนดื้อรั้นมาก
ตอนนี้กมลก็มองออกมา เป็นหม่ามี้ของเธอที่กวนใจคนอื่นไม่ยอมหยุด
เธอดึงชายเสื้อของนรมนเบาๆและกระซิบถามว่า:“หม่ามี้ ทำไมหม่ามี้ต้องอยากดูมือถือของคนอื่นด้วยคะ?”
คำถามนี้นรมนไม่สามารถตอบกมลได้ ส่วนตุลยายิ่งอยากรู้ เพียงแต่เพราะเมื่อกี้ตนเองพลั้งมือไป เธอจึงยื่นมือถือให้ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
“อ่า ไม่ต้องพูดละ พี่สามารถดูทุกอย่างในมือถือของฉันได้ เพียงแค่ห้ามยุ่งกับมัน”
พูดจบก็ยื่นมือถือให้นรมนเหมือนเด็กๆ
นรมนรับมือถือมา เริ่มดูผ่านๆอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคลังภาพ เธอต้องการหาเบาะแสอะไรก็ตามจากมือถือเครื่องนี้ จนกระทั่งหวังว่าจะเจอรู้ภาพที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเธอสักเล็กน้อย
แต่น่าเสียดาย ไม่มีอะไรสักอย่าง
นรมนเลื่อนไปเลื่อนมา จนพบเข้ากับรูปภาพหนึ่ง
บนภาพนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่ภายใต้แสงแดด พร้อมกับความระทมทุกข์เล็กน้อย ทำให้คนรู้สึกสงสาร เพียงแต่นี้ไม่ใช่จุดที่ทำให้นรมนประหลาดใจ จุดที่เธอประหลาดใจก็คือ นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงในภาพวาดที่เธอนำออกมาจากห้องภาพของชินทรอย่างยิ่ง
“ผู้หญิงคนนี้คือใคร?”
นรมนถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ตุลยาเหลือบมองและตอบว่า:“แม่ของฉันเอง!”
“แม่ของเธอ?”
“ใช่สิ!”
ตุลยาพยักหน้า กล่าวอย่างภาคภูมิใจสุดๆ:“แม่ของฉันสวยไหม?ฉันจะบอกให้นะแม่ของฉันตอนสาวสวยมาก เพียงแค่ตอนนี้อายุเยอะแล้ว เอ๋?พี่รู้จักแม่ของฉันหรือ?”
คำถามนี้นรมนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
รู้จักไหม?
ในความเป็นจริงเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เลย
แต่หากบอกไม่รู้จัก ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับที่ตนเองเคยจินตนาการเอาไว้ เธอมักจะรู้สึกว่าทั้งสองน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ตอนนี้กลับหาไม่เจอว่าจุดเชื่อมต่ออยู่ตรงไหน
นรมนส่ายหน้า ส่งมือถือคืนให้แก่ตุลยา
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอีกฝ่ายซุกซ่อนไว้เก่งเกินไป หรือตนเองเข้าใจตุลยาผิด ถึงอย่างไรมือถือของตุลยาสะอาดสุดๆ ไม่มีอะไรที่น่าสงสัย
“ขอโทษด้วย เมื่อกี้ฉันบุ่มบ่ามไปเอง”
นรมนรีบกล่าวขอโทษ
ท่าทีโต้ตอบของตุลยาดูค่อนข้างเกรงใจ
“เมื่อกี้ฉันก็ทำไม่ดี ว่าแต่แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพี่?พ่อแม่ของพี่ถูกคนลักพาตัวไปหรือคะ?ฉันสามารถให้คนช่วยตรวจสอบได้”
คำพูดของตุลยาทำให้นรมนคิดปฏิเสธทันที เพียงแต่นึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
ถ้าบอกว่าตอนนี้เธอถูกคนเฝ้าติดตาม มือถือถูกดักฟัง เธอจะไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง ตุลยาตรงหน้าอาจจะสามารถลองตรวจสอบให้ได้
“เธอกำลังจะไปไหน?”
นรมนถามขึ้นมาทันที
ตุลยายักไหล่และตอบว่า:“ตอนนี้ฉันน่าเกลียดแบบนี้ ฉันจะไปที่ไหนได้ เพียงแต่ฉันได้ยินมาว่าในอเมริกามีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม สามารถรักษาแผลไฟไหม้ ฉันจึงอยากลองดู แต่พ่อของฉันไม่ยอมเห็นด้วยเด็ดขาด ฉันจึงต้องแอบออกไป ใครจะไปคิดว่าจะถูกพี่จับตัวเอาไว้ในโทษฐานที่เป็นโจรลักพาตัว”
พูดถึงตรงนี้ ตุลยารู้สึกหดหู่มาก
นรมนนึกถึงสิ่งที่ตนเองเคยประสบมาก่อน
ห้าปีก่อนแผลไฟไหม้ของเธอหนักกว่าตุลยาเยอะมาก
ใบหน้าของตุลยาถึงแม้จะดูน่าหวาดกลัวมาก แต่เมื่อสังเกตอย่างละเอียดแล้วยังสามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้
“ใบหน้าของเธอเสียโฉมได้อย่างไร?”
เพราะรู้ว่าแผลจากการถูกไฟไหม้นั้นเจ็บปวดมาก นรมนจึงมีความรู้สึกเห็นใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ต่อเธอ
ตุลยาถอนหายใจและตอบว่า:“ทำการทดลอง ทำได้ไม่ดี กระเด็นใส่ตนเองเต็มๆ”
“เธอทำอาชีพอะไรหรือ?”
“ฉันจะสามารถทำอะไรได้?พ่อของฉันเป็นประธานสถานพักฟื้น ส่วนแม่ของฉันเป็นหมอ ฉันยังจะทำอะไรได้ล่ะ เรียนหมอไง เพียงแต่ฉันชอบทดลองเคมี คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ตนเองน่าสมเพชแบบนี้”
พูดถึงตรงนี้ ตุลยาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
นรมนยื่นมือออกไป หยิบกระดาษปากกา เขียนที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ให้ตุลยา และกระซิบเสียงเบา:“นี่คือที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เธอบอกหล่อนไปว่าคุณแคทเธอรีแนะนำเธอมา หล่อนจะช่วยเธอเอง”
“ว้าว คิดไม่ถึงว่าพี่จะรู้จักMrs.Yan!”
ตุลยาดีใจสุดๆ เก็บกระดาษใบนี้เอาไว้อย่างดี
“ขอบคุณมากค่ะ พี่สาวคนสวย”
ตุลยารู้สึกดีใจอย่างเห็นได้ชัดเจน มากจนกระทั่งลูบศีรษะของกมล และกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“เธอก็ด้วย ขอบคุณนะ เจ้าหญิงตัวน้อย มีอะไรโทรหาฉันได้ วางใจเถอะ ฉันจะช่วยสืบถามเรื่องของพี่”
ตุลยาทิ้งเบอร์ของตนเองไว้กับนรมน จากนั้นเดินจากไปอย่างมีความสุข
อันที่จริงนรมนรู้สึกผิดหวัง เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น
บอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานพักฟื้นเห็นว่าทั้งสองอยู่ในความสงบไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว จึงรีบถอยออกไป
กมลมองไปทางตุลยาทางเดินจากไปด้วยความแปลกใจ เอ่ยถามเสียงเบาว่า:“หม่ามี้ ใบหน้าของคุณน้าคนนั้นเป็นอะไรไปคะ ?เธอจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม?”
“ได้สิจ๊ะMrs.Yanเก่งมากๆ”
นรมนลูบศีรษะของกมลด้วยความอ่อนโยน วางความสงสัยเหล่านี้ลงชั่วคราว
เธออุ้มกมลกลับห้อง เดินไปพลางถามไปพลางว่า:“ทำไมลูกวิ่งมาถึงตรงนี้? คุณย่าล่ะ?พี่ชายล่ะ ?ทำไมหนูถึงมาคนเดียว?”
กมลทำหน้ามุ่ยตอบว่า:“พี่ชายหลบหนู ส่วนคุณย่าก็บอกว่าขอนอนสักพัก หนูอยู่คนเดียวรู้สึกเบื่อจึงวิ่งออกมา”
นรมนมองเห็นเลือดฝาดบนใบหน้าของกมล จึงรู้ได้ทันทีว่ากิจจาต้องถูกกมลขอจูบจนตกใจกลัว ดังนั้นจึงหลบเธอ ส่วนคุณนายโตเล็ก ร่างกายไม่ค่อยมีพละกำลัง ในเมื่อร่างกายเป็นแบบนี้ จึงไม่มีแรงพอไปโดยปริยาย
แต่ตอนนี้กมลดีขึ้นกว่าตอนเพิ่งเข้ามาอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่เธอยังคงเป็นห่วงเหมือนเดิม
ถ้าเป้าหมายของคนที่อยู่ในความมืดคือกมลจะทำอย่างไร?
“กมล คืนนี้นอนกับหม่ามี้ดีไหม?”
“ดีค่ะ!”
กมลดีใจสุดๆ
เธอโอบกอดรอบลำคอของนรมน กลับห้องพร้อมกับนรมน
ทันทีที่กลับมาถึงห้อง นรมนรู้สึกอึดอัด เหมือนมีดวงตานับไม่ถ้วนจ้องมองอยู่ทุกทิศทาง คอยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวไม่ยอมหยุดหย่อน
กมลสังเกตเห็นทันทีว่านรมนอารมณ์ไม่ดี จึงดึงชายเสื้อของนรมนเบาๆและเอ่ยถามว่า:“หม่ามี้ เป็นอะไรไปคะ?หรือว่าไม่อยากนอนกับกมลแล้ว?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?หม่ามี้แค่ไม่ชอบห้องนี้ขึ้นมากะทันหัน พวกเราย้ายห้องดีไหม?ไปห้องของหนูแทน?”
“ดีค่ะ!”
กมลไม่มีความคิดเห็นใดๆ เพียงแค่ได้อยู่กับนรมน อยู่ที่ไหนเธอก็ชอบ
นรมนเก็บของบางส่วนของตนเอง จากนั้นอุ้มกมลออกไป
มือถือดังขึ้นอีกครั้ง ภายในห้องของกมล
นรมนเพิ่งจะวางกมลลง ตอนกำลังจะพากมลไปอาบน้ำ ข้อความก็เข้ามาในมือถืออีกครั้ง
“แกคิดว่าย้ายห้องแล้วฉันก็จะมองไม่เห็นแกหรือ?”
นรมนรู้สึกไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม เพียงแค่เธอไม่ได้แสดงออก โยนมือถือลงบนเตียง คิดไปคิดมารู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงปิดเครื่อง แม้แต่ดึงแบตเตอรี่ออก และให้บอดี้การ์ดนำกลับไปที่ห้องของเธอ แบบนี้ถึงจะโล่งใจ
กมลมองการกระทำเหล่านั้นของนรมนด้วยความแปลกใจ ถามว่า:“ หม่ามี้ หม่ามี้เล่นอะไรอยู่?”
“เปล่าจ๊ะ รำคาญมือถือเสียงดังเกินไป กลัวจะรบกวนการพักผ่อนของกมล คืนนี้หม่ามี้อยากอยู่เป็นเพื่อนกมล”
“เย้!”
กมลดีใจเป็นพิเศษ
สองแม่ลูกเข้าไปในห้องน้ำ นรมนคอยอาบน้ำให้กมล มองเห็นรูเข็มเล็กใหญ่บนร่างกายของเธอ นรมนรู้สึกทุกข์ใจมาก
เดิมทีเธอไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้ แต่เป็นเพราะเธอ เป็นเพราะเธอกมลจึงถูกรเมศปฏิบัติแบบนี้
เธอจะเล่าสิ่งเหล่านี้ให้กมลฟังอย่างไร?
ความรู้สึกของนรมนหล่นวูบ
“หม่ามี้ หม่ามี้กำลังคิดถึงแด๊ดดี้หรือคะ?แด๊ดดี้ไปไหน?คืนนี้ไม่กลับมาหรือ?”
คำถามรัวๆของกมลทำให้นรมนได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ช่วงนี้แด๊ดดี้ของหนูยุ่งมาก ดังนั้นช่วงนี้จะเหมือนแค่พวกเราสองแม่ลูก ทำไม?หนูไม่มีความสุขหรือคะ?”
“มีความสุขค่ะ แต่หนูก็คิดถึงแด๊ดดี้”
คำพูดของกมลทำให้นรมนน้อยใจ
“เจ้าเด็กคนนี้ใจร้ายจริงๆ หม่ามี้อยู่กับหนูห้าปี หนูรู้จักกับแด๊ดดี้แค่กี่วัน?ได้ของใหม่ลืมของเก่าไม่ชอบหม่ามี้แล้ว?”
กมลรีบกอดลำคอของนรมน กล่าวอย่างออดอ้อน:“ชอบหม่ามี้ค่ะ กมลชอบทั้งหม่ามี้ ชอบทั้งแด๊ดดี้ แต่ตอนนี้อยู่ดีๆก็คิดถึงแด๊ดดี้”
คำพูดนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ
นรมนรู้สึกว่าตอนนี้กมลพูดเก่งขึ้นเรื่อยๆ ปากเล็กๆเหมือนเคลือบด้วยน้ำผึ้ง
“ลูกนะลูก!อีกสักพักพวกเราวีดีโอคอลหาแด๊ดดี้กันไหม?ถ้าแด๊ดดี้ไม่ยุ่ง”
นรมนบีบจมูกของลูกสาว ถามอย่างเอาใจ
“ค่ะ!”
แน่นอนว่ากมลชอบสุดๆ
ทั้งสองเล่นน้ำอยู่สักพัก นรมนจึงหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกมล อุ้มเธอออกจากห้องอาบน้ำ แต่ตอนออกมากลับพบกิจจาที่แอบเข้ามา
“กิจจา?”
นรมนเรียกกิจจา ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกสุดๆ
“หม่ามี้!”
“พี่กิจจา มากอดหน่อย!”
กมลยื่นแขนตรงไปทางกิจจา จนเขาตกใจถอยหลัง
“นี่ๆๆ ใส่เสื้อผ้าก่อน”
ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้กิจจามีเงาดำมืดในหัวใจอย่างรุนแรง
ตั้งแต่กมลเห็นบุริศร์กับนรมนจูบกัน มักจะต้องการเข้าไปจูบกิจจา ทำให้เขาตกใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ วันนี้มองเห็นกมลในร่างเปลือยเปล่าต้องการโผ่เข้าหาตนเอง เขาตกใจกลัวจนแทบจะวิ่งหนีกระเจิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย