บทที่ 227 เธอกำลังจะทำให้พี่หายใจไม่ออก
“หม่ามี้ หม่ามี้!”
ถ้ากิจจาไม่กลัวทำร้ายความนับถือของกมล คงจะหนีกระเจิงไปนานแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงกระพริบตาโตขอความช่วยเหลือนรมน
นรมนรู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อย กอดกมลเอาไว้ทันที
“กมล ไม่ได้นะ!”
“ทำไมคะ?”
กมลทำปากมุ่ย เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจมาก
“คืนนี้หนูก็จะนอนกับพี่กิจจาด้วยได้ไหม?”
ไม่ได้
นรมนปฏิเสธทันที
“กมล พี่ชายคือพี่ชาย หนูไม่สามารถนอนกับพี่ชายได้ นอกจากนี้พี่ชายไม่สามารถจูบกับหนูได้ ไม่ว่าตอนไหน หนูก็ไม่สามารถจูบกับผู้ชายได้ตามใจชอบเข้าใจไหม?”
นรมนต้องฉวยโอกาสปลูกฝังความคิดว่าชายหญิงแตกต่างกันให้แก่ลูกสาว
ดวงตาของกมลมีความสงสัย
“แต่ทำไมหม่ามี้ถึงทำกับแด๊ดดี้ได้ล่ะคะ?”
“เพราะหม่ามี้กับแด๊ดดี้ของหนูรักกัน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ถึงจะทำได้ หลังจากที่กมลได้เจอผู้ชายที่ชอบ ทั้งสองคนหัวใจตรงกัน ก็สามารถทำได้ แต่ก่อนหน้านั้น กมลต้องเก็บของที่มีค่าที่สุดไว้ให้แก่คนที่ดีที่สุดเข้าใจไหม?”
นรมนไม่รู้ว่ากมลฟังรู้เรื่องไหม แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องพูดเช่นนี้
กมลกล่าวอย่างไม่ยินยอม:“แต่หนูชอบพี่กิจจา อนาคตหนูก็จะแต่งงานกับพี่กิจจา”
“ไม่ได้ค่ะ เขาคือพี่ชาย พี่ชายไม่สามารถเป็นเจ้าบ่าวให้ลูกได้เข้าใจไหม ?เขาเป็นได้เพียงพี่ชาย”
“งั้นหนูไม่สามารถกอดจูบได้ถูกต้องไหมคะ?”
กมลเสียใจมาก เหมือนเสียของรักของหวงไป
นรมนใจอ่อน แต่ยังเอ่ยเสียงเบาว่า:“กมล พี่ชายจะเป็นพี่ชายของหนูตลอดไป พวกลูกคือคนในครอบครัว คนในครอบครัวสามารถจูบหนูได้ แต่เป็นตรงหน้าผาก เข้าใจไหม?หนูก็สามารถหอมแก้มพี่กิจจาได้ นี่คือการจูบกันระหว่างคนในครอบครัว”
“จริงหรือคะ?”
ดวงตาของกมลผลิบานด้วยสีสันอีกครั้ง ส่องแวววาว เหมือนทั้งห้องสว่างไสวด้วยรอยยิ้มและแววตาของเธอขึ้นมา
นรมนตอบด้วยรอยยิ้ม :“จริงสิคะ ตอนนี้หนูเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถหอมแก้มพี่กิจจาได้”
“ค่ะ!”
กมลร่วมมืออย่างโดยดี
กิจจาทำจมูกย่น ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อเทียบกับการที่กมลโหยหาริมฝีปากของเขาอยู่ตลอดเวลาและอยากจะดึงกางเกงของเขาออกทุกนาที วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ของนรมนเขายังสามารถยอมรับได้
กมลรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
กิจจายิ้มให้นรมนและกล่าวว่า:“ขอบคุณครับหม่ามี้”
“หม่ามี้ไม่ได้ทำอะไรเลย”
นรมนลูบศีรษะของกิจจา คิดถึงกานต์ขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้เจอกับกานต์
กมลเปลี่ยนเสื้อผ้าวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเจ้าหญิงน้อยโผเข้าสู่อ้อมอกของกิจจา ชนจนกิจจาแทบจะล้มลง ทันใดนั้นเอง“จุ๊บ”ริมฝีปากนุ่มๆของกมลจูบลงบนใบหน้าของกิจจา
ความนุ่ม ความหอม แถมยังมีความยืดหยุ่น
กิจจาตกตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเด็กผู้หญิงจูบ
ถึงแม้เด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นน้องสาวของตนเอง แต่ความรู้สึกแบบนี้ค่อนข้างดีจริงๆ
กิจจาตกตะลึงไปหมด
เมื่อกมลจูบกิจจาเสร็จจึงหันไปมองนรมนด้วยความแปลกใจและถามว่า:“หม่ามี้ พี่ชายเป็นอะไร?เขาไม่ชอบให้กมลจูบหรือเปล่า?หรือว่าแรงจูบของหนูไม่พอ?”
นรมนอยากหัวเราะ
เธอรู้ว่ากิจจากำลังตกตะลึง เธอเดินไปตรงหน้า ลูบศีรษะของเขา และจูบลงบนหน้าผาก:“เป็นอะไรไป?”
กิจจาชะงักงันอีกครั้ง
จูบของหม่ามี้กับกมลหน้าตาไม่เหมือนกัน มีความอ่อนโยนและเมตตา ทำให้เขาตื้นตันใจมากทันที
“ขอบคุณครับหม่ามี้”
ขอบตาของเขามีน้ำตาเอ่อล้น เขาคิดถึงเขมิกา ตอนที่ยังเล็กมากๆ เขมิกาก็เคยทำแบบนี้กับเขา น่าเสียดายที่หลังจากนั้นไม่เคยมี
วันนี้เขาถูกนรมนจูบเช่นนี้ จึงรู้สึกเจ็บปวดไปชั่วขณะ
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรคิดถึงเขมิกา เขมิกาทำให้เขาสูญเสียพี่ใหญ่ ทำให้หม่ามี้กับน้องสาวสูญเสียลูกชายและพี่ชาย แต่ ณ เวลานี้เขาไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของเขาได้
กมลมองเห็นกิจจาขอบคุณนรมน แต่กลับนิ่งเฉยต่อจูบของเธอ จึงเริ่มไม่พอใจ
“หนูไม่สนใจ พี่ชายไม่ชอบจูบของหนู หนูจะจูบอีก”
พูดจบจึงใช้มือทั้งสองจับใบหน้าของกิจจา จุ๊บๆลงไปหลายที
กิจจาถูกออร่าของกมลแผ่คลุมไว้
เขาเอ่ยอย่างจนปัญญา:“กมล เธอกำลังจะทำให้พี่หายใจไม่ออก จูบของกมลดีที่สุด”
“จริงหรือ?”
เห็นกิจจาชมตนเอง กมลถึงจะปล่อยเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ จากนั้นจึงทำแก้มป่อง ใช้นิ้วจิ้มแก้มของตนเอง
กิจจารู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
นรมนรู้สึกว่าตอนนี้ความผูกพันธ์ของเด็กทั้งสองคนนับว่าดีจริงๆ
“ไม่เป็นไร กิจจา จูบน้องสักหน่อย หม่ามี้จะทำของอร่อยให้พวกเธอ”
อยู่ดีๆเธอก็คิดอยากทำอาหาร
กิจจาลังเลอยู่สักพัก แต่ก็ยังหอมลงไปบนแก้มของกมลหนึ่งที จากนั้นจึงรีบถอยกลับไป ใบหน้าเล็กๆแดงขึ้น ท่าทางเขินอายอย่างมาก
“ขอบคุณค่ะพี่ชาย!”
กมลดีใจกระโดดโลดเต้น
“หม่ามี้ เมื่อไหร่พวกเราจะได้เจอพี่ชาย หนูก็อยากจูบพี่ชายเหมือนกัน”
ประโยคนี้ทำให้นรมนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เพียงแค่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม:“เดี๋ยวก็ได้เจอค่ะ”
กิจจาก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่กลับจูงมือของกมลและกล่าวว่า:“กมล พวกเราไปเล่นหมากรุกกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...