บทที่ 645 ปัญญ์เป็นเด็กผู้ชายที่ไม่เลว
“ระวัง!”
บอดี้การ์ดด้านหลังรีบเดินมาข้างหน้าขวางเอาไว้
นรมนไม่ได้หลบ เห็นแจกันตรงหน้าเขวี้ยงมาที่ตน เมื่อมันเข้าใกล้หน้าประตูก็ยื่นมือจับมันไว้
“ผมบอกว่าผมไม่ต้องการให้พวกคุณอยู่ที่นี่!”
กานต์ไม่ได้เห็นคนที่มา คิดว่าเป็นบอดี้การ์ดตระกูลโตเล็ก จึงอารมณ์ร้อนทันที
เขาต้องการหาหม่ามี้ แต่เพราะเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตอนนี้นอนบนเตียงขยับไปไหนไม่ได้ ความรู้สึกนี้มันแย่จริงๆ
หม่ามี้เกิดเรื่องแล้ว แต่คุณบุริศร์ไม่ได้ปกป้องหม่ามี้ให้ดี ตอนนี้แม้แต่คุณบุริศร์เขาก็ไม่อยากเจอ
อาการคลั่งไคล้ของกานต์ทำให้นรมนเสียใจเล็กน้อย
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยเห็นกานต์มีสภาพนี้มาก่อนเลย
ลูกชายที่สุขุมฉลาด กลายเป็นเด็กผู้ชายที่ฉุนเฉียวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
นรมนรีบเดินไปข้างหน้า กอดเขาไว้แน่น
“ปล่อยผม! ปล่อย!”
กานต์ดิ้น แต่จู่ๆ ก็สงบลง
เขาปล่อยให้นรมนกอดตัวเองโดยไม่ขยับไปไหน จากนั้นก็หันศีรษะกลับมาเบาๆ มองนรมน ตาแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้
“หม่ามี้!”
กานต์พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนเธอทันที
ของเหลวอุ่นซึมเข้าไปในเสื้อนรมน เผาไหม้ผิวของเธอ
หัวใจเธอเจ็บมาก
ตอนแรกคิดว่ากานต์อยู่ที่ตระกูลโตเล็กจะได้ค่าตอบแทนที่ดีที่สุด อย่างไรแล้วเขาก็เป็นผู้สืบทอดที่คุณนายตระกูลโตเล็กกำหนดไว้ แต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะกลายเป็นแบบนี้
ถ้ารู้ตั้งนานแล้ว ถ้า……
ทันใดนั้นนรมนก็ชะงักไป
บนโลกใบนี้มันจะมีคำว่าถ้าเยอะขนาดนั้นได้อย่างไร?
เธอกอดกานต์แน่น ต้องการปลอบเขาก็ทำไม่ได้
กานต์เห็นนรมนไม่ได้พูดอะไรอยู่ตลอด คิดว่านรมนโกรธตน ก็รีบพูดเสียงเบา “หม่ามี้ ไม่ใช่ผมเป็นเด็กดื้อนะ ขอโทษฮะที่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ แม่อย่าไปมองเฝือกผม จริงๆ มันไม่เจ็บเลย จริงๆ นะ ไม่เจ็บเลยสักนิด”
นรมนเครียดขึ้นมาอย่างแท้จริง
บาดเจ็บขนาดนั้น จะไม่เจ็บได้อย่างไร?
ลูกรักแค่ปลอบเธอเท่านั้น!
นอกจากนี้ยังอยู่คนเดียวในสถานที่แปลกๆ หนึ่งเดือน จะมีความรู้สึกอย่างไร?
เขาเป็นคุณชายของตระกูลโตเล็ก มีแด๊ดดี้ที่ทรงอำนาจ และมีหม่ามี้ แต่เขาถูกขังไว้ที่โรงพยาบาลเหมือนเด็กกำพร้า
กานต์ในตอนนั้นคิดอย่างไรกันแน่?
นรมนดวงตาชุ่มชื้นแล้ว
เธอส่ายหน้า รู้สึกว่าตัวเองควรขอโทษกานต์ แต่ตอนนี้เธอพูดไม่ได้
นรมนหาปากกาและกระดาษมาเขียนบนกระดาษว่า ขอโทษ ความผิดของหม่ามี้เอง หม่ามี้ทำให้หนูรู้สึกแย่
กานต์ตกตะลึง ไม่เข้าใจสถานการณ์โดยสิ้นเชิง
เขาแค่ได้ยินว่าหม่ามี้เกิดเรื่อง แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางเป็นห่วงและปวดใจของนรมน แต่กลับหากระดาษและปากกามาเขียน ราวกับเข้าใจอะไรบางอย่างเพียงชั่วข้ามคืน
“หม่ามี้ เสียงของหม่ามี้……”
นรมนยิ้มแล้วส่ายหน้า บ่งบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร
น้ำตากานต์ไหลออกมาอีกครั้ง
“หม่ามี้ เจ็บมากหรือเปล่า?”
กานต์ยื่นมือเล็กออกมาสัมผัสคอนรมน มันนุ่มนวลและมีความอบอุ่นเล็กน้อย
นรมนจับมือเขา ยิ้มแล้วส่ายหน้าอีกครั้ง
บุริศร์อยู่ตลอดเวลา เขารู้ว่านรมนจะมา
จริงๆ ตอนที่นรมนเข้ามาเขาก็รู้แล้ว แค่ไม่อยากออกไปปรากฏตัวต่อหน้านรมน เพื่อไม่ให้นรมนเห็นเขาแล้วรู้สึกแย่
ตอนนี้เห็นภาพอันอบอุ่นของนรมนและกานต์ เขาก็ยิ่งปวดใจรุนแรง
ครอบครัวเดิมที่สวยงาม ตอนนี้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เมื่อนึกถึงจุดจบแบบนี้ บุริศร์ก็รู้สึกแย่เหลือเกิน
กานต์และนรมนนอนบนเตียงเงียบๆ แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา หนึ่งเดือนกว่าของกานต์ นี่เป็นครั้งแรกที่นอนหลับอย่างสงบ
นรมนไม่ขยับ กลัวว่าจะทำให้กานต์ตื่น
เธอมองไปที่ลูกชายตัวเองเงียบๆ เห็นใบหน้าเล็กเยาว์วัยของเขากลายเป็นซีดเซียวเล็กน้อย เห็นหยดน้ำตาที่หางตาเขา ในใจก็โทษตัวเองและรู้สึกผิดตลอดเวลา
เธอไม่ใช่แม่ที่ดี
ตั้งแต่ลูกชายลูกสาวเกิดมา เธอไม่เคยให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับพวกเขาเลย ตอนนี้กว่าจะกลับมาได้ และให้พวกเขายอมรับบุริศร์พ่อคนนี้ แต่ตอนนี้เธอจะพาลูกๆ ออกมาจากตระกูลโตเล็กอีกครั้ง หนีบุริศร์อีกครั้ง กลายเป็นเด็กที่มีแม่เลี้ยงเดียว
นรมนไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องหย่าให้กานต์ฟังอย่างไรดี ยิ่งไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องความรู้สึกและความหมดหนทางระหว่างผู้ใหญ่อย่างไร บางคนบอกว่าอาจจะแต่งงานเพื่อลูก แต่นรมนรู้ว่า การแต่งงานของเธอและบุริศร์ไม่ได้ผล
ในอาณาจักรของความรักมันไม่ง่ายที่จะอุ้มทรายใดๆ ไว้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชีวิตคน
เธอแค่หวังว่าต่อไปจะมอบทุกอย่างของตัวเองให้ลูกๆ ทั้งหมด พยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้พวกเขามีปมด้อยของครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
นรมนลูบศีรษะเล็กของกานต์ ดึงผ้าห่มมาคลุมเขาเบาๆ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
เธอรู้ว่าบุริศร์ต้องอยู่แน่ๆ
เมื่อนรมนเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย บุริศร์ก็กำลังนั่งเก้าอี้ตรงทางเดินสูบบุหรี่
ไม่เจอกันเดือนกว่า บุริศร์เหมือนติดบุหรี่มาก ร่างกายมีแต่กลิ่นบุหรี่
จิตใจนรมนรู้สึกอึดอัดมาก เดินไปนั่งข้างๆ บุริศร์
บุริศร์ดับบุหรี่แทบจะด้วยจิตใต้สำนึก
“ขอโทษ!”
บุริศร์รู้ ตอนนี้พูดขอโทษนับไม่ถ้วนมันก็ไม่มีประโยชน์ แต่เขาก็ยังติดหนี้ขอโทษกับนรมน
คำอธิบายไม่สำคัญกับเธออีกต่อไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...