บทที่ 644 ฉันต้องการหย่า
นรมนยังไม่ค่อยสรุปข่าวนี้ได้นัก ตกตะลึงไปสักพักหนึ่ง หัวสมองเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างปิดกั้นไว้ มันไม่สามารถคิดได้ตามปกติ
ตั้งแต่ต้นจนจบคมทิพย์ไม่ได้ถามนรมนเลยว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ดังนั้นคำพูดของพฤกษ์เธอฟังรู้เรื่องแค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น
“นรมน เขาหมายความว่าไงอ่ะ?”
คมทิพย์มองนรมน นรมนกำสองมือแน่น เล็บจิกลงไปในเนื้อโดยไม่รู้ตัว
เธอเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว คว้าคอเสื้อพฤกษ์เอาไว้ ต้องการจะถาม ต้องการจะตะโกน ต้องการจะหาความยุติธรรม แต่ได้แค่อ้าปากจ้องมองพฤกษ์ เปล่งเสียงออกมาไม่ได้เลยแม้แต่ครึ่งคำ
ตอนนี้เธอกลายเป็นมีสภาพคนไม่ใช่คนผีไม่ใช่ผีเพราะคุณนายตระกูลโตเล็ก เดิมที คิดว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาติดหนี้ตระกูลโตเล็กหนึ่งชีวิต เธอก็อดทน สูญเสียคุณย่าไป เธอร้องไห้และโทษตัวเอง แต่ไม่ได้เกลียดชังตระกูลโตเล็ก แต่ตอนนี้เธอเกลียด!
เกลียดคุณนายตระกูลโตเล็ก เกลียดตระกูลโตเล็ก ยิ่งเกลียดตัวเอง!
พฤกษ์เห็นนรมนมีท่าทางสะเทือนใจแบบนี้ ก็รู้ว่าในใจนรมนคิดอย่างไร แต่เรื่องนี้ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรจริงๆ
เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “คุณนายตระกูลโตเล็กเสียชีวิตไปแล้ว ประธานบุริศร์กลับมารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ก็แบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดที่คุณได้รับให้คุณนายตระกูลโตเล็กได้ลิ้มรสด้วยตัวเอง จากนั้นประธานบุริศร์วางแผนว่าจะนำคุณนายตระกูลโตเล็กส่งไปยังสุสานตระกูลโตเล็กเพื่อปกป้องวิญญาณ รถระเบิดกลางทาง คุณนายตระกูลโตเล็กศพไม่เหลือกระดูก นี่อาจจะเป็นผลกรรมของเธอ ฉันรู้ว่าพูดแบบนี้คุณอาจจะคิดว่ามันง่ายเกินไป ทุกอย่างที่คุณนายตระกูลโตเล็กทำกับคุณและตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เธอตายได้เปรียบเกินไป แต่คุณนายครับ เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว คุณให้อภัยไม่ได้จริงๆ เหรอ? ประธานบุริศร์เอาแต่โทษตัวเองจนเป็นบ้ามามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เขาอยากย้อนเวลากลับไปมาก ให้ทุกอย่างมันไม่เกิดขึ้น คุณ……”
นรมนผลักพฤกษ์ออก
เธอจับคอเสื้อตัวเองแล้วร้องตะโกน ใช้แรงทั้งหมดในร่างกายร้องตะโกน เสียงตะโกนไม่มีเสียง หน้าแดงไปหมด สภาพเหมือนจะทำทุกวิถีทางเพื่อเปล่งออกมาพยางค์เดียว และมันทำร้ายจิตใจของพฤกษ์และทุกคน
“นรมน คุณอย่าทำแบบนี้!”
คมทิพย์เดินไปข้างหน้ากอดนรมนไว้
แต่นรมนเหมือนไม่ได้ยิน ตะโกนอย่างไร้เสียงต่อไป
คมทิพย์โกรธแล้วไปลงที่พฤกษ์โดยตรง
“นายออกไปเลย! นายกับบุริศร์ไม่อยากเห็นนรมนใช้ชีวิตดีๆ ใช่ไหม? พวกนายคิดจะทำอะไร? นายเชื่อไหมว่าฉันสามารถไปจุดไฟเผาที่อยู่อาศัยพวกนายได้?”
พฤกษ์รู้ว่าคมทิพย์สามารถทำมันได้จริงๆ
เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “คุณนาย ฉันรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันโหดร้ายกับคุณมากเกินไป ถ้าคุณอยากตัดความสัมพันธ์กับตระกูลโตเล็กอย่างเด็ดขาดจริงๆ ถ้าคุณไม่ต้องการให้โอกาสใดๆ กับประธานบุริศร์แล้วจริงๆ งั้นคุณก็เซ็นสัญญา รับค่าอุปการะเลี้ยงดูหลังจากหย่า ประธานบุริศร์บอกว่าเงื่อนไขอะไรก็ตอบตกลงคุณทั้งหมด จริงสิ สัญญาหย่าใบนั้นประธานบุริศร์ฉีกมันทิ้ง จนถึงตอนนี้พวกคุณยังเป็นสามีภรรยากันอยู่”
นรมนได้ยินเรื่องพวกนี้ ในที่สุดก็สงบลง แต่แววตายังมีความเจ็บปวดเล็กน้อย
สามีภรรยา?
บนโลกใบนี้มีสามีภรรยาแบบพวกเขาไหม?
ว่ากันว่าการแต่งงานคือจุดจบที่งดงามที่สุดของความรัก ทำไมเธอไม่เห็นความงดงามใดๆ เลย?
บางทีชีวิตนี้คงไม่มีโชคชะตากับบุริศร์จริงๆ
นรมนยิ่งรู้ความจริงมากเท่าไร ก็ยิ่งเสียใจจนอยากตายมากเท่านั้น
เธอไม่มีทางให้อภัยคุณนายตระกูลโตเล็ก และไม่มีทางเหยียบเข้าไปในตระกูลโตเล็ก!
ยิ่งไม่สามารถมีชีวิตกับบุริศร์ได้อย่างไม่มีความขุ่นเคืองใจ
ระหว่างพวกเขามันเดินต่อไปไม่ได้จริงๆ
นรมนยืนขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดอันไม่มีสิ้นสุดในใจ มองพฤกษ์แล้วถามด้วยท่าทาง “ฉันเซ็นสัญญาแล้วบุริศร์จะตกลงฉันทุกอย่างใช่ไหม?”
คมทิพย์แปล
“ครับ! ประธานบุริศร์พูดแบบนี้ เขาบอกว่าถึงคุณอยากให้เขาชดใช้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาด้วยชีวิต เขาก็ไม่บ่นเลย”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้นรมนหัวเราะขมขื่น
เธอจะเอาชีวิตบุริศร์ไปทำไม?
เธอรักเขาขนาดนั้น รักจนเข้ากระดูก รักอยู่ในสายเลือด ชีวิตนี้ไม่อาจกำจัดทิ้งได้
ถ้าต้องการชีวิตบุริศร์ สู้ให้ตัวเองตายดีกว่า อย่างไรแล้วมันเป็นเพราะเธอ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็เลยตอบตกลงเงื่อนไขคุณนายตระกูลโตเล็กไม่ใช่เหรอ?
เธอยิ่งคิดยิ่งเสียใจ ทนไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ
เธอพิงไหล่คมทิพย์ รู้สึกว่าตัวเองต้องการคนค้ำไว้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่สามารถทนต่อไปได้
“โอเค ฉันจะเซ็น”
นรมนแสดงความต้องการของตนออกมา รับปากกาจากในมือพฤกษ์ เซ็นชื่อตัวเองในสัญญามอบทรัพย์สินให้
พฤกษ์เห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง
บุริศร์ทำแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าถูกหรือไม่
พฤกษ์ไม่เข้าใจบุริศร์
บุริศร์สูญเสียนรมน ก็เหมือนดอกไม้สูญเสียแสงอาทิตย์ ทั้งร่างทรุดโทรม ตอนนี้กว่าจะหาเจอ เขาคิดว่าบุริศร์จะตามนรมนกลับไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่คิดว่าบุริศร์จะพูดว่า บางครั้งการรักใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องครอบครอง แค่ให้เธอมีความสุขก็พอ แม้จะไม่อยู่ด้วยกัน?
พฤกษ์ไม่เข้าใจ
รักใครสักคน แต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ความรักแบบนี้มันหนักอึ้งเกินไป เสียใจเกินไป อย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ
แต่เขาไม่สามารถคัดค้านความต้องการของบุริศร์ได้
เห็นนรมนเซ็นชื่อตัวเองลงไปแล้ว จากนั้นหลังจากโยนเอกสารให้เขา สีหน้านรมนก็ซีดเป็นสีเทาเหมือนคนตาย
เธอทำท่าทางพูดขึ้น “ฉันต้องการหย่า! ไปหย่าที่สำนักทะเบียนอย่างจริงจัง! ฉันต้องการสิทธิ์เลี้ยงดูลูกสองคนด้วย รวมถึงสิทธิ์เลี้ยงดูกิจจา และชีวิตนี้ฉันไม่อยากให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉัน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาและตระกูลโตเล็ก บอกบุริศร์ด้วยว่าอย่ามาตามฉันอีก และอย่าปรากฏตัวต่อสายตาฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะขอทุกอย่างกับตระกูลโตเล็ก”
พฤกษ์พยักหน้า จากนั้นก็เก็บสัญญามอบทรัพย์สินให้เรียบร้อย
นรมนพูดอีกครั้ง “ตอนนี้ฉันไปเจอลูกชายฉันได้หรือยัง?”
“ได้ครับ! รถฉันอยู่ด้านนอก ฉันจะพาคุณนายไป”
“ไม่ต้อง!”
นรมนปฏิเสธคำเชิญของพฤกษ์ทันที
เธอหันตัวขึ้นข้างบนไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...