บทที่ 225 แท้จริงแล้วใครวางแผนใส่ใครกันแน่?
คนๆนี้ก้มหน้ามาตลอด สวมใส่หมวกแก๊ป มองดูแล้วมีท่าทางน่าสงสัยอย่างยิ่ง
หัวใจของนรมนเต้นแรงขึ้นอย่างฉับพลัน ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งรู้สึกตึงเครียด เมื่อคนๆนั้นกำลังจะเดินเฉียดไหล่เธอไป นรมนก็คว้าแขนของเธอเอาไว้อย่างกะทันหัน
“เธอเป็นใครกันแน่?”
เธอใช้พละกำลังอย่างมาก แม้แต่กระดานวาดภาพสุดที่รักตกลงบนพื้นก็ไม่ทันได้เก็บ เกรงว่าคนตรงหน้าจะหนีไป ใช้สองมือคว้าแขนของคนๆนั้น
“เธอเป็นบ้าหรือไง?”
คนๆนั้นเงยหน้าขึ้นทันที กลับทำให้นรมนตกใจ ปล่อยเขาออกอย่างไม่รู้ตัว
ผู้หญิงคนนั้นมีรอยไหม้บริเวณใบหน้าและดวงตา ตอนนี้ถูกนรมนมาขวางเอาไว้อย่างไม่มีเหตุผล สีหน้าจึงยิ่งดูไม่ได้
“ฉันรู้จักเธอหรือไง?เธอมาขวางฉันไว้ทำไม?”
อีกฝ่ายมีท่าทางดุดัน เหมือนผู้หญิงอารมณ์ร้าย นรมนตกใจถอยหลังออกมาสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับขมวดคิ้วและถามว่า:“ลักพาตัวพ่อแม่ของฉันไปหรือเปล่า?”
“ประสาท”
อีกฝ่ายได้ยินนรมนถามเช่นนี้ จึงด่าด้วยความโมโหและหันตัวเดินจากไป
นรมนคิดจะเข้าไปขวางผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง กลับไม่ได้ลงมือทำ เอาแต่เดินตามด้านหลังเธอ
หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจ สีหน้าไม่ดีอย่างยิ่ง แม้แต่น้ำเสียงยังมีความดุร้าย
“เธอต้องการอะไรกันแน่?”
“พ่อแม่ของฉันอยู่ที่ไหน?เธอต้องการทำอะไร?เป้าหมายของเธอคืออะไรเธอมาลงที่ฉันสิ ปล่อยพ่อกับแม่ของฉันนะ!”
นรมนค่อนข้างร้อนใจ
หญิงสาวชะงักงัน ถอยหลังออกจากนรมนด้วยความโกรธมาก
“เธอเป็นโรคประสาทหรือเปล่า? ฉันไม่รู้จักเธอ จะไปยุ่งกับพ่อแม่เธอได้อย่างไร?เธอเป็นคนบ้ามาจากที่ไหนเนี่ย?สถานพักฟื้นมีคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เธออย่าไปนะ!เอาพ่อแม่ของฉันคืนมา!”
นรมนมั่นใจว่าคนๆนี้ลักพาตัวพ่อแม่ของเธอ แม้แต่คนที่เฝ้าติดตามเธอในความมืด เธอจึงพุ่งเข้าใส่อย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กอดผู้หญิงคนนั้นเอาไว้อย่างเด็ดเดี่ยว
ผู้หญิงคนนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกนรมนพุ่งใส่จนล้มลงบนพื้น หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดไปทั้งตัว
“เธอไปให้พ้น!ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าเธอยังไม่ลุกขึ้นอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจกับเธอ!”
หญิงสาวตะโกนหยาบคายเสียงดัง แต่กลับไม่ได้ลงมือกับนรมน
ตอนนี้นรมนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ต้องการกอดคนตรงหน้าแน่นๆ และได้รับเบาะแสของพ่อแม่ไปพร้อมๆกัน
หญิงสาวถูกเธอรัดแน่นจนเจ็บไปหมด จำต้องร้องตะโกนออกมา
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย !เอาคนบ้าออกไปจากฉันที!”
บอดี้การ์ดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงจึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
นรมนยังคงไม่ปล่อยมือ กล่าวอย่างเย็นชา:“วันนี้เธออย่าคิดหนี ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าไม่บอกว่าพ่อแม่ฉันอยู่ที่ไหน ฉันกับเธอไม่มีทางจบ!”
หญิงสาวรู้สึกหมดหนทาง
“พี่สาว คุณผู้หญิง ฉันไม่สนใจว่าเธอจะเป็นโรคประสาทหรือเปล่า แต่ฉันไม่รู้จักพ่อแม่ของเธอจริงๆ ตอนนี้เธอปล่อยฉันออกได้ไหม ตอนนี้ภาพที่เธอโผเข้ามาล้มลงบนตัวของฉันมันน่าเกลียดจริงๆ คนอื่นจะคิดไปไกลได้นะ”
นรมนกลับไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจความหมายของคำพูดจากหญิงสาว
บอดี้การ์ดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยมาถึงพร้อมกัน แต่เมื่อพวกเขามองเห็นผู้หญิงสองคนบนพื้น ท่าทีกลับไม่เหมือนกันอย่างยิ่ง
“ปล่อยคุณนายของพวกเรานะ!”
นี่คือเสียงบอดี้การ์ดของบุริศร์
“ปล่อยคุณผู้หญิงของพวกเรานะ!”
นี่คือเสียงพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานพักฟื้น
เสียงดังขึ้นพร้อมกันและเงียบลงพร้อมกัน เพียงแต่นรมนกับผู้หญิงคนนั้นได้ยินอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายพูดอะไร?
“คุณนายของพวกคุณ? เธอไม่ใช่คนบ้าหรอกหรือ?”
หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ
นรมนก็มึนงง
“คุณผู้หญิงของพวกคุณ? คุณผู้หญิงอะไร?”
สีหน้าของหญิงสาวมืดมนลงทันที
“ฉันเป็นคุณผู้หญิงแล้วจะทำไม”
หญิงสาวโมโหเหลือเกิน พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดออกมา แต่นรมนไม่ยอมปล่อยมือ บังคับให้เธอพูดออกมา
หญิงสาวไม่กล้าขยับตัว
เธอพบว่านรมนจริงจัง หากเธอใช้แรงดิ้นให้ตนเองหลุดออกมาได้ เกรงว่าคงจะชอกช้ำไปทั้งร่างกาย
ผู้หญิงตรงหน้าถึงแม้จะดูอ่อนแอ แต่ก็ทำให้คนค่อนข้างกลัวสุดขีดจริงๆ
“เฮ้ ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันเป็นลูกสาวของประธานสถานพักฟื้นที่นี่ เธอปล่อยฉันออกก่อนได้ไหม?มีเรื่องอะไรพวกเราค่อยๆคุยกัน?”
หญิงสาวลองทำท่าทางผ่อนคลายลง
แต่นรมนกลับไม่ปล่อยมือ
“ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอพูดความจริง?”
“พวกเขาสามารถยืนยันได้”
หญิงสาวจนปัญญา ชี้ไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยเหล่านั้น
พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานพักฟื้นต่างรีบพยักหน้า
“คุณนายบุริศร์ นี่คือคุณหนูของพวกเรา มีชื่อว่าตุลยา แน่นอนว่าเป็นคนของสถานพักฟื้นพวกเรา”
“แล้วไงต่อ?เธอแอบดูฉัน”
คำพูดของนรมนทำให้ตุลยาแทบจะกระอักเลือดออกมา
“พี่สาว ฉันยอมรับว่าพี่หน้าตาดีกว่าฉัน แต่พี่ไม่ใช่หนุ่มหล่อ และรสนิยมของฉันปกติมาก ฉันจะแอบดูพี่ทำไม?ฉันกำลังเดินอยู่ดีๆ พี่ก็พุ่งเข้ามาโอบมากอดฉันเอาไว้ แท้จริงแล้วใครวางแผนใส่ใครกันแน่?”
สีหน้าของนรมนดูไม่ได้เล็กน้อย รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอกอดเพศเดียวกันต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ แต่เธอไม่ยอมปล่อยมือ
“อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้ว่าเป็นเธอ ในสถานที่พักฟื้นแห่งนี้นอกจากเธอ คนอื่นฉันเคยเจอหมดแล้ว แต่ตั้งแต่พ่อแม่ของฉันหายตัวไป เธอมักจะส่งข้อความหาฉัน รู้ทุกการเคลื่อนไหวของฉัน ตอนนี้ยิ่งปรากฏตัวหลบๆซ่อนๆ ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร?”
“เฮ้ๆๆ ฉันหลบๆซ่อนๆหมายความว่าอะไร?ฉันหลบๆซ่อนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?สถานพักฟื้นนี้คือบ้านของฉัน ฉันจะไปเดินขวางเธอทำไม?”
ตุลยารู้สึกไม่ชอบใจ
ในขณะนี้บอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กเริ่มจับใจความได้ จึงก้าวขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจ
“คุณนายครับ คุณตุลยาท่านนี้อยู่ในสถานพักฟื้นมาตลอด เพียงแต่ใบหน้ามีแผลไฟไหม้ ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ออกมาจากห้อง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...