"ไม่ได้ตื่นเต้นนะ ข้าก็แค่รู้สึกว่ามันน่าขำเกินไปก็เท่านั้น" นางกับผู้ชายมั่วสุมกันอาจจะมีความเป็นไปได้อยู่นิดๆ แต่ร่างเดิมของร่างกายนี้เป็นเด็กสาวที่กตัญญูขนาดนั้นเป็นเด็กดีเชื่อฟังขนาดนั้นอ่อนแอเสียขนาดนั้น พวกเขายังมาทำลายชื่อเสียงของนางเช่นนี้อีก
นี่มันช่างไร้ยางเกินไปแล้ว!
"พี่ ข่าวลือพวกนี้น่าจะแพร่ออกมาจากตระกูลซุนใช่ไหม?"
"ข้าก็ถามป้าหลิวดูแล้ว นางบอกว่าไม่ใช่ บอกว่าคนขายเนื้อเฉาของหมู่บ้านเซียงเหอเป็นคนพูด เจ้ารู้จักคนขายเนื้อเฉาใช่ไหม? ก็คือว่าที่พ่อตาของซุนซวี่ในอนาคต"
เหมิงเชียนเหยียนพยักหน้า "ข้าจำได้คลับคล้ายคลับคลาอยู่ ดูเหมือนจะเคยได้ยินใครพูดมาก่อน เป็นเพราะตระกูลซุนจับคนขายเนื้อเฉาได้ไม่ใช่หรือ ถึงได้จงใจตั้งเงื่อนไขเข้มงวดเกินไปกับข้า สุดท้ายก็ยกเลิกการแต่งงานไป"
"ใช่ๆ มันคือเช่นนี้แหละ! แต่ว่าเชียนเหยียน คนขายเนื้อเฉาคนนี้ไม่ใช่จะไปยั่วยุได้ง่ายๆ หลายปีมานี้การฆ่าหมูเชือดแกะในเมืองอาศัยแค่คนขายเนื้อเฉาคนนี้ ว่ากันว่าเขากล้าหาญมาก แม้แต่ชายฉกรรจ์สามคนเล่นมวยปล้ำกับเขา ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย"
"เช่นนั้นเรื่องนี้จะทำอย่างไรเดี" สวีเจินลุกขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นตระหนก "เชียนเหยียนของเรายังไม่ได้หมั้นหมายกับใครเลย ก็มีข่าวลือเช่นนี้แพร่สะบัดออกมา แล้วอนาคต จะให้นางแต่งงานได้อย่างไร"
เหมิงเชียนเหยียนกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ากลัวขนาดนั้น แต่ว่าสวีเจินที่ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทยุคโบราณเช่นนี้กลับรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ร้องไห้จนแม้แต่ปลายนิ้วก็ยังสั่นเทาไปด้วย
สวีเจินปฏิบัติต่อนางดีขนาดนี้ ตอนนี้กลับร้องไห้ขนาดนี้ จะให้นางไม่ปวดใจได้อย่างไรกัน
"ถ้าอย่างไร พวกเราไปคุยกับคนขายเนื้อเฉาดูกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่า คนขายเนื้อเฉานั่นก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผลสักทีเดียว" สวีเจินที่นิ่งเงียบมาตลอดพยักหน้าซ้ำๆ "ใช่แล้วใช่แล้ว คุณพี่เราไปคุยกันเถอะ เชียนเหยียน เจ้าคิดว่าอย่างไร?"
เหมิงเชียนเหยียนขมวดคิ้ว ในดวงตาสีดำสดใสมีประกายแสงสลัวแวบผ่าน นางหยุดคำพูดของสวีเจินเอาไว้อย่างเด็ดขาด "ข้าคิดว่า ไม่มีความจำเป็นนี้"
"เพราะอะไร?"
"พวกท่านลองคิดดู เหตุผลที่ตระกูลเฉาปล่อยข่าวลือเช่นนี้ออกมา มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่งคือรู้สึกขุ่นเคืองในความสัมพันธ์ของข้ากับซุนซวี่ในอดีตก็เลยจงใจทำ อีกหนึ่งก็คือครั้งก่อนซุนซวี่ถูกข้าด่ารู้สึกเจ็บแค้นในใจและไปที่บ้านคนขายเนื้อเฉา คนขายเนื้อเฉาเข้าข้างลูกเขยไปชั่วขณะ ดังนั้นก็เลยปล่อยข่าวลือเช่นนี้ออกมา แต่ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แพร่ออกมาแล้วก็คือแพร่ออกมาแล้ว แพร่ออกมาแล้วก็คือความผิด เมื่อทำความผิดข้าก็ต้องให้พวกเขาชดใช้พร้อมกัน" เหมิงเชียนเหยียนมองดูคราบน้ำตาบนใบหน้าของสวีเจิน น้ำเสียงเย็นชาเคร่งขรึมไม่อนุญาตให้ใครพูดแทรก
เหมิงฉวนรู้สึกกังวลในใจ "เชียนเหยียน คนขายเนื้อเฉาคนนั้นไม่ได้ต่อกรด้วยง่ายๆ เขายังมีลูกชายสามคน----"
"ถึงเขาจะมีลูกชายแปดคนก็ไม่มีประโยชน์!"
"เช่นนั้นเจ้าเจ้าคิดจะทำอย่างไร?" เหมิงเชียนเถากัดฟันแล้วถามออกไป
เหมิงเชียนเหยียนกล่าวว่า: "ควรจะกินก็กินควรจะนอนก็นอน ควรจะล่าสัตว์ก็ล่าสัตว์ พี่แค่ต้องขอให้ป้าหลิวช่วยเราสอบถามวันแต่งงานของซุนซวี่กันลูกสาวตระกูลเฉาก็พอแล้ว ข้าคิดว่า ตระกูลเฉายอมออกหน้าให้ เช่นนั้นคงห่างจากวันแต่งงานไม่ไกลแล้วแน่นอน"
เหอะๆ ซุนซวี่ เจ้ามันแน่ ถึงกับอยากจะให้ข้าถูกคนติฉินนินทาไปตลอด ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รอกลายเป็นตัวตลกของคนทั่วทั้งเมืองไป่ฮวาแล้วกัน!
ในเวลาต่อมา ครอบครัวเหมิงฉวนสี่คน ล้วนอยู่กันแต่ในบ้านไม่ค่อยได้ออกไป และเวลาที่เหมิงเชียนเหยียนไปเขาซวงเฟิงก็เปลี่ยนเป็นตอนเช้าตรู่หรือไม่ก็กลางคืน ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการซุบซิบที่ไม่จำเป็นพวกนั้นออกไป
ไม่ออกไปวิ่งเล่น ตั้งใจหาเงิน ภายในระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงหนึ่งเดือน เหมิงเชียนเหยียนก็หาเงินได้หนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงเต็มๆแล้ว
ตระกูลหลิวข้างบ้านเคยได้รับความช่วยเหลือจากเหมิงเชียนเหยียน ดังนั้นจึงยังดีต่อตระกูลเหมิงมาโดยตลอด และหลังจากการสอบถามหลายครั้งของป้าหลิว ก็ยืนยันวันแต่งงานของซุนซวี่แล้วเช่นกัน ก็คือวันแปดเดือนห้า
วันที่แปดเดือนห้าวันนี้ ก่อนที่ฟ้าจะสาง ก็มีเสียงประทัดที่ดังมาแต่ไกลจากหมู่บ้านข้างเคียงมาถึงหมู่บ้านหลี่ฮวา เหมิงเชียนเหยียนได้ยินเสียงนี้ ก็ค่อยๆลุกขึ้นมา
เหมิงเชียนเถาก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน จับแขนของนางเอาไว้ "เชียนเหยียน ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะทำอะไร ข้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเจ้า ข้าอยากไปกับเจ้าด้วย"
"ไม่ต้อง" เหมิงเชียนเหยียนกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ "วางใจเถอะพี่ ข้าไม่เป็นไรหรอกน่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หนูชาวนาจอมแสบ
เรื่องนี้จะมีตอนใหม่มาเมื่อไหร่หรออะคะ...