บทที่ 1305 ซวยฉันอีก
“อาจารย์หลี่ ไม่ได้เจอกันหลายปี ตอนนี้แม้แต่เสียงฉันก็จำไม่ได้แล้วเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“ไม่ได้เจอกันหลายปี…หรือว่า…เธอคือ…หะ…หัวหน้าไป๋เฟิ่ง!” ชายชราพูดอย่างไม่อยากเชื่อ
“หึ…ดูเหมือนสมองอาจารย์หลี่ยังไม่เลอะเลือน ในเมื่อสมองยังปกติดี ทำไมถึงได้ทำเรื่องเลอะเลือนอย่างนี้ได้ล่ะ” เสียงของเยี่ยหวันหวั่นเข้มขึ้น
“ท่านหัวหน้า…หัวหน้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนบอกว่าตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ…ไม่สิๆๆ เรื่องนี้ มีอะไรเข้าใจผิดกันนิดหน่อย…ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ” เสียงของชายชราสั่นเล็กน้อย
“อาจารย์หลี่ คงไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรมาก คุณเป็นจิตกรมีชื่อ เวลาวาดรูปก็ต้องวาดบนกระดาษ วาดด้วยมือ คุณว่าให้ฉันเป็นฝ่ายส่งกระดาษให้คุณดี หรือคุณจะเป็นฝ่ายส่งมือมาให้ฉัน?” เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียง
อาจารย์หลี่ได้ยินอย่างนั้นก็ตอบด้วยเสียงเหมือนจะร้องไห้ “อย่าๆๆ…ท่านหัวหน้า…คนใหญ่คนโตไม่ควรถือสาคนตัวเล็ก…ผมเสียมือไปไม่ได้เด็ดขาด…”
เป็นจิตกรจะไม่มีมือได้ยังไงกัน?
“ถ้าอย่างงั้นฉันจะให้คนส่งกระดาษไปให้ คงไม่มีปัญหาใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบอก
“ไม่มีๆๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่มีปัญหาเลย ยิ่งส่งมาเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี!” อาจารย์หลี่รีบบอก
“ดี” เอ่ยจบ เยี่ยหวันหวั่นก็วางสาย
ตอนนี้ ชีซิงจ้องเยี่ยหวันหวั่นนิ่ง นัยน์ตามีแววสงสัยพาดผ่าน
สไตล์การทำงานของผู้หญิงคนนี้…คล้ายกับหัวหน้ามากจริงๆ
“เชี่ย สมกับเป็นพี่เฟิง พูดแค่ไม่กี่ประโยคก็เอาอยู่แล้ว…ตาแก่นั่นถือดีว่ามีเส้นสายกับแก๊งศัตรูเรา เลยไม่เห็นหัวพันธมิตรอู๋เว่ยของเรา ตอนนี้คงกลัวแล้วล่ะสิ!” เป่ยโต่วยิ้มเยาะ
“หยุดพล่ามได้แล้ว ไปกินข้าว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยจบก็โยนมือถือให้ชีซิง
“พี่เฟิง พวกเราไปตำหนักเทียนเกอกันเถอะ ที่นั่นนำเข้าของสดมาเยอะมาก” เป่ยโต่วบอก
ชีซิงสายตาไหวระริก
“เอาสิ” ถึงเยี่ยหวันหวั่นจะไม่รู้ว่าตำหนักเทียนเกอคือที่ไหน แต่ก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นรู้
ไม่นาน ชีซิงกับเป่ยโต่วก็ออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยไปพร้อมกับเยี่ยหวันหวั่น พอชิวสุ่ยรู้ว่าพวกเขาจะไปตำหนักเทียนเกอ ก็โวยวายจะมาด้วยให้ได้ สุดท้ายเลยได้มาด้วยกันหมด
“เสี่ยงเฟิงเฟิง ไปตำหนักเทียนเกอแล้วพวกเราไปพนันกันซักยกไหม…แล้วก็มีดวลสัตว์ร้ายกับแข่งมวยใต้ดินอีก…ปกติเธอชอบไปมากไม่ใช่เหรอ?” ชิวสุ่ยควงแขนเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอก
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจได้แต่สบถเสียงดัง
เธอไม่รู้เรื่องการพนันเลยซักนิด แล้วก็ไม่รู้จักการดวลสัตว์ร้ายกับแข่งมวยใต้ดินด้วย…
แบดเจอร์นี่ยังไง ไม่ดูแลพันธมิตรอู๋เว่ยของตัวเองให้ดี วันๆ เอาแต่ทำอะไรเยอะแยะไปหมดก็ไม่รู้…เธอเลยต้องมาซวยอย่างงี้…
“เอาสิ มีเวลาก็ไปพนันกันซักสองยก กำลังคันมือพอดีเลย” เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุกเล็กน้อย
เวลานี้ถ้าบอกให้เธอเป็นซ่านไฉถงจื่อ[1]ก็คงต้องยอม…
“ฮี่ๆ มือของพี่เฟิงเป็นมือที่ผ่านการจุมพิตของเทวดามาแล้วเชียวนะ ชนะทุกการเดิมพัน แทบไม่เคยแพ้เลยซักครั้ง ทักษะการพนันเป็นยอด” เป่ยโต่วยิ้มบอก
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
แม่งเถอะ แบดเจอร์จะไม่ให้เธอมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? ทักษะการพนันเป็นยอดอะไรอีก นี่เจ๊แกเป็นนักต้มตุ๋นหรืออะไรยังไง?!
ดูเหมือน คงเป็นไปได้ยากถ้าเธอจะอยู่เฉยๆ ทำตัวเป็นซ่านไฉถงจื่อที่ใครเห็นใครก็รัก…
ไม่นาน ชีซิงก็ขับรถเข้ามาจอดใกล้ๆ คฤหาสน์หรูแห่งหนึ่ง ด้านบนคฤหาสน์มีป้าย “ตำหนักเทียนเกอ” ติดอยู่
โชคดีที่ตำหนักเทียนเกออะไรนี่ไม่ใช่ที่แปลกๆ เป็นแค่ที่กินข้าวธรรมดาๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น
เหมือนจะเป็นภัตตาคารที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในแถบนี้ วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารก็ค่อนข้างพิเศษ
————————————————————————————-
บทที่ 1306 สั่งมาที่หนึ่งไหม?
ตำหนักเทียนเกอมีทั้งหมดสี่ชั้น
คนธรรมดาในรัฐอิสระใช้บริการได้ที่ชั้นหนึ่งเท่านั้น
ผู้ฝึกวิทยายุทธกับทหารรับจ้างสามารถใช้บริการที่ชั้นสองได้
ส่วนคนที่สามารถขึ้นชั้นสามและชั้นสี่ได้ ต้องทั้งมีเงินและอำนาจ เป็นคนใหญ่คนโตเท่านั้น
พอเดินเข้ามาในตำหนักเทียนเกอ เยี่ยหวันหวั่นกวาดมองรอบๆ ต้องยอมรับว่าภัตตาคารแห่งนี้หรูหรามากจริงๆ หรือจะเรียกว่าหรูหราจนฟุ่มเฟือยเลยก็ว่าได้
“คุณชายเจ็ด…คุณชายเป่ย…คุณหนูชิว…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี