คำพูดของเยี่ยหวันหวั่นดูเหมือนกำลังปกป้องเฉินเมิ่งฉี ทว่ากลับผลักเธอเข้าสู่การวิพากย์วิจารณ์ของผู้คนอีกครั้ง
“ยัยตัวประหลาดนี่หน้าตาน่าเกลียดก็ช่างเถอะ กลัวว่าสมองคงไม่ได้มีปัญหาด้วยหรอกนะ? แม่แท้ๆ ของเขาพูดออกมาเองแล้วว่ามีหมั้นหมายต่อกันอยู่ เขายังคิดว่าเป็นความเข้าใจผิดอะไรอีก! นี่ไม่ใช่ชู้แล้วจะเรียกว่าอะไร?”
“ซ่งจื่อหางได้ทำลายสถิติความต่ำช้าของฉันแล้ว อาศัยการสนับสนุนจากตระกูลคู่หมั้น พลางคบชู้ต่อหน้าคู่หมั้นของตัวเองไปด้วย ที่บ้านกำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว ยังเที่ยวเล่นกับผู้หญิงอยู่ข้างนอก ทำเป็นหน้าใหญ่วางท่าคุณชายต่อหน้าคนอื่น”
เฉินเมิ่งฉีสะบัดออกอย่างแรง ไม่ทันหลุดจากมือของเยี่ยหวันหวั่น พลันถูกผู้คนที่รายล้อมอยู่ขวางทางเอาไว้ซะแล้ว
เวลานี้เธอได้แต่มึนงงไปหมดแล้ว อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ไปได้
เธอเป็นคนทะเยอทะยานใฝ่สูง เป้าหมายสูงสุดของใจที่ทะเยอทะยานคือซือเยี่นหาน แต่เธอเองรู้ดี ผู้ชายคนนั้นอยู่ห่างไกลเพียงใด ความเป็นไปได้ช่างริบหรี่ เธอไม่ทางโง่ถึงขั้นที่จะนั่งรอนอนรอเป้าหมายที่ได้เพียงมองแต่เอื้อมไม่ถึงอย่างแน่นอน
เธอเข้าใจข้อได้เปรียบของตัวเองดีเหลือเกิน ชายหนุ่มในวัยเรียนเช่นนี้หลอกล่อง่ายที่สุด ไม่เหมือนกับจิ้งจอกเฒ่าพวกนั้นที่เข้าสู่สังคมไปแล้ว
ในหมู่ผู้ชายรอบกายที่เธอสนใจเป็นพิเศษ มีเพียงคุณชายใหญ่ตระกูลเจิ้งที่เงื่อนไขดีที่สุด แต่โดยทั่วไปแล้วบรรดาทายาทเศรษฐีเหล่านี้ล้วนมีฐานะสูงส่ง ทว่าสิทธิเสียงในบ้านไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ต้องรอให้เขาสืบทอดกิจการ เป็นนายใหญ่ของตระกูล ซึ่งไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงปีไหน
เธอลองทดสอบแล้วหลายครั้ง หลังจากรู้ว่าเขาไม่สามารถให้สิ่งที่เธออยากได้ในตอนนี้ ก็ปฏิบัติตัวกับเขาเหมือนที่ปฏิบัติต่อคนอื่นเฉกเช่นเดียวกัน ยั่วให้พวกเขาอยาก มองเขาเป็นแผนสำรอง
แต่ว่าซ่งจื่อหางต่างออกไป เมื่อเขาเรียนจบก็เข้าบริษัทได้เลย อีกทั้งหลังจากการประมูลของรัฐบาลอันนั้นแล้ว ก็จะได้ผลกำไรและกระแสกองทุนเข้าบัญชีขนาดมหึมาในพริบตา
เดิมทีทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ตอนที่ออกเดทกันวันนี้ ซ่งจื่อหางสัญญากับเธอว่า รอให้เรียนจบก็จะเกลี้ยกล่อมให้พ่อของเขาลงทุนในภาพยนตร์ใหญ่มูลค่าร้อยกว่าล้าน โดยเลือกเธอเป็นนักแสดงนำหญิง นักแสดงดำชายและตัวละคนสำคัญก็กำหนดให้มาจากศิลปินนักแสดงบริษัทของพวกเขา
ถ้าหากเขาดึงเงินลงทุนมาได้มากขนาดนี้ ก็จะสามารถยืนในวงการบันเทิงได้อย่างมั่นคงทันที และสามารถสร้างเวทีให้กับบริษัทได้ด้วย
หลังจากการเดทจบลง ซ่งจื่อหางบอกว่าจะมาซ้อมใหญ่เป็นเพื่อนเธอ เธอตอบตกลงด้วยความยินดี อยากจะแสดงชัยชนะของตัวเองต่อหน้าเจียงเยียนหรานสักหน่อย
ใครจะไปรู้ว่า เมื่อเข้าประตูมา จะได้เห็นแม่ของซ่งจื่อหางยืนด่ากราดอยู่ในหอประชุม และยังพูดเรื่องการหมั้นหมายของเจียงเยียนหรานและซ่งจื่อหางออกมาด้วยตัวเองอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ คำพูดเมื่อครู่ของคุณแม่ซ่งหมายความว่าอย่างไร?
ไม่พูดถึงเรื่องที่ตระกูลซ่งไม่ชนะการประมูล ตอนนี้ยังถูกตระกูลเจียงบีบเสียจนถึงขั้นใกล้ล้มละลายอย่างนั้นเหรอ!?
ก่อนหน้านี้ซ่งจื่อหางยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจกับเธอว่าจะปั้นให้เธอเป็นดาราที่ฮอตที่สุด ยังบอกอีกว่าตระกูลเจียงไม่มีพวกเขาตระกูลซ่งไม่ได้ ไม่มีทางที่จะกล้าผิดใจกับพวกเขา!
คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการหลอกเธอ!
ผู้ชายที่เธอคัดเลือกอย่างดี กลับกำลังจะเหลือแต่ตัวไม่มีอะไรทั้งนั้น!
ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก เธอสู้ไปใช้สมองลงแรงทางเจิ้งปินยังจะดีเสียกว่า!
ได้ฟังคำพูดไม่น่าฟังของคนรอบข้าง เผชิญหน้ากับสายตาที่ยากจะเชื่อของเฉินเมิ่งฉี ใบหน้าของซ่งจื่อหางพลันซีดเผือด โมโหเสียจนแทบบ้า พุ่งไปที่ตรงห้นาแม่ตัวเองอย่างรวดเร็ว “แม่! บ้าไปแล้วเหรอ! แม่มาทำอะไรที่โรงเรียน?”
“แกยังจะมาถามฉันอีกเหรอ! ฉันขอถามแกหน่อย ที่พวกเขาพูดเป็นความจริงหรือเปล่า? แกคบหาผู้หญิงคนอื่นลับหลังเยียนหรานหรือเปล่า? เขาน่ะเหรอ?” สายตาของคุณแม่ซ่งราวกับลูกธนูแหลมยิงไปที่เฉินเมิ่งฉี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี