“ฉันบอกเขาไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล! ทำไมคุณพูดกับฉันแบบนี้? ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นพวกเราก็เลิกกันเถอะ!”
“ผม… ผมไม่ได้ไม่เชื่อคุณ! เมิ่งฉีคุณอย่าโกรธเลย! ผมเพียงแต่เกลียดที่นายซ่งจื่อหังนั่นมาตามตื๊อคุณไม่เลิก! รู้อยู้ว่าคุณมีแฟนแล้ว ยังจะตามตื๊ออยู่อีก คนแบบนี้น่ารำคาญจริง สักวันผมจะต้องเข้าไปอัดไอ้เด็กน้อยนั่นสักชุด!”
“คุณอย่าใจร้อนไป ยังไงเขาก็เป็นคนที่เยียนหรานชอบ ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่าง เขาตื๊อฉันแล้วยังไง คนที่ฉันชอบคือคุณนะ! คุณต่างหากที่เป็นแฟนฉัน! ฉย่าโกรธเลยได้ไหม?”
“งั้นจุ๊บผมหน่อย…”
…….
หลังจากนี้เป็นคำพูดพลอดรักกันของเฉินเมิ่งฉีและเจิ้งปิน เจิ้งปินยังคงเปิดต่ออย่างโอ้อวด
“ปิด! ปิด!” เฉินเมิ่งฉีได้ยินเสียงอีกก็แทบคลั่ง ตะโกนกรีดร้องจนแทบทรุด ต้องเจิ้งปิน “ทำไม! ทำไมคุณต้องอัดเสียง!”
เห็นท่าทางเฉินเมิ่งฉีผิดปกติ เจิ้งปินขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึมทันที “เมิ่งฉี คุณเป็นอะไร? ผมก็แค่ทนดูเขากลั่นแกล้งคุณต่อไปไม่ไหวแล้ว! ส่วนเรื่องอัดเสียง ที่จริง ผมอัดไว้ทุกครั้งที่เราคุยกัน ผมอยากจะฟังเสียงคุณ คุณบอกว่าไม่อยากจะให้กระทบกับการเรียน เลยไม่ยอมไปออกเดทกับผมบ่อยๆ ผมเลยต้องใช้วิธีนี้…”
เฉินเมิ่งฉียืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น รู้สึกโลกหมุนกลับตาลปัตร เธอไม่กล้ามองหน้าซ่งจื่อหังเลย แล้วยังมีสีหน้าของคนรอบด้านอีก
ส่วนเยี่ยหวั่นหวันได้ยินเสียงบันทึก เหมือนกับความมั่นใจยิ่งเพิ่มขึ้น มองซ่งจื่อหังอย่างสะใจแล้วพูด “ชายชั่ว! ตอนนี้นายยังมีอะไรจะพูดอีกไหม! ฉันรู้อยู่แล้ว เฉินเมิ่งฉีดีขนาดนี้จิตใจงามแบบนี้ จะรู้ได้ยังไงว่าเยียนหรานชอบนาย แล้วยังคบกับนายอีก! ที่แท้นายมันสารเลวคอยยุแยงตั้งแต่แรก! เฉินเมิ่งฉีมีแฟนแล้ว นายยังตื๊อไม่เลิก หน้าด้านเหลือเกิน!”
ซ่งจื่อหังได้ยินเสียงที่บันทึกนั้น สีหน้าก็บูดเบี้ยวจนแทบจะดุร้ายแล้ว ความโกรธทะลุจุดระเบิด เขากรอดฟัน ก้าวเข้าไปใกล้เฉินเมิ่งฉีด้วยความโกรธจัด “เฉินเมิ่งฉี! ผมตามตื๊อคุณ? ผมบังคับคุณ? ผมหน้าด้าน?
ตอนที่อยู่สวนสนุก ใครเป็นคนบอกก่อนว่ารู้สึกดีกับผม? ใครบอกว่าทุกครั้งที่เห็นผมกับเยียนหรานอยู่ด้วยกันราวกับมีมีดมากรีดหัวใจ? ใครให้สัญญากับผมว่าหลังเรียนจบจะคบกับผม! ใครเป็นฝ่ายจูบผมก่อน? แล้วทำไมถึงกลายเป็นผมบังคับคุณไปได้!
แล้วยังมีเรื่องคุณกับไอ้เด็กนี่อีก! คุณกับเด็กนี่คืออะไร? วันนั้นคุณตอบรับคำสารภาพของผมแล้ว ปรากฏว่าเมื่อคืนคุณยังคุยโทรศัพท์กับเขาทั้งคืน? คุณบอกว่าเขาต่างหากที่เป็นแฟนคุณ? แล้วผมล่ะ! ผมเป็นอะไร?”
ซ่งจื่อหังมือสั่นล้วงรูปสติกเกอร์เป็นกองออกมาจากกระเป๋า โยนใส่หน้าเฉินเมิ่งฉี
แต่ละใบ เป็นรูปของสองคนสวีทกัน ในรูปนั้นใบหน้าเฉินเมิ่งฉีอ่อนหวาน แต่ไม่มีท่าทางที่โดนบังคับเลยสักนิด
ซ่งจื่อหังพูดจบก็จับมือเฉินเมิ่งฉีไว้ บนนิ้วเธอเห็นได้ชัดว่ามีแหวนสีเงินอยู่ เป็นแหวนคู่กันกับซ่งจื่อหัง “ใครบังคับ? แหวนเธอ สร้อยคอ เสื้อผ้าชุดนี้! ผมเป็นคนซื้อให้ทั้งหมด!”
ตอนนี้เจิ้งปินอึ้งแล้ว “นี่! นี่เป็นไปไม่ได้! ฉันกับเฉินเมิ่งฉีคบกันตั้งแต่ครึ่งปีก่อนแล้ว!”
ต่อมา ทั้งสองก็ด่ากันไม่หยุด ด่ากันไปมา ในพริบตาก็ขุดเอาธาตุแท้ของเฉินเมิ่งฉีออกมาจนหมด
……………………………………………………….
บทที่ 166 เรือคว่ำ
แผนที่เฉินเมิ่งฉีวางไว้เป็นอย่างดี ตอนที่ซ่งจื่อหังสารภาพรักกับเธอ เธอไม่ได้ตอบกลับทันที ยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนต่อหน้าซ่งจื่อหังในที่ลับตาคน แต่อยู่ต่อหน้าเจิ้งปินกลับปฏิเสธ บอกว่าซ่งจื่อหังมาตามตื๊อเธอฝ่ายเดียว
เฉินเมิ่งฉีมั่นใจว่าตัวเองสามารถคุมทุกคนได้อยู่หมัด ใครจะคิดว่าสองคนนี้จะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งสองคนเจอหน้ากัน ต่างก็คุมเชิงกัน ทำให้ละครที่เธอแสดง คำโกหกทั้งหมดโดนเปิดโปงหมดเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี