“ฮา แค่กๆๆๆ…” สวี่อี้ที่อยู่หน้าประตูตกใจสำลักออกมา จนกลีบปอดเกือบจะหลุดออกมา
สุดยอด! เยี่ยหวั่นหวันคนนี้ กล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมาด้วย!
กล้าพูดว่าจะมีอะไรกับเจ้านายเขาต่อหน้าคำพูดแบบนี้ก็กล้าพูดออกมาได้!
เขาไม่กล้ามองสีหน้าเจ้านายตัวเองเลยจริงๆ!
เวลานี้ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เยี่ยหวั่นหวันพูดอะไรที่น่าตกใจออกมาอีก สวี่อี้เลยรีบยื่นมือผลักประตูเปิดออก “คุณชายซือเซี่ย คุณ… คุณหนูเยี่ย…”
เยี่ยหวั่นหวันที่กำลังโมโหอยู่ได้ยินเสียงประตู ก็หลังแข็งทื่อขึ้นมาทันที
จากนั้น หันหน้าไปก็เห็นสวี่อี้ แล้วยังมีซือเยี่ยหาน…
ไอ้หยา!!!
เยี่ยหวั่นหวันมองใบหน้าภูเขาน้ำแข็งของซือเยี่ยหานที่ทำให้สิ่งมีชีวิตกลับตาลปัตรไปหมด รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเรือไททานิค ทั้งตัวเธอแข็งค้างอยู่อย่างนั้น
ในสมองเธอเต็มไปด้วยประโยคนั้นที่เมื่อกี้ตัวเองตะคอกออกไปด้วยความโกรธจัด “จะต้องให้ตอนนี้ฉันไปเรียกซือเยี่ยหานมามีอะไรกับเขาต่อหน้าคุณ” …
เมื่อกี้เสียงเธอดังขนาดนั้น ซือเยี่ยหานต้องได้ยินแน่นอน!
ศักดิ์ศรีของเธอ! ภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์ของเธอ! หมดกัน!
ในสมองเยี่ยหวั่นหวันมีเสียงหึ่งๆ ไปมา หน้ามืดตามัว ผ่านไปนานกว่าจะรู้สึกตัวจากการโจมตีอย่างรุนแรงนี้ เธอรีบพูดติดๆ ขัดๆ “ซือ… ซือเยี่ยหาน… คุณมาได้ยังไง… คุณมาเยี่ยมซือเซี่ยหรือ… เหอๆๆ… เมื่อ… เมื่อกี้ฉันแกล้งเด็กเล่นน่ะ… คุณอย่าถือสา… คนเขาไม่มีทาง ยังไงก็ไม่มีทางที่จะมีจิตใจคิดทรยศอย่างนั้น…”
ซือเยี่ยหานไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเธอด้วยสีหน้าที่ดูค่อนข้างประหลาด
เยี่ยหวั่นหวันโดนแววตาสองข้างของซือเยี่ยหานที่เย็นชาและลึกล้ำคู่นั้นจ้องมองอย่างเงียบๆ และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หนังศีรษะเธอเหน็บชาเป็นระยะ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จนบทที่เธอแทบจะทนไม่ไหวอยากจะพุ่งเข้าไปในวัดโกนหัวให้ล้านเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ในที่สุดริมฝีปากบางที่ไม่แยแสของผู้ชายตรงข้ามก็ค่อยๆ เปิดออก พูดมาหนึ่งประโยค “เซี่ยเซี่ยยังไม่บรรลุนิติภาวะ”
สีหน้าเยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป “คะ? หมาย… หมายความว่ายังไงคะ?”
เธอไม่เข้าใจที่จู่ๆ ซือเยี่ยหานก็พูดประโยคที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาหมายความว่ายังไง
ซือเยี่ยหานหลุบตา จัดแจงชายข้อมือ จากนั้นเหลือบมองเธออย่าสบายอารมณ์ “หมายความว่า ผมไม่สามารถทำตามความต้องการของคุณได้ชั่วคราว”
เยี่ยหวั่นหวัน “… !!!”
ฮา….
เยี่ยหวั่นหวันเกือบจะกระอักเลือดออกมาสามลิตร!
บ้าไปแล้ว! เพราะว่าซือเซี่ยยังไม่บรรลุนิติภาวะ เลยหมายความว่าไม่สามารถแสดงบทบาทต่อหน้าเขาได้ใช่ไหม?
แล้วถ้าซือเซี่ยบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือว่าก็สามารถทำอะไรๆ ต่อหน้าเขาได้ยังงั้นเหรอ! นี่มันไม่ถูกต้องตรงไหนนะ!
เธอยอมคุกเข่าให้กับตรรกะของซือเยี่ยหานเลย!
ที่สำคัญคือเขายังใช่น้ำเสียงจริงจังแบบนั้นพูดออกมาอีก…
ส่วนเวลานี้ซือเซี่ยที่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เยี่ยหวั่นหวันใช้หางตามองไปทางเขา เห็นเพียงสีหน้าของอีกฝ่ายเขียวคล้ำ มือสั่นค่อยๆ คลำหาเครื่องพ่นบนหัวเตียง
เด็กน้อยที่น่าสงสาร…
“ร่างกายเป็นยังไงบ้าง?” ซือเยี่ยหานพูดจบ ในที่สุดสายตาก็หันไปมองทางเด็กหนุ่มบนเตียงคนไข้
บนเตียงคนไข้ ซือเซี่ยฮึดฮัดเสียงเย็นชา “จอมปลอม!”
ซือเยี่ยหานไม่สนใจการกระทำของเด็กหนุ่ม ยังคงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย “ให้น้ำเกลือเสร็จแล้วให้สวี่อี้ไปส่งนายกลับไปพักผ่อนหลายวัน”
เยี่ยหวั่นหวันที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าเห็นด้วยติดต่อกัน “ใช่แล้วใช่แล้ว! เซี่ยเซี่ย ร่างกายคุณแย่มากเลย คุณอาสะใภ้ต้องเป็นห่วงมากแน่นอน คุณกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ!”
เด็กหนุ่มกุมหน้าอกอย่างยากลำบาก ใกล้จะโดนสองคนนี้ทำให้โมโหตายแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี