บทที่ 1971 นอนหลับอยู่ข้างๆ นายเหรอ?
วินาทีต่อมา ชิวสุ่ยก็โยนโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่นให้เป่ยโต่ว “อยากโทรนายก็โทรเองสิ ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายแบกความรับผิดชอบเอาเองนะ”
“ให้ตาย แบกก็แบก ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาฉันจะรับไว้เอง แต่ถ้าจะได้หน้า ฉันก็ได้คนเดียวนะ” จากนั้นเป่ยโต่วก็รับโทรศัพท์มา หลังจากบ่นพึมพำอยู่สองสามคำ เขาก็กดโทรวิดีโอคอลทันทีอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้นไม่นานก็โทรติด หลังจากเห็นใบหน้าของเป่ยโต่ว คิ้วของซือเยี่ยหานก็ขมวดแน่นขึ้นอีกครั้ง
“นายแห่งอาชูร่า คุณโทรหาผู้นำของเรามีธุระอะไรเหรอครับ? ผู้นำของพวกเรานอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเนี่ย” เป่ยโต่วบอกซือเยี่ยหาน
“นอนหลับอยู่ข้างๆ นายเหรอ” เมื่อได้ยินดังนั้น ก็มีแสงเย็นวาบปรากฏขึ้นในแววตาของซือเยี่ยหานครู่หนึ่ง
“ใช่ครับ นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเลยเนี่ย” เป่ยโต่วพยักหน้าหงึกๆ “คุณจะดูหน่อยไหม ผมโกหกคุณแล้วจะได้อะไร”
“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป่ยโต่วจะไม่ได้ยินที่ชายหนุ่มพูด จากนั้นเขาก็หันกล้องไปทางเยี่ยหวันหวั่น
เมื่อเห็นว่าในห้องเต็มไปด้วยผู้คน และเยี่ยหวันหวั่นก็นอนอยู่บนโซฟา สีหน้าของซือเยี่ยหานก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้นำไป๋”
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ซือเยี่ยหานจึงถามขึ้น
“ไม่มีอะไรครับ ผู้นำของพวกเราดื่มเหล้าไปนิดหน่อยก็คอพับแล้ว นายแห่งอาชูร่ามีเรื่องอะไรด่วนไหมครับ” เป่ยโต่วเอ่ยถาม
“อากาศเย็น ไปหาผ้าอะไรมาห่มให้เธอหน่อยสิ” ซือเยี่ยหานเลี่ยงที่จะตอบคำถามเป่ยโต่วโดยตรง
เมื่อได้ยินดังนั้น เป่ยโต่วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ครับ ดูเหมือนว่าผู้นำจะต้องนอนที่นี่ทั้งคืน…จะได้ไม่ต้องหนาวสั่น”
หลังจากที่เป่ยโต่วพูดจบ เขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้ชิวสุ่ย จากนั้นจึงไปหยิบผ้าห่มแล้วเดินไปที่โซฟา
“เอ๊ะ พี่เฟิง พี่ตื่นแล้วเหรอ?” เป่ยโต่วถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา
เมื่อสิ้นเสียงของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยกแขนขวาขึ้นเล็กน้อย จากนั้นทุกคนก็ได้ยินแค่เสียงดัง ‘ปั้ง’ โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นซัดกำปั้นเข้าที่จมูกของเป่ยโต่ว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเป่ยโต่วที่ดังเหมือนหมูถูกเชือด จากนั้นเป่ยโตวก็ปลิวออกไปพร้อมกับผ้าห่ม
“เปิดประตู ใครก็ได้ช่วยเปิดประตูให้ฉันที?!”
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ผู้อาวุโสสองตกใจมาก และรีบตะโกนไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสาม ต่างก็ถอยออกไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยหวังว่าจะอยู่ห่างจากเยี่ยหวันหวั่นหนึ่งแสนแปดหมื่นลี้ได้ยิ่งดี
อย่างไรก็ตาม ประตูได้ถูกล็อคเอาไว้ มีหลายคนอยากออกไป แต่ก็ไม่มีหนทางให้ออกไปได้ เว้นเสียแต่ว่าจะพังประตูเท่านั้น
“เหล่าชี เร็วเข้า รีบไปเอารีโมทมา!”
ตอนนี้ผู้อาวุโสสามมองไปยังชีซิงแล้วรีบออกคำสั่ง
เมื่อได้ยินดังนั้น ชีซิงจึงหันไปมองรีโมทที่วางอยู่ข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวทันทีโดยแทบจะไม่ต้องคิด พลางกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ไป”
ผู้อาวุโสสามพูดไม่ออก
“มา…ดื่ม!”
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเยี่ยหวันหวั่นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า จากนั้นหญิงสาวก็ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพอีกครั้ง
“โอ๊ย…”
เป่ยโต่วกุมจมูกของเขา จากนั้นก็รีบพยุงกายลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง เหล้าก็ดื่มหมดแล้ว พี่รีบเปิดประตูให้ผมออกไปเถอะนะ ให้ผมไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเถอะ พรุ่งนี้ผมจะมาดื่มเป็นเพื่อนพี่แน่”
เมื่อได้ยินเป่ยโต่วกล่าวดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มองไปยังตู้เก็บเหล้าที่อยู่ด้านข้างเธอด้วยความสงสัย มีเหล้ามากมายวางอยู่ในตู้เก็บเหล้าตู้นั้น
ทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนมุมปากของเยี่ยหวันหวั่น และยกนิ้วชี้ยื่นไปทางเป่ยโต่ว
เมื่อเห็นว่าเป่ยโต่วไม่หือไม่อือ ผู้อาวุโสสองก็รีบกล่าวอย่างร้อนรน “เป่ยโต่ว แกรีบไปสิ ผู้นำเรียกแกน่ะ!”
“ฉันไม่ไป ใครอยากไปก็ไปเองสิวะ!” เป่ยโต่วส่ายหน้ารัวๆ ทุกคนเห็นว่าเขาโง่เหรอไง เมื่อกี้เขาเพิ่งโดนต่อยไปเองนะ!
“มานี่”
เยี่ยหวันหวั่นออกคำสั่งด้วยสภาพเมามาย
————————————————————–
บทที่ 1972 รู้สึกเหมือนว่าคืนนี้จะถูกทุบตาย
“ผู้อาวุโสสาม นายก็ไปกับฉันสิ…” เป่ยโต่วมองไปยังผู้อาวุโสสามที่อยู่ด้านข้างทันที
“ไป!” ผู้อาวุโสสามกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี