บทที่ 1969 คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ
ทันทีที่เปิดประตู เป่ยโต่วก็รู้สึกสยดสยอง เมื่อเห็นว่าผู้นำของตัวเองกำลัง…ดื่มเหล้า!
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังกอดขวดเหล้าพลางโวยวาย ใบหน้าของเป่ยโต่วก็บิดเบี้ยวเหมือนภาพโมนาลิซ่าชื่อดังพลางตะโกนออกมา “พี่เฟิง!!! พระเจ้าช่วย! พี่…พี่…พี่…พี่กำลังทำอะไรของพี่เนี่ย?”
แทบทุกคนถอยหลังหลบไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
“เอะอะโวยวายอะไรกัน มานี่ มาดื่มเป็นเพื่อนฉัน คืนนี้…ไม่เมาไม่กลับ…”
คำขอที่ถึงแก่ชีวิตนี้ ทำให้เป่ยโต่วหน้าซีดเป็นไก่ต้ม “พี่เฟิง ผมต้องขอโทษจริงๆ แม่ผมป่วยนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ผมจะต้องไปดูแลแม่ที่โรงพยาบาลแล้ว!”
ผู้อาวุโสใหญ่รีบก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล “ผู้นำ สาขาทางภาคเหนือมีภารกิจสำคัญ ระยะทางไปแปดร้อยกิโล เขายังบอกให้ผมรีบไปด่วน ผมจะไปช่วยผู้นำสะสางปัญหานี้เอง!”
ผู้อาวุโสสามเหลือบมองผู้อาวุโสใหญ่ “ผู้นำ ภารกิจของผู้อาวุโสใหญ่สะสางเสร็จตั้งนานแล้ว แต่เรื่องของฉันยังไม่เรียบร้อยดี…”
“เสี่ยวเฟิง ฉันนัดคนไว้แล้ว ฉันก็ต้องไปแล้วละ…”
เยี่ยหวันหวั่นกดปุ่มสีดำปุ่มเล็กในมือเธอ วินาทีถัดมาก็มีเสียง ‘ปั้ง’ ดังสนั่นหวันไหวไปทั่วบริเวณ
ประตูถูกปิดสนิทโดยไม่เปิดโอกาสให้ใครหนี
“คืนนี้ใครไม่เมา ก็ไม่ต้องกลับ! นั่งลงให้หมด!”
“พี่เฟิง พี่ดื่มน้อยๆ…หน่อยสิ…เฮ้อ…” เป่ยโต่วพูดยังไม่ทันขาดคำ เยี่ยหวันหวั่นก็กระดกเหล้าลงไปครึ่งขวดแล้ว
เป่ยโต่วยกมือขึ้นมากุมใบหน้าของตัวเอง “บรรลัยแล้ว…ฉันกลัวว่าคืนนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว! เวรเอ๊ย ตอนนั้นที่มาติดตั้งประตู ทำไมฉันไม่แอบติดตั้งอันที่คุณภาพกากๆ หน่อยวะ!”
ตอนนี้ถูกล็อคไว้ข้างใน จะหนีออกไปไหนก็ไม่ได้
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นกระดกเหล้าขวดแล้วขวดเล่า ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความกลัวจนใจเต้นรัว
เป่ยโต่วเริ่มเขยิบตัวถอยมาไกลเรื่อยๆ จนมาถึงมุมใต้บันได จากนั้นก็ขดตัวเองจนกลมเหมือนลูกบอล
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นกระดกเหล้าขวดที่สาม ข้างกายของเป่ยโต่วก็มีลูกบอลเพิ่มขึ้นอีกสองลูก
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสอง ต่างก็พากันหลบเข้ามาในมุมโดยไม่รู้ตัว
“ทำ…จะทำยังไงดี?” เป่ยโต่วเริ่มลนลาน
“จะทำยังไงดีเหรอ! ก็ต้องรีบขึ้นไปห้ามสิวะ!” ผู้อาวุโสใหญ่ตอบเป่ยโต่ว
“งั้นจะให้ใครไปล่ะ?” ผู้อาวุโสสามถามแทรกขึ้นมา
ทันใดนั้นก็มีมวลแห่งความเงียบลอยอยู่ในอากาศ
“ผู้อาวุโสสามมีไหวพริบเป็นเลิศ ต้องทำงานสำคัญได้แน่!” ผู้อาวุโสใหญ่รีบเสนอ
“แล้วทำไมแกไม่ไปเองล่ะ? แกเก่งศิลปะการต่อสู้ด้วยนี่ แกนั้นแหละเหมาะสมกว่า!” ผู้อาวุโสสามตอบสวนในทันควัน
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามต่างก็จ้องหน้ากันไปมา สุดท้ายผู้อาวุโสใหญ่ก็มองไปทางเป่ยโต่ว “เป่ยโต่ว ฉันดูแล้วนายเหมาะสมที่สุด แกเป็นคนที่ผู้นำชอบมากที่สุดไม่ใช่เหรอ?”
“จริง!” ผู้อาวุโสสามรีบเสริมทัพ
“พวกนายมันไอ้แก่เฮงซวย! จะส่งให้ฉันไปตายหรือไงหา!?” เป่ยโต่วเอ่ยขึ้น
“ก็ผู้นำเชื่อใจนายมากที่สุด เอ็นดูนายมากที่สุดไง” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว
“ที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดมาก็มีเหตุผล…แม่ง ไม่ถูก พวกนายกำลังหลอกฉันอยู่…” ในที่สุดเป่ยโต่วก็รู้ทัน
……
ในมุมนั้น ทั้งสามคนต่างผลักกันไปผลักกันมา โรมรันกันอีรุงตุงนัง
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นหลังจากที่ซัดเหล้าไปสามขวด สมองก็เบลอไปแล้ว
การตอบสนองแรกของเธอคือ ควานหาโทรศัพท์แล้วเริ่มส่งข้อความ
ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เธอส่งข้อความไปหลายครั้ง แต่กลายเป็นการจมหินลงทะเลเหมือนเดิม
เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงกดโทรออก ปลายสายมีเสียงสัญญาณแต่ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งมันตัดสายไปโดยอัตโนมัติ
แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ยอมแพ้ เธอจิ้มโทรศัพท์อย่างแรงแล้วโทรออกต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครรับสาย…
ในตอนนี้ บรรดาคนที่กระจุกอยู่ในมุมต่างก็พากันทำหน้าสงสัย
เมื่อเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นกระหน่ำโทรหาใครสักคนอย่างบ้าคลั่ง ชิวสุ่ยก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย “เสี่ยวเฟิงโทรหาใครน่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี