บทที่ 2007 อยากได้มัน หรืออยากได้ฉัน
หญิงสาวอ้าแขนรอเขาราวกับนกน้อยสยายปีก ดวงตาเต็มไปด้วยความอยากอิงแอบพึ่งพา เพียงชั่วพริบตาเดียว ก็เพียงพอที่จะพังทลายกำแพงทั้งหมดของเขาได้แล้ว
วินาทีต่อมา ชายหนุ่มค่อยๆ ยื่นแขนออกไป โอบประคองสาวน้อยเข้าสู่อ้อมแขนอย่างแผ่วเบา…
เนื่องจากรัศมีของอีกฝ่ายข่มขวัญคนเกินไป ดังนั้นชาวพันธมิตรอู๋เว่ยต่างก็ลืมที่จะขัดขวาง ได้แต่เบิกตามองฉากที่เกิดขึ้นนี้…
ขอถามที...เกิดอะไรขึ้นกันแน่
นี่คือกระบวนยุทธ์โจมตีที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ใช่ไหม
ทันทีที่เข้าสู่อ้อมแขน เยี่ยหวันหวั่นเสมือนเรือลำน้อยกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ที่ในที่สุดก็ได้พบท่าเทียบแล้ว พลันซุกซบอย่างว่าง่าย
กลิ่นอายของหญิงสาวหลั่งไหลเข้าโอบล้อมตัวเอง ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายของเขา ม่านตาของซือเยี่ยหานจึงหดตัวลงเล็กน้อยแทบจะในทันที
ความจริงแล้ว ช่วงที่พิษกู่ออกฤทธิ์ มากสุดเขาก็แค่รู้สึกว่าคิดถึงเธอมากว่าปกติเท่านั้น
นอกจากนี้ก็ไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไร มีแค่เส้นสายสีแดงบนร่างกายเท่านั้นที่บ่งบอกถึงปฏิกิริยาที่แท้จริงของเขา
บางทีอาจเป็นเพราะว่า ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่พิษกู่ไม่ออกฤทธิ์ เขาก็ต้องการเธอมากอยู่แล้ว…
ซือเยี่ยหานมองสาวน้อยในอ้อมแขน แล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความจนปัญญา จากนั้นก็ค่อยๆ โน้มตัวลง ใช้แขนช้อนข้อพับเข่าของหญิงสาว คิดจะอุ้มเธอขึ้นมา
ผลคือ ไม่ขยับเลยสักนิด
หนักเกินไปแล้ว!
ซือเยี่ยหานมองก้อนหินที่อยู่ในมือของหญิงสาว หางตามีร่องรอยความหัวเสียอยู่เล็กน้อย “ปล่อยมือ”
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ส่ายหน้าไปตามสติที่หลงเหลืออยู่ “ไม่ได้ๆ นี่เป็นสมบัติน้อยอันล้ำค่าของฉัน มีค่ามีราคา ปล่อยไม่ได้…”
ซือเยี่ยหานเงียบไป
ในเวลานี้ สายตาของชีซิง เป่ยโต่ว ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยและเนี่ยอู๋หมิงรวมไปถึงหลินเชวียที่อยู่ด้านหลังล้วนมองไปที่ร่างของซือเยี่ยหานและเยี่ยหวันหวั่นทั้งสองคนอย่างทึ่มทื่อไปแล้ว
ซือเยี่ยหานเงียบไปหนึ่งวินาที จากนั้นถึงได้เอ่ยด้วยเสียงทุ้มลึกว่า “เธออยากได้มัน หรือว่าอยากได้ฉัน เลือกมาสักอย่าง”
‘ตุบ’ เยี่ยหวันหวั่นโยนศิลาจารึกทิ้งอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด แล้วกอดเอวซือเยี่ยหานเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว
“แย่แล้ว…” การกระทำของเยี่ยหวันหวั่นที่โยนศิลาจารึกทิ้งรวดเร็วเกินไปแล้ว ทุกคนที่อยู่รอบข้างไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยด้วยซ้ำ มีเพียงเป่ยโต่วที่พุ่งตัวออกไป รับศิลาจารึกไว้ได้อย่างหวุดหวิด
การที่ได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นโยน ‘สมบัติน้อย’ ‘ของล้ำค่า’ ทิ้งอย่างไม่ไยดี ทำให้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความจนปัญญา
แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงเหมือนโดนฟ้าผ่ายิ่งกว่านั้นคือการกระทำและคำพูดในเวลานี้ของนายแห่งอาชูร่าที่ทำให้ทุกคนเหลือเชื่อ…
ชีซิงคิดอยู่นานว่าจะพูดอะไรดี มองฉากเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ตกตะลึงจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร คนอื่นๆ ก็เป็นแบบเดียวกัน
ตอนนี้ในสถานที่เกิดเหตุตกอยู่ในความเงียบที่วังเวงและแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง
เพียงแต่ในช่วงเวลานี้เอง ผู้นำของพวกเขาคงคิดว่าโลกทัศน์ของพวกเขายังพังทลายและแหลกละเอียดไม่มากพอ ขณะที่ซุกซบนายแห่งอาชูร่าอยู่นั้น ก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยเว้าวอนว่า “อยากได้…อยากได้จุ๊บๆ…จุ๊บฉันหน่อย…”
เป่ยโต่ว ชีซิง ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสสาม ตลอดจนสมาชิกระดับสูงอีกหลายคนของพันธมิตรอู๋เว่ยล้วนตาค้างกันไปหมดแล้ว
อมิตาภพุทธ...
ทันใดนั้น สายตานับไม่ถ้วนต่างก็จับจ้องไปที่นายแห่งอาชูร่าแล้ว รอคอยอยู่ว่าหากนายแห่งอาชูร่าเริ่มก่อปัญหาขึ้นเมื่อไร จะเข้าไปยื้อแย่งชีวิตผู้นำของพวกเขากลับมาจากปากเสือทันที!
ภายใต้สายตาที่จ้องเขม็งมากมายรอบข้าง ก็ทำให้ซือเยี่ยหานขมวดคิ้วนิดๆ แล้ว
ปฏิกิริยาทางร่างกายของเยี่ยหวันหวั่นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ลมหายใจหอบถี่ ภายในร่างกายราวกับน้ำที่ถูกต้มจนเดือด ทั้งร่างกายและจิตใจหลงเหลืออยู่เพียงเรื่องเดียวคือ อยากจะจูบคนที่อยู่ตรงหน้า อยากจะโอบกอดคนตรงหน้าเท่านั้น…
———————————————————————
บทที่ 2008 พรุ่งนี้จะเอาผู้นำของพวกนายมาส่งคืนให้แล้วกัน
เยี่ยหวันหวั่นร้องขออย่างไม่พอใจ “เอาจุ๊บๆ มาสิ…”
เวลานี้ ทั้งสายตาทั้งหัวใจของหญิงสาวหลงเหลือเพียงตัวเองเท่านั้น นัยน์ตาใสกระจ่างของเธอก็มีแค่ตัวเองเช่นกัน
ฉากนี้เป็นภาพที่งดงามเจริญตาที่สุดเท่าที่เขาเคยมีในชีวิตนี้…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี