บทที่ 2175 ถูกหลอกมาติดเกาะ
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นพูดจบแล้ว สีหน้าของไห่ถังก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่…ทำไมล่ะ”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็เงียบไปพักใหญ่
“ไห่ถัง เรื่องนี้…เธออย่ารู้ไปมากว่านี้เลย แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ฉันต้องการพิสูจน์อะไรสักหน่อย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว” ไห่ถังตอบรับ “งั้นฉันกลับไปเตรียมตัวก่อนนะ”
“รบกวนด้วย” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้านิดๆ
ไห่ถังเพิ่งจากไป น้ำเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเยี่ยหวันหวั่น “เสี่ยวเฟิง ไม่เจอกันนานเลย”
เสียงนี้สำหรับเยี่ยหวันหวั่นแล้ว แปลกหน้าทว่าก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง
เยี่ยหวันหวั่นหันกลับไปตามสัญชาตญาณแทบจะทันที
บนใบหน้าของชายหนุ่มประดับรอยยิ้มที่มีคล้ายไม่มี ดวงตาหรี่ๆ คู่นั้นทอดมองมาทางเยี่ยหวันหวั่น
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คล้ายจะมีกลิ่นอายความเป็นบัณฑิตชนิดหนึ่งแผ่ออกมาจากในกระดูก
“พี่จื่อหราน?!”
เมื่อเห็นชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นผงะไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
ผู้ชายคนนี้ย่อมไม่แปลกหน้าสำหรับเยี่ยหวันหวั่นเลย เป็นพี่ชายร่วมสาบานของเธอ เวินจื่อหรานนั่นเอง
“ใช่เธอจริงๆ ด้วย”
เวินจื่อหรานหัวเราะเบาๆ แล้วค่อยๆ เดินมาทางเยี่ยหวันหวั่น
ไม่นาน เวินจื่อหรานก็เดินมาถึงข้างตัวเยี่ยหวันหวั่นแล้ว “ไม่ได้เจอกันนานหลายปี เสียงของเธอไม่เปลี่ยนไปเลย แต่ไม่รู้ว่า หน้าตาจะเปลี่ยนไปไหม”
“ไม่เปลี่ยน แทบจะเหมือนเดิมเลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ในความทรงจำของเยี่ยหวันหวั่น เวินจื่อหรานสองตามืดบอดตั้งแต่กำเนิด มองไม่เห็นอะไรเลย
“พี่จื่อหราน พี่ถูกจับตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เยี่ยหวันหวั่นมองเวินจื่อหราน พลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสใหญ่ก็เคยสืบหาดูแล้ว แต่เยี่ยหวันหวั่นไม่คาดคิดเลยว่า จะได้พบเวินจื่อหรานที่นี่จริงๆ
“ก็ไม่นานเท่าไร…เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก เธอต่างหาก หลายปีมานี้ไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไปจากพันธมิตรอู๋เว่ยแบบเงียบๆล่ะ” เวินจื่อหรานเอ่ยขึ้นมา
สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้อธิบายแบบลงรายละเอียด
เยี่ยหวันหวั่นกับเวินจื่อหรานไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว ทั้งสองคนจึงนั่งลงข้างๆ กัน และพูดคุยกันไม่น้อยเลย
เยี่ยหวันหวั่นรู้จักกับเวินจื่อหรานมาสิบกว่าปีแล้ว สำหรับเวินจื่อหรานเยี่ยหวันหวั่นนั้นรู้จักดีมาก ด้วยความสามารถของเวินจื่อหราน หากไม่ใช่เพราะสองตามองไม่เห็น ไม่มีทางถูกจับมาไว้ในสถานที่แบบนี้ได้เด็ดขาด
หลังจากได้รู้แผนการของเยี่ยหวันหวั่น เวินจื่อหรานก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย ถ้าเป็นไปตามนี้ อีกไม่นานพวกเขาก็จะสามารถออกจากเกาะแห่งนี้ได้อย่างราบรื่นแล้ว
“อันที่จริง ฉันรู้สึกว่ากลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อคนบนเกาะเลย” ผ่านไปพักหนึ่ง เวินจื่อหรานจึงเอ่ยเสียงเบากับเยี่ยหวันหวั่น
เมื่อได้ยินประโยคนี้ หัวคิ้วของเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดเข้าหากันนิดๆ ความคิดของเวินจื่อหรานค่อนข้างคล้ายกับจี้ซิวหร่าน
“คนที่ถูกคุมขังไว้บนเกาะนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ปฏิเสธคำเชิญของสายหลักอย่างชัดเจนทั้งนั้น ฉันคิดว่าเรื่องราวไม่มีความบังเอิญถึงขนาดนั้นหรอก…อีกอย่าง กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ก็ดูเหมือนจะไม่ได้จับพวกเรามาแบบไร้เหตุผลด้วย” เวินจื่อหรานเอ่ย
สำหรับข้อนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้โต้แย้ง แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วย
กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์มีเป้าหมายอะไร ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน
แต่มีอยู่จุดหนึ่งคือ การที่จับทุกคนมาไว้บนเกาะ ริดรอนอิสระของทุกคน กักขังโดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา ตรงจุดนี้ไม่ใช่ความเมตตาอะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี