เยี่ยหวันหวั่นโดนความคิดสมองกลับของพวกวิปริตบางคนทำให้ถึงกับช็อค
เธอพูดขนาดนี้แล้ว เขายังบอกว่าเฝ้ารออยู่?
แล้ว เธอจะยังพูดอะไรได้อีก…
เยี่ยหวันหวั่นไม่คาดหวังที่จะสนทนากับซือเยี่ยหานต่อแล้ว ไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้งให้กับเค้กที่ถูกเธอบีบจนเละก้อนนั้น
ทำไมเธอถึงได้ทำกับของกินเช่นนี้ได้! ปวดใจ!
แต่คนที่เป็นตัวการกลับมัวแต่ร้องโวยวายจะลงรถให้ได้
สวี่อี้มองกระจกหลังด้วยความลำบากใจขอคำชี้แนะ “นายท่าน? นี่…”
ซือเยี่ยหานเอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน “โทรหาพี่ใหญ่ บอกว่าเย็นนี้เซี่ยเซี่ยไม่กลับบ้าน”
สวี่อี้ “ครับ!”
ซือเซี่ยได้ยินก็ขนลุกซู่ เคาะกระจกรถอย่างแรง “ซือเยี่ยหาน! นายคิดจะทำอะไรฉัน! ปล่อยฉันลงรถ! ฉันจะกลับบ้าน!”
ซือเยี่ยหานนัยน์ตาเย็นชาแฝงไปด้วยคำเตือน “วันนี้อาจารย์โทรมาบอกว่าแจกแบบฟอร์มสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาแล้ว”
“แล้วยังไง เรื่องของผม อาไม่ต้องยุ่ง!” ซือเซี่ยตอบเสียงเย็นชา
ซือเยี่ยหานไม่ได้ถือสาคำพูดของซือเซี่ย ถามต่อไปว่า “เตรียมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหน?”
“ก็บอกไปแล้วว่าอาไม่ต้องยุ่ง! ผมไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยแล้วได้ไหม?” ซือเซี่ยพูดอย่างรำคาญ
ซือเซี่ยพยักหน้า “ได้”
ซือเซี่ยได้ยินก็หันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจ “จริงเหรอ?”
ซือเยี่ยหานมองมองเด็กสาวในอ้อมแขนของเขาที่กำลังเสียใจกับเรื่องเค้ก “อย่าทำเลย กลับไปฉันจะซื้อให้เธอใหม่”
ปลอบเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ก็พูดกับซือเซี่ยต่อ “ไม่อยากเรียนก็แต่งงาน”
“แต่ง…แต่งงาน?!” ซือเซี่ยเหมือนถูกฟ้าผ่าไม่อยากจะเชื่อ “ซือเยี่ยหาน อายังมีความเป็นคนอยู่ไหม! ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ! อาก็รีบร้อนอยากจะขายผมออกไปขนาดนี้แล้ว!”
การแสดงออกของซือเซี่ย ทำเหมือนกับเป็นองค์หญิงน้อยที่โดนเสด็จพ่อใจร้ายส่งไปแต่งงาน
ซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย “งั้นก็เรียนต่อ หากครั้งนี้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงไม่ได้ อีกหนึ่งเดือนให้หลัง ฉันจะจัดงานแต่งให้นาย”
ซือเซี่ยหัวร้อน F U C K!
แก้แค้น! ผู้ชายคนนี้แก้แค้นกันเห็นๆ!
เยี่ยหวันหวั่นมองซือเซี่ยผู้โชคร้าย มีความสุขที่เห็นเขาเป็นทุกข์ ใครบอกให้นายปากเสียล่ะ! ใครให้นายติดรถฟรีๆ!
ณ สวนจิ่นหยวน
เป็นเช่นนี้เอง เดิมทีซือเซี่ยคิดจะติดรถมาแกล้งซือเยี่ยหานให้ขยะแขยงเล่น กลับโดนบังคับพากลับบ้านมาด้วย แถมยังโดนบังคับให้กรอกแบบฟอร์มสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก
บนโต๊ะหนังสือ เยี่ยหวันหวั่นและซือเซี่ยต่างฟุบอยู่คนละด้าน มีซือเยี่ยหานคอยดูอยู่ข้างๆ เหมือนกับเป็นอาจารย์คุมสอบ
ซือเซี่ยโดนซือเยี่ยหานบังคับให้กรอกมหาวิทยาลัยเมืองหลวง
เยี่ยหวันหวั่นเห็นจุดจบของซือเซี่ยแล้ว ก็เกิดความรู้สึกหัวอกเดียวกัน พลันเอ่ยถามด้วยความประหม่า “ถ้างั้น ฉันอยากสอบเข้าคณะนิเทศน์ศาสตร์สาขาประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ได้ไหมคะ?”
“ไกลเกินไป” ซือเยี่ยหานปฏิเสธอย่างที่คาดไว้
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าอยากจะร้องไห้พลางกล่าว “ก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น อย่างไรแล้วก็อยู่ในตัวเมือง ห่างจากสวนจิ่นหยวนไปแค่สองสามชั่วโมงไม่ใช่เหรอ?”
เห็นซือเยี่ยหานไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนความคิดเลยสักนิด เยี่ยหวันหวั่นก็พูดอย่างตื่นเต้น “คุณไม่ได้อยากเห็นฉันกลายเป็นหญิงที่ทรงอิทธิพลเหรอคะ? คุณทำแบบนี้ไม่ยอมให้ฉันทำอันนี้ ไม่ยอมให้ฉันทำอันนั้น แล้วเมื่อไรฉันจะโตสักที? ตอนนี้แค่เข้ามหาวิทยาลัย แล้วต่อไปฉันจะทำงาน ฝึกงานจะทำอย่างไร? คุณก็จะไม่ยอมให้ฉันไปเหรอ? แล้วแบบนี้เมื่อไรฉันจะสามารถทำในสิ่งที่ต้องการกับคุณทุกคืนได้ล่ะ!”
ซือเซี่ยบอก “ผมไปได้หรือยัง?”
ซือเยี่ยหานมองเธอคราหนึ่ง “ไม่ต้องเป็นผู้ทรงอิทธิพล ตอนนี้เธอก็ทำได้”
ซือเซี่ยถาม “สรุปว่าพวกอาได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า?”
เยี่ยหวันหวั่นโมโหคว้ามือของซือเยี่ยหานขึ้นมากัด “ทำไมคุณถึงน่ารำคาญขนาดนี้เนี่ย!”
…………………………………
บทที่ 236 คนเขาชอบคุณที่สุดแล้ว
ภายใต้ความโมโหระคนเศร้าใจที่กลับบ้านไม่ได้ ซือเซี่ยตัดสินใจทำเรื่องบางอย่าง เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น รีบพยักหน้าสนับสนุน “ถูกต้องๆ! เธอเห็นแล้วใช่ไหม! เขาก็น่ารำคาญแบบนี้! นี่ก็ไม่ให้ทำ นั่นก็ไม่ให้ทำ! ไม่มีใครน่ารำคาญเท่ากับเขาอีกแล้ว!”
ดวงตาของซือเยี่ยหานประกายความหนาวเย็นของโลกใต้บาดาลมองไปทางซือเซี่ย
“เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว…” ซือเซี่ยจ้องสายตานั้นแล้วพูดต่อ ทว่าน้ำเสียงกลับเบาลงเรื่อยๆ
ซือเยี่ยหานไม่ได้สนใจเขาอีก หางตาเหล่มองรอยกัดบนหลังมือ จากนั้นยกหนังตาขึ้น สายตาค่อยๆ ทอดมองไปบนร่างกายของเยี่ยหวันหวั่น
บรรยากาศเงียบสงัดอย่างประหลาด
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดซือเยี่ยหานก็เอ่ยขึ้น “ฉันปล่อยเธอไปได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังได้ ปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่เธออยากทำ ไม่จำกัดอิสระภาพใดๆ ของเธอ ไม่ยุ่งเรื่องใดๆ ของเธอ เว้นแต่…”
เยี่ยหวันหวั่นได้ฟังก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ เมื่อฟังมาถึงสองคำท้ายสุด ยิ่งบีบนิ้วมืออย่างตื่นเต้น “เว้นแต่อะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี