บทที่ 2417 ใครก็ห้ามพาคุณย่าของผมไป
หลายวันมานี้ ชีวิตอินเยวี่ยหรงราวกับฝันไป ถึงแม้เธอจะผ่อนคลายเป็นสุข แต่กลับหวั่นใจอยู่ตลอด กลัวว่าช่วงเวลานี้จะเป็นภาพมายา กะพริบตาทีเดียวก็หายไป
แต่ตอนนี้ในที่สุดก็เป็นความจริง จิตใจของเธอสงบดั่งธุลีร่วงสู่พื้น
นั่นสินะ สิ่งที่ดีงามขนาดนี้ จะต้องมีค่าตอบแทนอยู่แล้ว
อินเยวี่ยหรงเอ่ยสั้นๆ “ลงมือเถอะ”
ในเมื่อเป็นสิ่งที่ถังถังต้องการ งั้นก็เอาตามนี้เถอะ…
เมื่อเห็นอินเยวี่ยหรงไม่ขัดขืน หัวหน้าหลิวก็โล่งใจ ลูกน้องสองคนที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาประกบซ้ายขวา แล้วใส่กุญแจมือเธอ “พาตัวไป!”
ในเวลานี้ อินเยวี่ยหรงยังไม่ทันพ้นประตูใหญ่ไป จู่ๆ ก็มีเสียงอ้อแอ้เสียงหนึ่งแว่วดังมาจากด้านหลัง “รอก่อน!”
ถึงแม้เสียงของพ่อหนูจะอ้อแอ้ไปบ้าง แต่น้ำเสียงกลับข่มขวัญมาก
เขารีบเดินไปหยุดตรงหน้าอินเยวี่ยหรง แล้วใช้ร่างเล็กจ้อยขวางอยู่ด้านหน้าเธอ “ใครก็ห้ามพาคุณย่าของผมไป”
อินเยวี่ยหรงหน้าเปลี่ยนสีทันที ใช้แขนเสื้อซ่อนกุญแจมือที่ข้อมือเอาไว้ตามสัญชาตญาณ มองเด็กน้อยๆ ที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันอย่างเลื่อนลอย “ถังถัง…”
หัวหน้าหลิวมองเด็กน้อยคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็โผล่มา จึงอดไม่ได้ที่จะพิจารณาเด็กน้อยคนนั้นดู หลังจากเห็นก็ตะลึงไปแวบหนึ่ง
เอ๊ะ เด็กคนนี้…หน้าเหมือนตุลาการซือมาก…
นี่ก็คือเด็กที่ก่อนหน้านี้เล่าลือกันว่าถูกอินเวี่ยหรงจับมาสินะ
ไม่ใช่ว่าอินเยวี่ยหรงเกลียดชังแม่ของเด็กคนนี้ เลยจับเด็กคนนี้มาทรมานอยู่ทุกวันหรอกเหรอ
เพราะเรื่องนี้ สมาชิกระดับสูงของสภาตุลาการต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เธอไม่น้อยเลย คิดว่าวิธีการของเธอส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสภาตุลาการ จึงเตรียมจะลงนามร่วมประณามเธอ
แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ ทำไมดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่ลือกันเลยล่ะ
ถ้าอินเยวี่ยหรงทรมานเด็กคนนี้ทุกวัน เด็กคนนี้จะออกมายืนปกป้องเธอในเวลานี้ได้ยังไง
อินเยวี่ยหรงไม่คาดคิดเลยว่าจู่ๆ ถังถังจะโผล่มา จึงตะลึงงันอยู่ตรงนั้นไปชั่วขณะ…
ถังถังที่ตัวกลมป้อมเป็นก้อนกลับยืนอยู่ตรงหน้าอินเยวี่ยหรงอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วเอ่ยขึ้นว่า “กล่องไม้สีแดงใบนี้เป็นผมที่เอาไปใส่ไว้ในห้องหนังสือของคุณย่าเมื่อเช้านี้ ไม่เกี่ยวข้องกับคุณย่าเลย!”
พอแม่นมเฉียวได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง
เมื่อได้ยินถังถังบอกกับปากเองว่าเขาเป็นคนเอากล่องใบนั้นไปวาง สีหน้าของอินเยวี่ยหรงก็ซีดเผือดลงทันที เสมือนความอบอุ่นเสี้ยวสุดท้ายในหัวใจแหลกสลายหายไปกับสายลมหนาวแล้ว…
เป็นฝีมือของถังถังจริงๆ…
แต่ว่า ในเมื่อวางไปแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงออกมายอมรับอีกล่ะ
เวลานี้ หัวใจของอินเยวี่ยหรงครึ่งหนึ่งเหมือนแม่น้ำหนาวเหน็บ อีกครึ่งหนึ่งเหมือนเปลวไฟผลาญ
อาจงเห็นว่าอินเยวี่ยหรงกำลังจะถูกพาตัวไป แต่ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้จะโผล่มาสร้างความวุ่นวาย จึงรีบเดินเข้าไปเอ่ยอยู่ข้างๆ “คุณชายน้อย คุณอย่างพูดมั่วซั่วสิครับ คุณเป็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ผมเข้าใจนะครับว่าคุณไม่อยากให้คุณย่าถูกพวกเขาพาตัวไป แต่ว่า เฮ้อ ต่อให้คุณพูดแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ…”
เพราะไม่มีใครเชื่อไงล่ะ
ชัดเจนมาก ว่าทัศนคติที่หัวหน้าหลิวมีต่อถังถังเหมือนกำลังมองเด็กน้อยที่ก่อเรื่องวุ่นวายคนหนึ่งเท่านั้น
ถังถังมองอาจงแล้วเอ่ยขึ้น “เพราะฉันเป็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อยู่ดีๆ คงไม่เอาของแบบนี้ไปวางไว้ในห้องหนังสือของคุณย่าแน่อยู่แล้ว แต่เป็นเพราะนายให้ฉันเอาไปวาง”
พอได้ยินคำพูดของถังถัง สายตาที่ราวกับคมมีดของอินเยวี่ยหรงก็มองไปที่อาจง
อาจงให้ถังถังเอาเข้าไปวางไว้งั้นเหรอ
เมื่อครู่จิตใจของเธอว้าวุ่น จึงสูญเสียความสามารถในการวิเคราะห์ไตร่ตรองไป ไม่ได้นึกถึงอาจงเลยสักนิด เป็นสถานที่ซึ่งมีแค่ถังถังคนเดียวที่เข้าไปได้
คงเป็นเพราะจิตใจว้าวุ่น ความคิดแรกของเธอจึงนึกไปว่าถังถังเกลียดตัวเอง ดังนั้นจึงทำแบบนี้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ถังถังอาจจะถูกคนอื่นหลอกใช้…
—————————————————————————————
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี