บทที่ 2419 ยากจะลืมลงไปชั่วชีวิต
[ธุระอะไร]
[คุณชายน้อย ของสิ่งนี้ คุณช่วยผมเอาไปวางไว้ในลิ้นชักที่ห้องหนังสือของนายหญิงได้ไหม]
[ทำไมนายไม่เอาไปวางไว้เอง]
เพราะตอนนั้นถังถังถามอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ ดังนั้นขั้นตอนที่อาจงล่อลวงเขาแต่ละอย่างก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างละเอียดยิบทั้งหมด
อาจงพูดถึงกล่องไม้แกะสลักสีแดงใบนั้น เครื่องเคลือบสีคราม ตรงกับที่พวกเขาค้นเจอในห้องหนังสือทุกอย่าง
สีหน้าของหัวหน้าหลิวเคร่งขรึม ตั้งใจฟังหลักฐานสำคัญชิ้นนี้อย่างจริงจัง ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่า…
คนใช้ที่ชื่ออาจงคนนี้ เกรงว่าจะโง่อยู่บ้างจริงๆ ในคำพูดของเด็กน้อยคนนี้ แทบทุกประโยคต่างก็กำลังหลอกถามเขาอยู่แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะไม่เอะใจเลย
[คุณชายน้อย…ผมกลัวว่าถ้าเกิดคุณทำพลาดอะไรไป แหย่ให้เธอโกรธขึ้นมา เกรงว่าเธอจะสั่งลงโทษคุณ ดังนั้นถึงได้เอ่ยเตือนให้ระมัดระวังอยู่ข้างๆ ทุกครั้ง!]
[คุณชายน้อย หรือคุณไม่รู้เลยสักนิดครับ อันที่จริงความสัมพันธ์ของนายหญิงกับคุณพ่อของคุณย่ำแย่มาก ทำเรื่องที่เกินกว่าเหตุกับคุณพ่อของคุณไว้มาก ขับไล่คุณพ่อของคุณออกจากตระกูล อีกทั้งนายหญิงยังรังเกียจคุณแม่คุณมากด้วย…]
ช่วงที่อินเยวี่ยหรงได้ยินอาจงล่อลวงถังถังให้มาเล่นงานตัวเอง สีหน้ายังคงสงบนิ่งอยู่ แต่ว่า พอได้ยินว่าอาจงยุแยงในความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับถังถัง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนแล้ว
เกิดเสียงดัง ‘พลั่ก’ อินเยวี่ยหรงถีบเข้าที่ข้อพับเข่าของอาจงทีหนึ่ง “ขี้ข้าเดรัจฉาน!”
จิตใจละโมบไม่รู้จักพอ…
ตอนนั้นเธอช่วยเขาออกมาจากกองซากศพ เขาตื้นตันสำนึกในบุญคุณของตัวเอง และจงรักภักดีกับตัวเอง
แต่ว่า ความละโมบและปรารถนาในใจคนนั้นมากมายไร้ที่สิ้นสุดเสมอ
ยิ่งเธอดีต่อเขามากขึ้นเรื่อยๆ ไว้วางใจขึ้นเรื่อยๆ กลับยิ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงความโลภมากให้กับเขา…
ยังมีอินเหิงด้วย...
นอกเหนือไปจากนี้ อินเยวี่ยหรงย่อมเดาได้ไม่ยากแล้วว่าตัวการเบื้องหลัง จะเป็นใครไปไม่ได้…
ความคิดนี้ ยิ่งทำให้เธอเสมือนติดอยู่ในห้องแช่แข็ง
“อา…” อาจงกรีดร้องเพราะโดนถีบ คุกเข่าลงเสียงดังตุบ เจ็บปวดจนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น
แผ่นหลังของอินเยวี่ยหรงแข็งเกร็ง จ้องเขม็งไปที่ถังถัง คนใช้ที่ใกล้ชิดกับตัวเองขนาดนี้ยังวิจารณ์ตัวเองแบบนี้ ถังถังจะคิดยังไงกัน
ไม่แปลกเลยที่ถังถังจะช่วยอาจง...
ในเวลานี้เอง ในที่สุดน้ำเสียงเยือกเย็นของถังถังก็ดังออกมาจากปากกาอัดเสียง…
[ไม่มีใครรังเกียจคุณแม่ฉัน!]
[แต่คุณชายน้อยครับ สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงแน่นอน ถ้าไม่เชื่อคุณลองไปถามดูได้ เรื่องพวกนี้ทุกคนต่างก็รู้กันดี!]
[ทำไมฉันต้องไปถามด้วย ฉันแค่ฟังที่คุณแม่ฉันบอกฉันก็พอแล้ว แม่บอกว่าคุณย่าเป็นคนดี คุณย่าก็ต้องเป็นคนดี! นายว่าร้ายคุณย่าฉัน นายเป็นคนไม่ดี!]
….
อินเยวี่ยหรงไม่คิดเลยว่าถังถังจะตอบกลับไปแบบนี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความละอายใจ
เด็กคนนี้ ไม่เคยรังเกียจเธอเลยใช่ไหม
เมื่อแม่นมเฉียวฟังมาถึงตรงนี้ใบหน้าก็เปี่ยมด้วยความดีใจเช่นกัน เธอรู้อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าคุณชายน้อยไม่มีทางทำกับนายหญิงแบบนั้น!
แน่นอน การอบรมจากแม่สู่ลูกยังคงสำคัญที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูรองเนี่ยคนนั้นบอกถังถังแบบนั้นอยู่เสมอ ถังถังก็คงไม่เป็นเด็กซื่อสัตย์ยุติธรรมและใจดีมาโดยตลอด
ส่วนหัวหน้าหลิวรวมถึงพวกลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง ต่างก็อดไม่ได้ที่จะนึกตำหนิอยู่ในใจ คำวิจารณ์ที่คู่หมั้นคนนั้นของตุลาการซือมีต่ออินเยวี่ยหรงคือเป็นคนดีงั้นเหรอ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งจริงๆ!
เสียงที่อัดมาต่อจากนั้นเป็นอาจงที่เสแสร้งทำตัวน่าสงสารสารพัด สุดท้าย ก็ดูเหมือนว่าถังถังจะใจอ่อน จึงให้เขาตอบรับข้อแลกเปลี่ยนของตัวเองหนึ่งข้อ แล้วถึงจะยอมช่วยเขา
หลังจากพวกหัวหน้าหลิวได้ยินข้อแลกเปลี่ยนที่ถังถังเสนอ การแสดงออกบนใบหน้าคือ…ยากจะบรรยาย…
ต่อจากนั้น สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ พวกเขาก็ถูกบังคับให้ฟัง [นายหญิงเป็นนางฟ้าแสนสวยใจดี] ซ้ำไปซ้ำมา
เนื่องจากกังวลว่าจะมีหลักฐานสำคัญอะไรตกหล่นไป ทุกคนในเหตุการณ์เลยถูกบังคับให้ฟังประโยคนี้อยู่หนึ่งร้อยรอบ…
พอฟังไปถึงส่วนสุดท้าย สีหน้าของหัวหน้าหลิวก็มืดทะมึนจนไม่อาจมืดไปกว่านี้ได้แล้ว
นี่คงเป็นประสบการณ์การเก็บหลักฐานที่เขายากจะลืมลงไปชั่วชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี