เมื่อได้ยินสิ่งที่วัยรุ่นหนุ่มเรียกว่าข้อต่อรอง ทุกคนในห้องประชุมต่างตกตะลึง รวมไปถึงตัวการของเรื่อง ใบหน้าของหานเซี่ยนอวี่ไม่อาจนิ่งสงบได้อีกต่อไป เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ว่างเปล่าและเฉื่อยชาแฝงความรู้สึกซับซ้อน มองไปทางวัยรุ่นหนุ่มผู้นั้น
ใบหน้าโจวเหวินปินเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “ช่างเป็นเรื่องน่าขันจริงๆ! นายคิดว่านายเป็นใคร?”
เฟยหยางตื่นตระหนกไปชั่วครู่ พูดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ “โจวเหวินปิน เจ้านายยังไม่ได้พูดอะไร คุณอยู่ตรงนี้ร้อนรนจนยืนไม่ติด กลัวจะมีใครมาช่วยเซี่ยนอวี่ลบล้างข้อกล่าวหาใช่ไหม?
โจวเหวินปินยิ้มเย้ยหยันในทันที “เฟยหยาง ฉันว่าคุณถนัดเรื่องเห็นแก่ตัว เรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะความกดดันจากสื่อ แม้แต่ทั่วทั้งโกลเบิลก็ไม่มีความสามารถเช่นนี้ เขาจะโน้มน้าวสื่อได้อย่างไร? เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
ถึงแม้คำพูดของโจวเหวินปินไม่ได้น่าฟัง แต่เฟยหยางก็รู้ว่ามันคือความจริง จึงอดไม่ได้ที่จะจมดิ่งสู่ความเงียบสงบ
วัยรุ่นหนุ่มไม่ได้สนใจโจวเหวินปิน แต่หันไปพูดกับฉู่หงกวงอย่างไม่เร็วและไม่ช้า “ประธานฉู่ ในเมื่อโกลเบิลเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ก็อับจนหนทางแล้ว ทำไมไม่ลองเดิมพันดูสักตั้งล่ะ?
หากชนะคงไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับผลลัพธ์มากมาย หากแพ้ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อโกลเบิล ไม่ใช่เหรอ?”
ฉู่หงกวงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด “คุณเยี่ยใช่ไหม? ผมไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร ถ้าคุณแก้ไขปัญหานี้ได้จริงอย่างที่พูด เช่นนั้นพวกเราโกลเบิลก็ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่ แต่ถ้าคุณมาเพื่อก่อความวุ่นวาย เช่นนั้น…”
ประโยคด้านหลังฉู่หงกวงไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่ไม่ว่าใครก็ดูแววตากล่าวเตือนและข่มขู่ของเขาออกทั้งนั้น
วัยรุ่นหนุ่มยิ้มบาง ราวกับไม่ได้สังเกตเห็นแววตาข่มขู่ของฉู่หงกวง “ประธานฉู่เป็นคนตรงไปตรงมา สิ่งที่พูดจะจริงหรือหลอก ท่านจะได้รู้ในไม่ช้า”
“โอ้? ผมจะรู้ได้อย่างไร?” ฉู่หงกวงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
วัยรุ่นหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม “ภายในเจ็ดวัน ผมจะคืนความบริสุทธิ์ให้แก่หานเซี่ยนอวี่”
“เจ็ดวัน?” ฉู่หงกวงอดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นความประหลาดใจบนใบหน้า
สีหน้าของโจวเหวินปินที่อยู่ด้านข้างพลันแปรเปลี่ยน เขาลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่วัยรุ่นหนุ่มทันที “ต่อให้พวกเราจะให้นายลองดู นายมีความสามารถอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ทำไมต้องมาพูดบ่ายเบี่ยงตรงนี้? ฉันว่านายแค่มาทำอวดดีให้เรื่องมันลึกลับซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้นเอง!”
เมื่อพูดจบ โจวเหวินปินก็หันไปพูดกับฉู่หงกวงในทันที “ประธานฉู่ คนคนนี้เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อายุยังน้อย ใครจะรู้ว่าเขามาทำอะไรกันแน่? จะให้เชื่อคำพูดคนอย่างเขาง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ?”
ฉู่หงกวงขมวดคิ้วเล็กน้อย คนกลุ่มหนึ่งถกเถียงกันจนเขาเวียนหัวไปหมด ในขณะที่กำลังลังเลใจ ซุ่มเสียงแหบแห้งเล็กน้อยสายหนึ่งก็ทำลายความสงบ ณ วินาทีนี้ทันใด
“ผมเชื่อ”
ภายในห้องประชุม ทุกคนต่างตกตะลึง รีบมองตามซุ่มเสียงนั้นไป
กลับเห็น…
คนที่เอ่ยปากพูดกลับเป็นหานเซี่ยนอวี่ที่หลุบตาไม่พูดไม่จามาตลอด
หานเซี่ยนอวี่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่ค่อนข้างห่อเหี่ยวประสานกันกับดวงตาทั้งคู่ที่เป็นประกายแวววายดังดวงดาราของวัยรุ่นหนุ่ม
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆ ในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องไปบนร่างของฉู่หงกวง…
“ประธานฉู่ ผมเชื่อเขา”
ทุกคนทอดทิ้งเขา แต่ตอนนี้กลับมีหนึ่งคนยืนขึ้นและบอกว่าจะคืนความบริสุทธิ์ให้แก่เขา
สีหน้าของฉู่หงกวงค่อนข้างซับซ้อน ตั้งแต่ต้นจนจบ หานเซี่ยนอวี่ไม่เคยปริปากพูด นี่คือคำพูดแรกที่หานเซี่ยนอวี่เอื้อนเอ่ย
ฉู่หงกวงทอดถอนใจ “เอาเถอะ เซี่ยนอวี่ บริษัทไม่ได้ไม่เต็มใจช่วยนาย ถ้าเพื่อนคนนี้มีหนทางจริงๆ ฉันย่อมสนับสนุนอย่างเต็มที่”
จากนั้นฉู่หงกวงมองไปทางด้านข้างของวัยรุ่นหนุ่ม “คุณต้องการให้พวกเราทำอะไร?”
ริมฝีปากของวัยรุ่นหนุ่มหยักขึ้นเล็กน้อย โค้งเป็นรัศมีสายหนึ่งที่ไม่อาจบรรยายได้ “เตรียมตัวรับชม”
…………………………………
บทที่ 256 ยินดีที่ได้ร่วมงาน
เมื่อได้ยินถ้อยคำหยิ่งผยองเช่นนี้ของวัยรุ่นหนุ่มทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ในทันที สีหน้าย่อมแฝงด้วยความสงสัยและเย้ยหยัน
ฉู่หงกวงยิ้ม “พ่อหนุ่มมีความมั่นใจซะเหลือเกินนี่! เอาเถอะ ไหนลองพูดเงื่อนไขของคุณมาซิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี