เพื่อนบ้าน “เฮอะๆ ดาราดังทำอนาจารลูกสาวเขาเหรอ? เป็นโจรตะโกนให้จับโจรน่ะสิ! ไม่รู้ใครกันแน่ที่วันๆ เอาแต่ทำเรื่องสกปรกแบบนั้น…”
เกาเฟย “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอะไรเหรอครับ”
เพื่อนบ้าน “เฮ้อ ทำไมคนเมืองอย่างพวกคุณถึงได้ซื่อบื้อขนาดนี้ ก็หมายความว่าเขาเล่นลูกสาวของเขาเองน่ะสิ!”
เกาเฟย “ตัวเขาเอง? ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ นั่นเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขาเลยนะ เขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง คุณมีหลักฐานอะไรหรือเปล่าครับ”
เพื่อนบ้าน “หลักฐาน? ฉันอยู่ข้างบ้านเขา เรื่องเลวๆ แบบนั้นของบ้านเขาฉันจะไม่รู้อย่างนั้นเหรอ ความเคลื่อนไหวในบ้านทุกคืนนั่น จึๆๆ…ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่ได้ยิน ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองไปถามคนอื่นดูสิ!”
เกาเฟย “แล้วแม่ของเด็กเขาไม่สนใจเลยเหรอครับ?”
เพื่อนบ้าน “ภรรยาเขาทำงานกะดึก ตอนกลางคืนมีแค่พวกเขาอยู่บ้านกันสองคน แต่ต่อให้จะอยู่บ้าน ฉันเดาว่าเขาก็คงไม่สนใจหรอก! สองผัวเมียนี่ใจดำอำมหิตกันทั้งคู่!”
……
บทสัมภาษณ์นานกว่าสิบนาทีจบลงอย่างรวดเร็ว ตอนหลังยังมีบันทึกเสียงสัมภาษณ์ของเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ด้วย หลายคนต่างแสดงออกว่าตอนกลางคืนมักจะได้ยินเสียงร้องตะโกนของเด็กผู้หญิงและเสียงด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายของจ้าวต้าหย่ง
เนื้อหาต่างๆ นานาที่เผยออกมาจากบทสัมภาษณ์เป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก!
ทุกคนต่างก็คิดไม่ถึง พ่อผู้มีความเมตตาในสายตาของทุกคน พูดพร่ำอยู่เสมอว่าจะปกป้องลูกสาวคนนี้โดยไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจอิทธิพล ที่แท้ก็เป็นโรคใคร่เด็กชั้นต่ำ ทั้งยังเสียสติถึงขั้นลงมือกับลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองได้ลงคอ
“จ้าวต้าหย่ง! ตอนนี้คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม?” เกาเฟยแผดเสียงดังถาม
จ้าวต้าหย่งได้ฟังคำชี้ตัวจากเพื่อนบ้าน เผชิญหน้ากับคำถามของเกาเฟย อีกทั้งสายตาแปลกประหลาดของบรรดาสื่อมวลชนรอบด้าน ก็โมโหจนแทบเสียสติ “หลักฐานบ้าบออะไร! ของพวกนี้ใช้เป็นหลักฐานได้ด้วยงั้นเหรอ จ้าวเฉียงปินไอ้คนไร้อารยะคนนั้นชอบหาเรื่องกับฉันเป็นประจำ หมอนั่นตั้งใจยัดข้อหาโยนความผิดให้ฉัน!”
“คุณจ้าว ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอก! อีกอย่าง คนที่มาชี้ตัวคุณก็ไม่ใช่เพื่อนบ้านคนเดียว!”
“นั่น…นั่นเป็นเพราะลูกสาวทำความผิด ฉันก็แค่สอนเขา! รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ลูกไม่เชื่อฟัง พ่อแม่จะดุด่าหรือตีก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว!”
“อ้อ ดังนั้นวิธีการสั่งสอนของคุณก็คือลงโทษทางร่างกายและคุกคามทางเพศเหรอ?” เกาเฟยเค้นหนักขึ้น
จ้าวต้าหย่งโมโหจนหน้าบวมแดง หอบหายใจฟืดฟาดเหมือนสัตว์ร้าย “โธ่เว้ย! ฉันบอกไปแล้วว่าฉันเปล่า! กูไม่ใช่พวกบ้ากามคลั่งเด็กอะไรนั่น และก็ไม่เคยล่วงละเมิดลูกสาวตัวเองด้วย!”
แววตาของเกาเฟยยิ่งเย็นชา คำพูดรุนแรงขึ้นไปอีก “เฮอะๆ มีทั้งพยานบุคคลพยานวัตถุ ถึงตอนนี้คุณก็ยังเถียงข้างๆ คูๆ ไม่สำนึกผิดเลยสักนิด ไร้มโนธรรมสิ้นดี! สัมผัสที่ส่วนบุคคลส่วนล่างของร่างกาย บังคับให้ร้องอะไรนั่น ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่คุณเคยกระทำกับลูกสาวคุณมาก่อนสินะ!”
“ไอ้ xx ทวดแกสิไอ้นักข่าวขยะ! พูดพอหรือยังหา!” ในที่สุดจ้าวต้าหย่งก็อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ยกเท้าถีบเก้าอี้ของตัวเองจนคว่ำ แล้วพุ่งตัวเข้าไป ยกหมัดซัดเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่าย
“โอ๊ย!” เกาเฟยโดนชกไปหนึ่งหมัดอย่างแรงจนบวมไปครึ่งหน้า
จ้าวต้าหย่งยังคิดจะชกต่อ นักข่าวคนอื่นๆ ด้านข้างและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็ว รีบจับจ้าวต้าหย่งที่กำลังอารมณ์เดือดพล่านเอาไว้
เกาเฟยปาดคราบเลือดที่ไหลซิบตรงมุมปาก กล่าวอย่างจงเกลียดจงชัง “ตอนนี้ทุกคนเชื่อหรือยัง? คนคนนี้ไม่เพียงเป็นโรคจิต ยังเป็นพวกชอบใช้กำลังความรุนแรงด้วย พอจะจินตนาการได้หรือยังว่าตอนที่ลูกสาวอยู่ในมือเขาจะต้องพบกับการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมแบบไหน!”
ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของจ้าวต้าหย่งก็ยิ่งน่าเกลียดน่ากลัว คำรามอย่างกราดเกรี้ยว ทั้งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะกระโจนใส่เกาเฟย “กูจะฆ่ามึง! จะฆ่ามึง! ฝากไว้ก่อนเถอะ! ฝากไว้ก่อน…”
…………………………………
บทที่ 270 สถานการณ์กลับตาลปัตร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี