เฟยหยางใจเย็นลงด้วยคำเตือนสติของหานเซี่ยนอวี่ จากนั้นลองไตร่ตรองอย่างละเอียด “เจอนายพูดแบบนี้ ก็เหมือนจะจริงอย่างที่ว่า…
หากแยกดูหลักฐานแต่ละอย่าง เหมือนว่าจะไม่มีอะไร ยกตัวอย่างข้อความน่าเกลียดใต้คลิปนั่นของจ้าวต้าหย่ง จากระดับของเขาแล้วจะพูดจาแบบนี้ก็ไม่แปลกอะไร ต่อให้นำบันทึกสนทนาทั้งหมดของเขามารวมกัน อย่างมากสุดก็พิสูจน์ได้เพียงว่าเขามีแนวโน้มทำอนาจารเด็กและมีจริยธรรมต่ำตม…
ที่เขาส่งโพสต์รูปนั้นของลูกสาว หากแยกจากหลักฐานอื่นมาดูก็จะเป็นการอวดลูกสาวธรรมดาเท่านั้นเอง เหมือนกับรูปถ่ายที่นายนอนบนเตียงกับพวกเด็กๆ ภาพนั้น ดูเดี่ยวๆ ก็เป็นรูปภาพธรรมดาทั่วไป…
ส่วนคำให้การของเพื่อนบ้าน มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเพื่อนบ้านมีเรื่องบาดหมางใจกับเขาอยู่จริง คำให้การของเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ก็ยืนยันแค่ว่าเขาดื่มสุราแล้วจะชอบทำร้ายคน
เพื่อนบ้านของจ้าวต้าหย่งก็เหมือนกับแฟนเก่านายคนนั้น คำพูดของพวกเขาคนอื่นมักจะเชื่อง่ายกว่า…”
พูดมาถึงตรงนี้ เฟยหยางตระหนักถึงบางอย่างขึ้นมาทันที นิ่งอึ้งไป “หรือ…หรือว่าจ้าวต้าหย่งเดิมทีก็ไม่ใช่…”
หานเซี่ยนอวี่เอ่ยเสียงเบา “เขาใช่หรือไม่ใช่มันไม่สำคัญแล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ของหานเซี่ยนอวี่ เฟยหยางรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี “นายพูดไม่มีผิด มันไม่สำคัญแล้ว สิ่งสำคัญก็คือในสายตาของคนอื่น สรุปว่าเขาทำหรือไม่ทำ…”
เฟยหยางจ้องมองในวิดีโอถ่ายทอดสด มองเงาร่างขาวที่ลุกขึ้นและเดินออกจากงานสื่อมวลชนไป พลางจัดระเบียบความคิดเรื่องราวตั้งแต่ต้น “เยี่ยไป๋ไม่ได้ให้คนของโกลบอลออกโรง เพราะแค่มีคนของโกลบอลเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะพูดอะไร ความน่าเชื่อถือก็จะถูกหักลบไปมาก
ไม่ใช่ว่าโกลบอลไม่เคยกล่าวหาจ้าวต้าหย่งว่าติดเหล้าติดพนันซ้อมลูกเมีย แต่ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะทุกคนต่างคิดว่าโกลบอลกำลังใส่ร้ายจ้าวต้าหย่ง เพื่อจะล้างมลทินตัวเองให้ขาวสะอาด เขาจึงไปขอความร่วมมือจากมาร์สวีคเอ็นสำนักข่าวที่เคยมีบารมีสูงมากในวงการนี้
เขาจัดการให้เกาเฟยไม่บอกทุกคนแต่แรกว่าวีแชทข้อความนั้นเป็นฝีมือของจ้าวต้าหย่ง แต่ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจผิด สุดท้ายถึงได้บอกความจริง พิชิตใจทุกคนอย่างคาดไม่ถึง
หลังจากทำลายภาพลักษณ์พ่อผู้มีความเมตตา เปิดโปงนิสัยที่แท้จริงของเขาแล้ว คำพูดหลังจากนั้นของเกาเฟยก็จะทำให้สื่อเชื่อถือได้ง่ายขึ้น
ต่อจากนั้นตั้งแต่ที่เขาโพสต์รูปถ่ายของลูกสาว จวบจนพยานบุคคลต่างๆ ที่เรียกกัน ท้ายที่สุดเกาเฟยตั้งใจยั่วโมโหจ้าวต้าหย่งให้ต่อยนักข่าว เรื่องราวทั้งหมดมันเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายเลย…”
หานเซี่ยนอวี่ถอนหายใจยาว เสริมคำพูดที่เฟยหยางยังพูดไม่จบว่า “หนามยอกเอาหนามบ่ม”
เรื่องที่เยี่ยไป๋สร้างขึ้นมานี้ ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นการเลียนแบบเรื่องราวที่จ้าวต้าหย่งเคยใช้สื่อกระทำต่อเขามาก่อน และส่งคืนสิ่งที่เขาเคยเผชิญในช่วงเวลานั้นให้ตัวจ้าวต้าหย่งทีละเรื่องๆ ทั้งหมด
ไม่เพียงเท่านี้ แผนการของเยี่ยไป๋ยังสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ จนแม้แต่เฟยหยางที่คลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีก็ดูไม่ออก จึงไม่ต้องพูดถึงนักข่าวพวกนั้นในงานวันนี้และบรรดาชาวเน็ตเลย
เนื่องจากเขาเคยผ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้มากับตัวเอง จึงมองแผนการของเยี่ยไป๋ออก
หานเซี่ยนอวี่จดจ้องแผ่นหลังคนนั้นที่หายไปจากหน้าประตูห้องโถงในหน้าจอถ่ายทอดสด พลันมีความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้พลุ่งพล่านอยู่ในอก
เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ…คนคนนั้นไม่เพียงทำได้แล้ว…แต่ยังเลือกวิธีการแบบนี้มาล้างมลทินให้เขา…
…………………………………………………..
บทที่ 272 วิธีการแบบนี้
จ้าวต้าหย่งสูญเสียการควบคุมอารมณ์ไปแล้ว งานแถลงข่าวเลยโดนบังคับให้จบลง
หน้าประตูโรงแรมปักกิ่งโดนสื่อห้อมล้อมเบียดเสียดแน่นไปหมด นายจ้าวและภรรยาเดินอย่างยากลำบาก
“คุณจ้าว เรื่องที่คุณชอบเด็กและกระทำชำเราลูกสาวตัวเอง คุณมีอะไรอยากจะพูดไหม?”
“คุณนายจ้าวคุณรู้เรื่องนี้หรือเปล่าคะ?”
“นอกจากลูกสาวคุณแล้ว คุณยังล่วงละเมิดเด็กคนอื่นอีกหรือไม่?”
…….
รอบด้านเต็มไปด้วยสื่อที่บ้าคลั่งและแสงแฟลชแสบตา คำถามแทงใจสารพัดต่างถาโถมเข้ามา จ้าวต้าหย่งโดนฝูงคนเบียดเสียดจนเวียนหัวไปหมด ท่ามกลางความวุ่นวายเขาโดนกล้องกระแทกไปหลายรอบ
หลี่เฉียวหงรู้แค่ว่าให้ตอบไปว่าไม่รู้ ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี