นัยน์ตาเยี่ยเส่าถิงแดงขึ้นมา เบือนหน้าหนีเหมือนจะหลบเลี่ยง
เยี่ยมู่ฝานมองน้องสาวที่เปลี่ยนไป แล้วนิ่งเงียบด้วยสีหน้าสับสน แต่แววตาเห็นได้ชัดว่ายังคงมีความสงสัยอยู่
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางพ่อ “พ่อคะ… ขอโทษค่ะ… หนูรู้แล้ว… เป็นเพราะหนูทำร้ายพ่อ… พ่อทำเพื่อปกป้องหนูถึงได้กลายเป็นแบบนี้… ครอบครัวพวกเราเป็นแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะหนูทำ…”
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เยี่ยเส่าถิงสีหน้าเปลี่ยนทันที พูดเสียงต่ำว่า “ลูก… ลูกรู้ได้ยังไง? ใครบอกลูก!”
เยี่ยหวันหวั่นสูดจมูก คิดสักพัก เหมือนไม่รู้จะอธิบายว่าเธอรู้ได้ยังไงได้ ดังนั้น เลยหันหน้าไปทางเยี่ยมู่ฝานที่อยู่ข้างๆ จากนั้นพูด “พี่… พี่เป็นคนบอกฉัน…”
ผลักภาระไปให้พี่ชายแล้วกัน…
เยี่ยมู่ฝานที่กำลังก้มหน้าดื่มเหล้าอยู่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้างุนงงขึ้นมา จากนั้นยังไม่ทันที่จะตอบโต้ก็โดนพ่อตัวเองใช้ฝ่ามือตบลงไปบนหลัง “ไอ้หมอนี่! ฉันบอกแกแล้วว่าห้ามบอกน้องสาวแกไม่ใช่หรือไง?”
“ผมไม่ได้เป็นคนบอก! ผมจะบอกได้ยังไง!”
“ไม่ใช่แกบอก? งั้นแกบอกมาว่าน้องสาวแกรู้ได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าเยี่ยเส่าถิงไม่เชื่อเขา
เหลียงหวั่นจวินก็มีสีหน้าตำหนิ “มู่ฝานลูกก่อเรื่องมากเกินไปแล้ว! ถ้าหวั่นหวันเกิดเรื่องอะไรขึ้น…”
เยี่ยมู่ฝานจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยความโมโห “ผมไม่ได้พูดจริงๆ! ยัยเด็กนี่โกหก!”
เยี่ยหวันหวั่นซุกอยู่ในอ้อมกอดแม่ กะพริบตาพูดเสียงอ่อน “หนูไม่ได้โกหก พี่ชายนั่นแหละโกหก…”
“ยัยเด็กบ้า! ยังโกหกอยู่อีก!” เยี่ยมู่ฝานโดนพ่อตัวเองทุบอีกครั้ง
“โอ้ย! ทำไมถึงเชื่อเธอไม่เชื่อผม!” เยี่ยมู่ฝานโมโหแทบตาย โวยวายว่าไม่ใช่เขาอยู่ แต่พ่อแม่เขาไม่มีใครเชื่อเขาสักคน
ทะเลาะกันแบบนี้ บรรยากาศสี่คนในครอบครัวดูสามัคคีกันขึ้นมาไม่น้อย
ทำไมเยี่ยหวันหวั่นถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ดูเหมือนจะอธิบายได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน เหลียงหวั่นจวินและเยี่ยเส่าถิงก็ยิ่งกังวลขึ้นไปอีก กลัวว่าลูกสาวได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป สภาพจิตใจจะทนไม่ไหว
เยี่ยหวันหวั่นมองออกอยู่แล้วว่าพ่อแม่เป็นห่วง เลยพูดปลอบใจ “พ่อ แม่ ไม่ต้องกังวลค่ะ หนูสบายดี บทที่เพิ่งรู้ใหม่ๆ หนูเสียใจมากจริง แต่หนูรู้ เสียใจกับเศร้าสร้อยไปไม่มีประโยชน์ หนูจะตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ ขยันทำงานให้พ่อแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องข้าวปลาอาหาร หนูผิดเอง หนูจะรับผิดชอบ หนูจะเอาทุกอย่างของตระกูลเยี่ยกลับมา!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็อดไม่ได้มองเธออีกหลายครั้ง…
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องเย้ยหยันกับคำพูดพวกนี้แน่นอน แต่ว่า เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยนิเทศเมืองหลวงได้จริง แล้วยังได้คะแนนอันดับหนึ่งด้วย ท่าทีของวันนี้ก็เปลี่ยนไปมาก เพียงแต่เรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอเคยทำยากที่เขาจะเชื่อใจเธอได้ง่าย…
เหลียงหวั่นจวินและเยี่ยเส่าถิงมองลูกสาวตัวเองเหมือนโตขึ้นมาภายในหนึ่งคืน นอกจากซาบซึ้งใจแล้ว ที่มากกว่านั้นคือความรัก
คนๆ หนึ่งต้องเจ็บปวดใจเพียงไหนถึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้
เยี่ยเส่าถิงถอนหายใจ “หวั่นหวัน ไม่ใช่ความผิดของลูก พ่อผิดเอง พ่อปกป้องลูกไม่ดี!”
เหลียงหวั่นจวินปวดใจ “หวั่นหวัน ลูกไม่ต้องลำบากขนาดนี้ พ่อแม่ไม่เป็นไร พ่อแม่แค่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี…”
เยี่ยหวันหวั่นเช็ดน้ำตา แววตาที่มีแสงไฟสะท้อนเป็นประกายราวกับดวงตา “พ่อ แม่ อย่าเห็นว่าหนูเป็นเด็กตัวเล็ก หนูโตแล้ว สามารถปกป้องพ่อแม่ได้แล้ว!”
คำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สองสามีภรรยาได้ยินแล้วนัยน์ตาก็แดงขึ้นมา
…………………………………………………
บทที่ 346 ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ทั้งงานตกตะลึง
เยี่ยมู่ฝานที่อยู่ข้างๆ เหมือนจะดื่มเมาแล้ว สายตาเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน หัวเราะเสียงต่ำ “หึ ปกป้อง แค่ตัวเธอ เธอจะปกป้องยังไง…ครอบครัวเราจบสิ้นแล้ว…จบสิ้นมานานแล้ว…ไม่เหลืออะไรแล้ว….”
ตอนนี้พวกเขาไม่เหลืออะไรสักอย่าง จะเอาอะไรไปสู้กับครอบครัวน้ารอง เอาอะไรไปแย่งทุกอย่างที่สูญเสียไปกลับมา…
หึ… ช่างไร้เดียงสาเสียจริง…
เพราะคำพูดเยี่ยมู่ฝาน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงอุทานดังมาจากโต๊ะประธาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี