เยี่ยมู่ฝานโมโหจนไม่สนใจแล้ว ทำแค่มองเยี่ยหวันหวั่นเดินทีละก้าวขึ้นไปบนเวทีหากู้เยว่เจ๋อและเยี่ยอีอี
“ผมบอกแล้วแค่เธอเห็นกู้เยว่เจ๋อก็ไร้เหตุผลหมด ตอนนี้พ่อแม่เชื่อคำพูดผมหรือยังล่ะ!” ในแววตาเยี่ยมู่ฝานมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ นิ้วที่จิกแก้วอยู่นั้นจิกจนขาวไปหมด
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ชั่วนี่ ความสัมพันธ์ของเขาและน้องสาวจะกลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง…
สายตาเหลียงหวั่นจวินที่มองลูกสาวเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “มู่ฝาน ลูกอย่าว่าหวั่นหวันแบบนี้ ครั้งนี้หวั่นหวันเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ แม่เชื่อว่าเธอจะไม่ก่อเรื่องผลีผลามอีก…”
เยี่ยเส่าถิงถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้ลูกสาวจะผลีผลามควบคุมไม่อยู่ทำอะไรลงไป แต่เขาคนที่เป็นพ่อ แม้แต่ความสุขของลูกสาวยังปกป้องไว้ไม่ได้ แล้วจะมีคุณสมบัติอะไรไปตำหนิเธอ ห้ามเธอ
หลังจากที่รู้สึกได้ถึงร่างที่สวมชุดสีแดงเดินใกล้เข้ามาทางเวที สายตาทุกคนในงานต่างย้ายจากกู้เยว่เจ๋อและเยี่ยอีอีไปที่เยี่ยหวันหวั่นทันที
ถึงอย่างไรรูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเยี่ยหวันหวั่นก็เป็นจุดสนใจของผู้คนมากอยู่แล้ว เพียงสถานที่ที่เธอปรากฏตัว ก็ย่อมดึงดูดสายตาของทุกคนแน่นอน
กู้เยว่เจ๋อเห็นหญิงสาวค่อยๆ ก้าวขึ้นมาบนเวที สีหน้าเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
มองอย่างเป็นกลาง วันนี้เยี่ยหวันหวั่นทำให้เขามองอย่างชื่นชมได้จริงๆ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ เขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ผู้หญิงที่ไม่มีผลประโยชน์อะไร
ผู้หญิงแบบนี้ บางทีอาจจะเป็นคู่นอนได้ แต่ไม่มีคุณสมบัติมาเป็นภรรยาเขา กู้เยว่เจ๋อเด็ดขาด
เยี่ยหวันหวั่นตามตื๊อแบบนี้ ถึงแม้จะทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายของเขาเต็มเปี่ยม แต่มากเกินไป ไม่แน่จะทำให้คนรังเกียจได้ โดยเฉพาะวันที่สำคัญอย่างวันนี้
วินาทีที่เยี่ยหวันหวั่นใกล้เข้ามา กู้เยว่เจ๋อรีบพาเยี่ยอีอีเข้าใกล้ตัวเองเพื่อปกป้อง สีหน้ามีท่าทีเตรียมพร้อมป้องกัน “คุณหนูรองเยี่ย มีเรื่องอะไรหรือ?”
ใบหน้างดงามดั่งภาพวาดของเยี่ยหวันหวั่นเผยรอยยิ้มเล็กน้อย พูดด้วยความเกรงใจ “คุณชายกู้ ขอฉันยืมไมโครโฟนหน่อยได้ไหม?”
รอยยิ้มนั้น ช่าง…ดูเอียงอาย… ทำให้ทุกคนหลงใหล…
ทันใดนั้นด้านล่างเวทีมีเสียงสูดลมหายใจทางปากขึ้นมาเป็นระยะ แม้แต่กู้เยว่เจ๋อก็อึ้งไปเช่นกัน ดวงตาสองข้างที่เย็นชาหรี่ลงเล็กน้อย นัยน์ตาสีดำขลับมองอย่างพินิจพิเคราะห์ไปทางหญิงสาวตรงหน้า
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่พูดอะไร รออย่างเงียบๆ
ส่วนทุกคนด้านล่างเวทีตอนนี้เหมือนหม้อที่ระเบิดแล้ว ทุกคนต่างกระซิบวิจารณ์กันอย่างตื่นเต้น
“ว้าว! คนรักใหม่และเก่าปรากฏตัวอยู่บนเวทีเดียวกัน! น่าตื่นตาตื่นใจมาก!”
“เยี่ยหวันหวั่นนี่จะมาก่อเรื่องอะไรอีก?”
“ไม่ใช่ว่าจะสารภาพรักต่อหน้าทุกคนนะ? หรือไม่ก็ร้องไห้โวยวายหาเรื่อง! ถึงยังไงเรื่องแบบนี้เธอก็ทำมาไม่น้อย!”
………
เห็นเยี่ยหวันหวั่นที่จู่ๆ เดินขึ้นเวทีไป สีหน้าเยี่ยหงเหวยดูไม่ดีขึ้นมาทันที กำลังคิดจะให้คนไปห้าม แต่เห็นว่าตอนนี้บนเวทีกู้เยว่เจ๋อยื่นไมโครโฟนในมือส่งให้เยี่ยหวันหวั่นแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นรับไมโครโฟนมา พูดขอบคุณอย่างมีมารยาท
กู้เยว่เจ๋อสีหน้าเมินเฉย ไม่แสดงออกใดๆ
เยี่ยอีอีเงยหน้าขึ้นไปมองกู้เยว่เจ๋อด้วยความกังวล กู้เยว่เจ๋อส่งสายตาปลอบใจให้เธอ
ไม่ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะก่อเรื่องยังไง เขาไม่คิดจะห้าม ในทางกลับกัน ยิ่งเยี่ยหวันหวั่นก่อเรื่อง ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อเขา…
“เรียนแขกผู้มีเกียรติ และเพื่อนสนิทที่มางานทุกท่าน ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้…” เยี่ยหวันหวั่นพูดกับแขกในงานช้าๆ
…………………………………………………
บทที่ 354 ฉันมีคนที่ชอบแล้ว
ความน่าดึงดูดนั้นไม่แพ้เยี่ยอีอีเมื่อกี้เลย ตรงกันข้าม ท่าทางที่เดินอย่างสบายๆ กับสีหน้าที่สงบนิ่งยิ่งแสดงออกชัดเจนว่าเป็นเจ้าภาพ
หลังทักทายเสร็จแล้ว ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็เข้าเรื่อง “วันนี้ อยากถือโอกาสที่บรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหายทุกท่านอยู่กันครบ ผู้น้อยอยากจะขอเวลาทุกคนเล็กน้อย เพื่อประกาศเรื่องหนึ่ง!”
ประกาศเรื่องหนึ่ง?
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหึ่งๆ เป็นระลอกจากด้านล่างเวทีทันที สงสัยว่าเยี่ยหวันหวั่นคิดจะทำอะไรกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี