กู้เยว่เจ๋อกล่าวผดุงความยุติธรรมจนจบ พลันหันมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยว่า “ผมกับเยี่ยหวันหวั่นไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก แต่เพราะคุณลุงเยี่ยใช้อำนาจบีบบังคับ ผมไม่ได้ฉีกหน้าคุณจนถึงวันนี้ ก็ถือว่าพยายามทำดีที่สุดแล้ว!”
ได้ฟังคำพูดของกู้เยว่เจ๋อ เยี่ยมู่ฝานกำหมัดแน่นเกือบจะอดใจไม่อยู่ ชกออกไปแล้ว
เห็นชัดเจนอยู่ว่าไอ้สารเลวนี่เห็นผลประโยชน์ก็ลืมคลองธรรม พอเห็นว่าคุณพ่อหมดอำนาจ ก็รีบไปเกาะเยี่ยอีอีทันที คงกลัวว่าคนจะเอาไปพูดจึงไม่ได้บอกเลิกการหมั้นหมายในทันที ตอนนี้กลับพูดเป็นการกล้ำกลืนความอัปยศ ช่างไร้ยางอายสุดๆ ไปเลย!
มู่เยี่ยฝานแม้จะแอบหัวเราะเย็นชาอยู่ในใจ แต่จงใจไม่พูดอะไร และมองเย้ยหยันไปทางเยี่ยหวันหวั่นเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
เป็นไปตามคาด แค่เห็นกู้เยว่เจ๋อ เยี่ยหวันหวั่นก็ปอดขึ้นมาทันที ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่กล้าพูดแทรกสักคำ
“ขอโทษด้วยครับคุณเยี่ยเส่าถิง เพื่อรักษามิตรไมตรีเล็กน้อยในอดีต ผมได้ทำผิดต่ออีอีมานานเกินไปแล้ว งานหมั้นระหว่างผมกับเยี่ยหวันหวั่นให้ยุติลงตรงนี้!” กู้เยว่เจ๋อแม้แต่สรรพนาม “คุณลุงเยี่ย” ก็ไม่เรียกแล้ว พูดจบก็โอบเยี่ยอีอีหันกายจากไป
“หวันหวั่น…” เยี่ยอีอีมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าขอโทษ แล้วถูกกู้เยว่เจ๋อโอบตัวเดินแยกออกไป
“คนสารเลว!” เยี่ยเส่าถิงโมโหจนหน้าบวมแดง อกกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรง
วันนี้ได้รับความอัปยศมากเท่าไรก็ยังไม่รู้สึกโกรธ ทว่าเวลานี้กลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เหลียงหวั่นจวินกุมมือลูกสาวด้วยความเป็นห่วง “หวันหวั่น…”
เยี่ยมู่ฝานมองเยี่ยหวันหวั่นที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แค่นเสียงด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “เยี่ยหวันหวั่น แกมันอนาคตไกลจริงๆ แค่เห็นกู้เยว่เจ๋อ จะตดก็ยังไม่กล้าเลย! เมื่อครู่อยู่ต่อหน้าพ่อแม่พูดจาสวยหรูมากไม่ใช่เหรอ? เป็นอะไร พอเห็นคนอื่นเขาดูแลปกป้องเยี่ยอีอี รู้สึกหดหู่ใจละสิ? ทำเป็นพูดว่าจะปกป้องพ่อแม่! กลัวว่าแค่คนสกุลกู้นั่นกวักมือเรียกแกก็ลืมแล้วว่าตัวเองชื่อสกุลอะไร ลืมไปด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนให้กำเนิดเลี้ยงดูแกมา!”
“มู่ฝานหยุดพูดได้แล้ว!” เหลียงหวั่นจวินมองเยี่ยมู่ฝานด้วยสายตาตำหนิ
เยี่ยมู่ฝานแค่นเสียงเย็นชา “ผมพูดผิดตรงไหน? สันดอนขุดได้ สันดานขุดไม่ได้ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! ผมขอเตือนไว้เลย เย็นนี้ให้พ่อกับแม่ดูเธอให้ดี ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่าจะต้องขายหน้าคนอื่นอย่างไรอีก!”
สำหรับทีท่าของเยี่ยมู่ฝาน เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่ได้สนใจเลย หยักมุมปากยิ้มเริงร่า หัวเราะกระซิกพลางกล่าว “พี่กังวลเกินไปแล้ว ฉันไม่พูดก็เพราะคร้านจะคุยกับคนแบบนั้นต่างหาก
อย่างไรแล้ว…พี่ชาย คนเราก็ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ สายตาก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นกู้เยว่เจ๋อคนเกรดนั้น ฉันน้องสาวของพี่ไม่สนใจแล้วจริงๆ!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินแบบนี้ก็อึ้งงัน แสดงออกชัดเจนว่าคาดไม่ถึงที่เยี่ยหวันหวั่นจะพูดจาแบบนี้ออกมา เมื่อก่อนแค่เขาพูดไม่ดีถึงกู้เยว่เจ๋อแม้เพียงเล็กน้อย เธอก็วีนแตกใส่เขาแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยต่อไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ฉันไม่ได้เหมือนพี่นะ หลายปีแล้วสายตามองคนก็ไม่พัฒนาขึ้นเลยสักนิด!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินนัยยะจากคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าพลันถอดสี วางแก้วเหล้าในมือกระแทกลงบนโต๊ะ “เยี่ยหวันหวั่น! แกหมายความว่าไง!”
เยี่ยหวันหวั่นเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มเอ่ยไปว่า “พี่ปากก็พูดอยู่ตลอดว่าเพื่อผู้ชายคนเดียว ฉันก็ลืมชื่อสกุลของตัวเอง แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่รู้จักแล้ว แต่ตัวพี่เองล่ะ? พี่ดีกว่าฉันตรงไหน? ก็ยังหลงผู้หญิงคนเดียวหัวปักหัวปำไม่ใช่เหรอ? ยอมลดตัวเองไปเป็นม้าเป็นวัวให้เขาใช้งาน!”
…………………………………
บทที่ 352 ไม่เกี่ยวกับพี่
“เธอ…” เยี่ยมู่ฝานโมโหจนหายใจติดขัด
“พอแล้วๆ วันนี้ไม่ง่ายเลยกว่าครอบครัวพวกเราจะรวมตัวกันได้ อย่าทะเลาะกันแล้ว!” เหลียงหวั่นจวินเห็นพี่ชายน้องสาวสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว ก็รีบไกล่เกลี่ย
เยี่ยมู่ฝานฝืนกล้ำกลืนความโมโหลงท้องไป ก้มหน้าดื่มเหล้าไม่หยุด
เวลานี้ งานเลี้ยงดำเนินมาถึงครึ่งทางแล้ว
เยี่ยอีอีหยิบไมโครโฟนขึ้นมา ยืนอยู่บนเวทีพูดต้อนรับแขกที่มางานวันเกิดอย่างมีน้ำใจและเป็นธรรมชาติ ทั้งตัวดูมีความเป็นผู้ดีและสง่างาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี