“พ่อคะ แม่คะ ไม่ต้องห่วง หนูจะช่วยพูดกับพี่เอง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปลอบ สายตาวาววาบด้วยเย็นชา
สถานการณ์ของพี่ตอนนี้ ถ้าอยากให้เขาได้สติ จะต้องใช้ยาแรงถึงจะได้ผล เธอยังต้องวางแผนให้ดีสักหน่อย…
“หวันหวั่นเด็กดี!” เมื่อเห็นลูกสาว เหลียงหวั่นจวินกับเยี่ยเส่าถิงถึงได้ใจชื้นขึ้นหลายส่วน
ที่คฤหาสน์มีพ่อบ้านคอยส่งคนมาดูแลรักษาความสะอาดโดยเฉพาะทุกเดือน ดังนั้นแม้ว่าจะไม่มีคนอยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อยเหมือนเดิม
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่ค่อนข้างมีราคาสูงล้วนถูกประมูลออกไปหมดแล้ว แต่ว่าของอย่างอื่นยังคงอยู่ครบถ้วน
เยี่ยหวันหวั่นมองดูสถานที่ที่คุ้นเคยแห่งนี้ ดวงตาก็เห่อร้อนอย่างควบคุมไม่ได้
ในที่สุดเธอก็ได้กลับบ้านแล้ว…
อันที่จริงตึกเล็กๆ หลังนี้ก็แค่อยู่ในพื้นที่ที่หายากเท่านั้น ที่ดินมีราคา บวกกับที่มารดาของเธอชอบสภาพแวดล้อมที่นี่ ถึงได้อยู่ที่นี่ตลอดหลายปีไม่ย้ายไปไหน ตัวบ้านไม่นับว่าใหญ่โต ด้วยเพราะสร้างมานานแล้วจึงค่อนข้างเก่า
วันหน้ารอให้เธอหาเงินได้ จะซื้อที่ดีกว่านี้ให้พวกเขา
เยี่ยหวันหวั่นกลัวว่าพ่อแม่จะเป็นห่วง ก็เลยไม่กล้าบอกพวกเขาเรื่องที่เธอทำงานเป็นลูกน้องของฉู่หงกวง บอกเพียงแค่ว่าก่อนหน้านี้เธอได้ช่วยเพื่อนคนหนึ่งไว้ ให้เขายืมเงินก้อนหนึ่งในขณะที่เขากำลังลำบากสุดๆ บ้านเป็นสิ่งที่เพื่อนคนนั้นไถ่ถอนมาให้เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือในครั้งนั้น และตัวเธอเองตอนนี้ก็ช่วยงานและฝึกงานอยู่ทีบริษัทของเพื่อนคนนั้น
สมาชิกทั้งสามของครอบครัวไม่ได้เจอกันมานาน จึงพูดคุยกันอย่างยืดยาว
นอกจากจะพูดเรื่องของเธอแล้ว สิ่งที่เหลียงหวั่นจวินแล้วเยี่ยเส่าถิงถามถึงมากที่สุดก็คือ…แฟนหนุ่มแสนธรรมดาใสซื่อของเธอคนนั้น
“หวันหวั่นลูก คนที่ลูกชอบคนนั้น…คงไม่ใช่เพื่อนที่ชื่อว่าเยี่ยไป๋คนนี้หรอกนะ?” เหลียงหวั่นจวินลองเลียบเคียงถาม
“แค่กๆ…ไม่ใช่เพื่อนคนนั้น…แม่ก็ หนูรู้ว่าแม่กับพ่อเป็นห่วงว่าหนูจะพลาดซ้ำสอง ถูกหลอกอีก แต่พ่อกับแม่วางใจได้ สรุปคือเขาไม่เหมือนกู้เยว่เจ๋อ เรื่องเห็นผลประโยชน์แล้วลืมบุญคุณ เรื่องทอดทิ้งหนูเพื่อเงินทองและอำนาจ แฟนของหนูเขาไม่มีทางทำอย่างแน่นอน!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด
เฮอะๆ…นั่นคือซือเยี่ยหานเชียวนะ…
ตัวเขาเองนั่นแหละคือร่างอวตารของเงินทองและอำนาจ มีเงินทองและอำนาจที่ไหนทำให้เขาเห็นผลประโยชน์แล้วลืมบุญคุณได้…
“รอให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนพัฒนาไปมากกว่านี้อีกหน่อย หนูจะต้องพาเขามาเจอพ่อกับแม่แน่นอน!”
อื้อ รอให้หนูคิดวิธีทำให้ปีศาจร้ายดู ‘ธรรมดา’ กว่านี้อีกสักหน่อยก่อนนะคะ…
…
ยามราตรี เยี่ยหวันหวั่นคุยกับพ่อแม่อยู่นาน เพราะว่าพรุ่งนี้เธอยังต้องทำงาน ถึงได้ร่ำลาพ่อแม่กลับหอพักอย่างตัดใจไม่ลง
ค่ำคืนมืดมิดหนาวเย็น พระจันทร์เสี้ยวแขวนอยู่บนท้องนภาเหนือศีรษะ
แท็กซี่แล่นมาได้ครึ่งทาง เยี่ยหวันหวั่นกลับบอกให้แท้กซี่จอดกะทันหัน หลังจากชำระค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังบริเวณตลาดของกินริมทาง
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณปู่ในคืนนี้ เธอแทบไม่ได้กินสิ่งใดเลย เมื่อครู่บทที่คุยกับพ่อแม่ก็ไม่รู้สึกตัว ตอนนี้กระเพาะอาหารกำลังเริ่มประท้วงอย่างบ้าคลั่งแล้ว
ในร้านอาหารริมทาง แม้ว่าภายนอกจะดูไม่หรูหรา แต่กลับเรียบง่าย กลิ่นหอมของอาหารอบอวลไปทั่ว
เทียบกับร้านอาหารหรูๆ พวกนั้น สถานที่แบบนี้ถึงจะมีอาหารเลิศรสที่แท้จริง
เอาเถอะ…อันที่จริงก็แค่เพราะเธอค่อนข้างจนเท่านั้นเอง…
เยี่ยหวันหวั่นเลือกนั่งในมุมที่ค่อนข้างเงียบไม่มีคน
“คนสวย…รับอะไรดี?”
เจ้าของร้านเป็นผู้ชายวัยกลางคน หลังจากเห็นหน้าตาของหญิงสาวในมุมมืดชัดเจนแล้วพลันตะลึงไปแวบหนึ่ง แล้วยิ้มเต็มหน้าส่งเมนูอาหารในมือให้ทันที
“ฉันขอดูหน่อยนะ…ฉันขอซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานหนึ่งที่ ผัดเนื้อน้ำแดงหนึ่งที่ ปลานึ่งต้นหอมหนึ่งที่ แล้วก็แพะปิ้งยี่สิบไม้ หมูปิ้งสิบไม้ กระดูกอ่อนสิบไม้…”
………………………………………………………
บทที่ 360 มีเพื่อนไม่จริงใจแบบนี้ด้วย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี