ซือเยี่ยหานชำเลืองมองหญิงสาวที่อ้าสองแขนมาทางตน ท้ายที่สุดก็เดินเข้าไปหา อุ้มเธอขึ้นวางลงบนเตียง
เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จอย่างรวดเร็ว เก็บสัมภาระข้าวของ แล้วลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จากมุมห้องออกมา
ในเวลาเดียวกันนี้ ที่ชั้นล่าง
“นายว่าอะไรนะ? ผู้หญิงคนนั้นจะไปกับเราด้วย?” ได้ฟังคำพูดจากสวี่อี้แล้ว หลิวอิ่งทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนั้นเห็นท่าว่าขัดขวางไม่สำเร็จ ก็เลยจะตามไปต่างประเทศด้วยเสียเลยเพื่อจะได้เกาะแกะนายท่าน ไร้ยางอายสุดขอบโลกจริงๆ!
สวี่อี้กระแอมเบาๆ “อะแฮ่ม ใช่แล้ว เพื่อความสะดวก คาดว่าต้องจัดบอดี้การ์ดผู้หญิงมาสักสองสามคน”
หลิวอิ่งหน้าตาเดือดดาล “นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว! เรื่องสำคัญขนาดนี้ จะพาผู้หญิงเกะกะอย่างเธอไปทำไม?”
สวี่อี้ถอนหายใจ “เฮ้อ นายพูดให้น้อยลงหน่อยเถอะ อยากโดนด่าอีกหรือไง? คุณชายเก้าตัดสินใจแล้ว ต่อให้นายจะไม่ชอบเธอขนาดไหน ยังไงเธอก็เป็นคนที่คุณชายเก้าเลือก…”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคือคนที่คุณชายเก้าเลือก นายคิดว่าฉันจะทนได้ถึงทุกวันนี้เหรอ?”
ขณะที่หลิวอิงกำลังโมโหเดือดดาล ก็เห็นเยี่ยหวันหวั่นคล้องแขนนายท่านของตัวเอง เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อย เดินออกมาจากในห้อง
บอดี้การ์ดข้างกายสองคนช่วยเธอลากกระเป๋าสัมภาระ
กระเป๋าสัมภาระของเยี่ยหวันหวั่นมีกระเป๋าใบเล็กสีชมพูหนึ่งใบ กระเป๋าเป้หนึ่งใบ และยังมีกระเป๋าสัมภาระไซส์ใหญ่สุดสีดำขนาดประมาณสามสิบนิ้วที่เธอนำมาจากคอนโดเมื่อคืนนี้อีกใบ
หลังจากนำกระเป๋าลงจากตึกมาแล้ว ผู้คนต่างอดไม่ได้พากันชำเลืองมองกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ของเยี่ยหวันหวั่น โดยเฉพาะกระเป๋าใบใหญ่จนน่าตกใจใบนั้น
เอาของไปมากมายขนาดนี้ คุณหนูใหญ่ท่านนี้คิดว่าไปเที่ยวเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจสายตาของคนเหล่านั้น เอ่ยกำชับด้วยสีหน้าดังเดิม “ของในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้ากับเครื่องสำอางที่ฉันรักที่สุด ต้องดูแลให้ดี ห้ามทำหายนะ โดยเฉพาะสีดำใบนั้น”
“ครับ คุณหนู!” พวกบอดี้การ์ดรับเสียงเบา
หลิวอิ่งสาวเท้าเร็วมาข้างหน้า มองอย่างร้อนใจไปยังซือเยี่ยหานพลางกล่าว “นายครับ การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างนาน เงื่อนไขระหว่างทางก็ไม่ง่าย ถ้าพาคุณหนูเยี่ยไปด้วย เกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกนะครับ”
คำพูดบอกเป็นนัย ไม่มีอะไรนอกจากบอกว่าเยี่ยหวันหวั่นจะเป็นตัวถ่วง
เยี่ยหวันหวั่นกอดแขนซือเยี่ยหาน เบ้ปากเหล่ตามองไปทางหลิวอิ่งแวบหนึ่ง “ถึงยังไงแฟนฉันก็จะดูแลฉันเอง นายไม่ต้องกังวลมากไปหรอก?”
หลิวอิ่งไม่พอใจ “ครั้งนี้นายท่านไปธุระเรื่องงาน ถ้าคุณเป็นห่วงนายท่านจริงๆ ก็ไม่ควรหาเรื่องยุ่งยากมาให้ในเวลาแบบนี้…”
พูดยังไม่ทันจบ ซือเยี่ยหานก็ใช้แววตาเย็นชามองมาที่ชายหนุ่ม “หลิวอิง”
ได้รับสายตาตักเตือนจากนายท่าน หลิวอิ่งกำหมัดข้างกายแน่น เงียบเสียงลงอย่างไม่พอใจ
เห็นว่าซือเยี่ยหานให้ท้ายตน เหมือนว่าเยี่ยหวันหวั่นกลัวว่าหลิวอิ่งจะยังโมโหไม่มากพอ จึงเชิดหน้าเล็กๆ ขึ้นมาอย่างได้ใจ ทั้งยังหอมแก้มของซือเยี่ยหานไปฟอดหนึ่ง
อย่างไรซะแค่ได้เห็นหลิวอิ่งโมโห เธอก็รู้สึกดีแล้ว
เป็นอย่างที่คิด หลิวอิ่งเห็นท่าทาง ‘หน้าไม่อาย’ ของเธอแล้วยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
เยี่ยหวันหวั่นหยักมุมปากเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม พลางมองหลิวอิงแวบหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “ฉันว่านายเป็นห่วงตัวเองจะดีกว่านะ ฉันว่างไม่มีอะไรทำเลยดูดวงให้นายแล้ว ทำนายว่าวันแรกที่นายไปถึงประเทศ B จะมีเคราะห์ต้องนองเลือด ฮิๆ ระวังตัวหน่อยนะ”
ชาติก่อน เรื่องที่ซือเยี่ยหานเจอครั้งนี้โด่งดังใหญ่โตมาก หลังจากพวกซือเยี่ยหานกลับมาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากคำสนทนาของผู้คน กระทั่งรายละเอียดปลีกย่อยก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ในความทรงจำ เธอจำได้ว่าวันแรกที่หลิวอิ่งไปถึงประเทศ B ก็ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรถึงไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นเขา ทั้งยังโดนตีหัวแตกด้วย
“เธอ…” หลิวอิ่งคิดแต่ว่าเยี่ยหวันหวั่นกำลังสาปแช่งตนเอง ยิ่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
……………………………..……
บทที่ 386 อันตรายมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี