ผู้ที่เดินนำมาสามคน คนตรงกลางมีหน้าตาค่อนไปทางเอเชียที่สูงเมตรเก้าสิบ สวมเสื้อกั๊กลายพราง หน้าตาดุดัน กล้ามเนื้อแขนปูดโปน จนเห็นเส้นเลือดชัดเจน สิ่งที่ทำให้ต้องชำเลืองมองคือรอยสักรูปไม้กางเขนที่แขนข้างซ้ายของเขา
คนด้านซ้ายใช้สีน้ำวาดจนกลายเป็นโจ๊กเกอร์ มีรอยยิ้มน่าขนลุก เขามีรูปร่างบางผอมและเตี้ย ทว่ากลับพาดอาวุธที่มีน้ำหนักมากไว้บนไหล่ กระสุนระเบิดเมื่อครู่เป็นเขาที่ยิงออกมานั่นเอง
ชายหนุ่มด้านขวามีผมสีทองดวงตาสีฟ้า ผิวเนียนขาว รูปร่างหน้าตาค่อนไปทางผู้หญิง ท่าทางเจ้าเล่ห์ สวมชุดสูทสีขาวทั้งตัว กำลังมองมาทางหลิวอิ่งด้วยท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
หลังจากมองเห็นคนทั้งสามชัดเจน ร่างกายของหลิวอิ่งพลันตึงเครียดราวกับคันศรที่ถูกดึงจนสุด ทั่วทั้งร่างกำลังเข้าสู่โหมดระวังภัย
คนตรงกลางที่มีรอยสักไม้กางเขนบนแขนคนนั้นเป็นหัวหน้าของพันธมิตรเลือด มีฉายาว่า K ไม่มีใครรู้ถึงชื่อจริงและประวัติความเป็นมาของเขา
คนทางด้านซ้ายและขวาของ K เป็นผู้ช่วยของเขาชื่อว่าโจ๊กเกอร์เจสัน
หนุ่มจิ้งจอกผมสีทองตาสีฟ้าที่ไม่มีอาวุธใดๆ ในมือเลยมีชื่อว่ายูจีน คนที่ดูเหมือนจะมีพละกำลังน้อยที่สุด อันที่จริงแล้วกลับโหดเหี้ยมน่ากลัวที่สุด
ที่เขาไม่ชอบใช้อาวุธ ก็เพราะว่าสิ่งที่เขาชอบที่สุดคือการที่ได้แหกอกแหวกท้องคนด้วยมือตัวเอง ยอดฝีมือที่จบชีวิตใต้น้ำมือของเขานั้นมีจำนวนนับไม่ถ้วน
ยูจีนและเจสันเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ของประเทศ M ชื่อเสียงเหม็นโฉ่กระฉ่อนไปทั่ว
“เป็นพันธมิตรเลือดจริงๆ ด้วย…” หลังจากที่เห็นผู้นำทั้งสาม ความหวังสุดท้ายในใจของสวี่อี้ก็ดับสิ้นแล้ว
แม้ว่าจะเป็นองค์กรที่เกือบจะเป็นตำนานมีคนเคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงน้อยมาก แต่แค่มองดูลักษณะเด่นของพวกเขาก็เพียงพอที่จะเดาตัวตนของพวกเขาได้แล้ว
“น่าตายนัก!” หลิวอิ่งสบถ
ทุกคนรีบลงจากรถ เผชิญหน้ากับกลุ่มคนตรงหน้าราวเจอศัตรูตัวฉกาจ
หนุ่มจิ้งจอกยูจีนลูบนิ้วมือที่ยาวกว่าคนทั่วไปเท่าหนึ่ง มองหลิวอิ่งที่ถูกไฟไหม้ผมไปครึ่งหนึ่งจนหน้าดำปื้น ยิ้มจนใบหน้าดูน่าขนลุก “ฮึ นายคือหลิวอิ่ง ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของซือเยี่ยหานงั้นเหรอ?”
สายตาดูถูกที่เหมือนกับมองมดกับขยะของฝ่ายตรงข้ามได้จุดความเพลิงโกรธของหลิวอิ่งให้ลุกโชนขึ้นทันที
หลิวอิ่งกำลังจะขยับ สวี่อี้กลับดึงเขาไว้ จากนั้นก้าวเท้าออกไปพลางเอ่ยว่า “ในเมื่อรู้ว่าพวกเราเป็นใคร ขอถามสักประโยค ตระกูลซือกับพันธมิตรของท่านไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดพันธมิตรของคุณถึงไม่ยอมปล่อยพวกเราไป?”
ยูจีนหัวเราะขึ้นเบาๆ “หืม? ไม่มีความแค้นต่อกัน แล้วฉันจะฆ่าซือเยี่ยหานไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
“แก…” ได้ยินฝ่ายตรงข้ามพูดออกมาง่ายๆ ว่าจะฆ่าซือเยี่ยหานแบบนี้ หลิวอิ่งโกรธเสียจนเส้นเอ็นที่มือปูดโปน
สวี่อี้แค่นหัวเราะ “ย่อมได้อยู่แล้ว ผมก็เชื่อว่าพวกคุณมีความสามารถที่จะทำอย่างนั้น แต่พวกคุณเคยคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหรือเปล่า?”
หากวันนี้พวกเขาตายอยู่ที่นี่จริงๆ หากซือเยี่ยหานจบชีวิตลงที่นี่ เช่นนั้นพันธมิตรเลือดก็จะต้องเตรียมตัวรับเพลิงโกรธของตระกูลซือ!
ต่อให้พันธมิตรเลือดจะยิ่งใหญ่อีกสักแค่ไหน ก็ไม่อาจต่อกรกับทั้งตระกูลซือได้
ดังนั้นสวี่อี้ถึงได้แปลกใจ ว่าเหตุใดพันธมิตรเลือดถึงได้กล้าทำเช่นนี้ กล้าที่จะเสี่ยงมากขนาดนี้
สวี่อี้พยายามฝืนนิ่ง กล่าวต่อไปว่า “ไม่ว่าเป้าหมายของพวกคุณคืออะไร หรือว่ารับคำไหว้วานจากใครมา ผมก็เชื่อว่านี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก”
หลังจากได้ยินคำข่มขู่จากสวี่อี้ ใบหน้าของผู้นำทั้งสามเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ในขณะที่สวี่อี้เกิดความหวังริบหรี่ขึ้นนั้นเอง ยูจีนพลันหลุดหัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา “ฮึ แต่ว่า ทำอย่างไรดีล่ะ? ฉันเป็นพวกชอบภารกิจยากๆ แบบนี้น่ะสิ!”
โจ๊กเกอร์เจสันที่อยู่ด้านข้างก็ร่วมหัวเราะด้วยอย่างชอบใจ เสียงแหบแห้งเอ่ยเสียดแทง “ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
……………………………………………………..
บทที่ 398 มอบเกียรตินี้ให้กับนาย
อีกด้านหนึ่ง
เยี่ยหวันหวั่นถูกพามาส่งยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
“คุณหนูเยี่ยขึ้นเครื่องเถอะครับ” หนึ่งในบอดี้การ์ดลับเอ่ยเสียงเย็นชา
เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตาไร้ความรู้สึกไปยังบอดี้การ์ดลับทั้งสอง พลันเอ่ย “ใครบอกว่าฉันจะไป?”
บอดี้การ์ดลับอีกคนที่มีน้ำเสียงนิ่งสงบมาตลอด ในที่สุดก็แฝงความรำคาญ “คุณหนูเยี่ย สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมาก กรุณาอย่าเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่น”
คนอย่างพวกเขาเดิมทีต้องคอยอยู่คุ้มกันข้างกายนายท่าน ทว่าบัดนี้กลับถูกสั่งให้มาคอยคุ้มกันเพื่อส่งผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ว่าผู้หญิงคนนี้กลับก่อเรื่องไม่รู้จบ ต่อให้ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี พวกเขาก็อดทนจนถึงขีดสุดไปนานแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจคำพูดของบอดี้การ์ดลับ เปิดกระเป๋าสัมภาระของตัวเองที่วางอยู่ข้างมือมาตลอดด้วยความว่องไว
ข้างในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้าทั้งหมด…
เยี่ยหวันหวั่นหยิบกระโปร่งฟูฟ่องสีดำและหมวกผ้าโปร่งย้อนยุคสีดำมาเข้าชุดกันอย่างรวดเร็ว พลางเหลือบหางตามองนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็สั่งบอดี้การ์ดลับทั้งสองทันที “พวกนายที่ซุ่มแอบอยู่ยังมีอีกกี่คน? ให้พวกเขาออกมาให้หมด แล้วเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าในกระเป๋านี้ทุกคน!”
มันเวลาไหนแล้ว เธอยังมีแก่ใจมาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่อีก ทั้งยังจะให้พวกเขาเปลี่ยนด้วย?
ผู้หญิงคนนี้รู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?
บอดี้การ์ดลับสูดลมหายใจลึกเข้าปอด พลางกล่าว “คุณหนูเยี่ย ขอคุณ…”
สายตาของเยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งโดยพลัน ห้อมล้อมไปด้วยแรงขมขู่ขนาดใหญ่ พลางตวาดออกไป “หุบปาก หากไม่อยากให้นายท่านของพวกนายตาย ก็ทำตามที่ฉันบอก! ฉันจะพูดอีกครั้งเดียว ให้บอดี้การ์ดลับทุกคนมารวมตัวกันทันที เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยภายในสามนาที! แล้วตามฉันมา!”
ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไร…
กว่าจะหนีออกมาได้ไม่ง่ายเลย คิดจะกลับไปอีกเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้รักตัวกลัวตายจนทิ้งนายท่านมาไม่ใช่เหรอ?
“รู้จักกุหลาบแห่งความตายไหม?” เยี่ยหวันหวั่นถามขึ้นพลางมองไปทางหัวหน้าบอดี้การ์ดลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี