ได้ฟังรายงานของสวี่อี้แล้ว ผู้อาวุโสตระกูลซือหลายคนที่อยู่ในห้องด้วยต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม
ว่าที่นายหญิงตระกูลซือ ตำแหน่งนี้มีคนหมายปองอยู่ตั้งเท่าไหร่?
ทีแรกข้างกายของซือเยี่ยหานก็ไม่มีผู้หญิงคนไหน ทุกคนก็ยังอยู่ในความสงบไม่มีปัญหาอะไรได้ ใครจะรู้ซือเยี่ยหานจู่ๆ ก็พาผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งไปพบคุณหญิงย่าที่บ้านใหญ่ ทำลายความสงบอันผิวเผินนี้เสียแล้ว
ติดที่กำลังน่าเกรงขามของซือเยี่ยหาน ทุกคนจึงพากันเงียบปากกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในใจจะไม่มีข้อเห็นต่าง ทว่าความขัดแย้งและความไม่พอใจนี้กลับค่อยๆ รุนแรงขึ้นตามกาลเวลา
หนึ่งในผู้อาวุโสของตระกูลที่นั่งอยู่ที่โซฟา ในมือยกกาปั้นชาเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “คุณหนูท่านนั้นอย่างไรแล้วก็เป็นคนนอก ความจริงไม่จำเป็นต้องมาลำบากกับเรื่องในตระกูลซือของพวกเรา การกระทำของผู้ช่วยสวี่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ฉันเองก็เห็นด้วยอย่างมาก”
พูดมาถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสตระกูลซือชำเลืองหางตาอย่างไม่แยแสไปทางเยี่ยหวันหวั่น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ตอนนี้เป็นการพูดคุยความลับและเรื่องภายในครอบครัวของพวกเรา ขอเชิญคุณหนูท่านนี้กลับไปเถิด”
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางคนที่พูดอยู่อย่างใจเย็น
การแก่งแย่งภายในตระกูลซือระหว่างญาติสายตรงและสายรองเข้มข้นอย่างมาก แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายมากมาย คนผู้นี้ที่พูดอยู่ก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลฉิน ในชาติก่อนเขาคือหนึ่งในผู้สนับสนุนคนสำคัญของฉินรั่วซี
เดิมทีคนที่มีความหวังจะได้ขึ้นเป็นนายหญิงของตระกูลมากที่สุดก็คือฉินรั่วซี เพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์กับตระกูลฉิน คนเหล่านี้ได้ลงทุนเบี้ยต่อรองไปไม่น้อย ความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันช่างเหนียวแน่นซับซ้อน ผลประโยชน์ถูกวางตัวไม่อาจเปลี่ยนแปลงไว้แต่แรกแล้ว แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งโผล่ขึ้นมายึดครองตำแหน่งนี้ไป แล้วพวกเขาจะยังนั่งติดเก้าอี้ได้อีกเหรอ?
อีกทั้งคนเหล่านี้เก่งเรื่องพิจารณาคำพูดและการสังเกตสีหน้า เกรงว่าคงจะมองออกที่คุณหญิงย่าไม่พอใจเยี่ยหวันหวั่น จึงใช้โอกาสที่ดีนี้กำจัดเธอเสียเลย
ด้วยคำพูดสั้นๆ ไม่กี่คำ ก็ปฏิเสธสถานะของเธอกลางสาธารณชนแล้ว
เป็นตามคาด แม้ว่าคุณหญิงย่าจะขมวดคิ้วย่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดว่าอะไร
ไปก็ไป หลายวันมานี้มีเรื่องอกสั่นขวัญหายอยู่ตลอด เธอง่วงนอนไม่ไหวแล้วอยากจะกลับไปพักเหลือเกิน ไม่สนใจอยากฟังคนพวกนี้ร่ายยาวอยู่ที่นี่สักหน่อย
แต่ว่า…
เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองไปทางสวี่อี้อย่างไม่แน่ใจ ช่วงเวลาในชาติก่อน หนอนบ่อนไส้ตัวจริงต้องการที่จะปกปิดความผิดตัวเอง คนของซือเยี่ยหานเพิ่งจะกลับมา พวกเขาก็ชิงลงมือกับสวี่อี้ทันที โยนความผิดหนอนบ่อนไส้ให้เขาคาที่ ปล่อยให้เขากลายเป็นแพะรับบาป…
เธอรู้สึกมีลางสังหรณ์ แม้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องราวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะการยื่นมือเข้าไปแทรกของเธอนั้น แต่ว่าเรื่องราวครั้งนี้ตระกูลซือจะต้องสืบหาตัวคนร้ายให้ได้ หลังจากที่แผนการของคนพวกนั้นล้มเหลว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกเขาจะลากใครสักคนมาช่วยปกปิดความผิดของพวกเขาเอง
ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อมามีความเป็นไปได้ว่าจะเหมือนกับในชาติก่อน…
เห็นเยี่ยหวันหวั่นยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น ท่าทางหน้าด้านไม่สนใจ สายตาของผู้อาวุโสประกายความเย็นชาอยู่หลายส่วน พูดซ้ำอีกครั้ง “คุณหนูท่านนี้ยังมีธุระอะไรหรือ? หากไม่มีแล้วก็ขอเชิญคุณออกไปด้วย”
เวลานี้เอง ฉินรั่วซีก็เอ่ยแก้ไขสถานการณ์ “คุณอาเฝิงคะ คุณหนูเยี่ยเป็นแฟนของอาจิ่ว และก็เป็นว่าที่นายหญิงของตระกูลซือ ไม่ถือว่าเป็นคนนอก”
คำพูดของฉินรั่วซีเพิ่งจะจบลง ก็มีเสียงเย้ยหยันอย่างเย่อหยิ่งเสียงหนึ่งดังมาจากด้านนอกประตู “เหอะ นายหญิงของตระกูล? น่าตลกสิ้นดี! คนแบบเธอคู่ควรด้วยเหรอ?”
ผู้อาวุโสมองไปทางหญิงสาว “ชิ่นอวี้ เธอมาได้อย่างไร?”
“พ่อคะ หนูมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าค่ะ เมื่อครู่ที่หน้าประตูบังเอิญได้ยินพวกพ่อคุยกันว่าพวกพี่เก้าเผชิญอันตราย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทิ้งพี่เก้าและพวกพ้องหนีเอาตัวรอดคนเดียวไม่มีความละอายเลยแม้แต่น้อย!” เฝิงชิ่นอวี้กล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
…………………………………
บทที่ 416 เป็นเพียงการสั่งสอน
สวี่อี้ได้ฟังเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ เกรงว่าคงต้องเสียมารยาทขัดคำพูดของเฝิงชิ่นอวี้เสียแล้ว พยายามจะอธิบาย “คุณหนูเฝิงครับ เรื่องเมื่อครู่ผมยังเล่าไม่จบเลย ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ…”
ผลที่ออกมา สวี่อี้ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกชิ่นอวี้ตะคอกใส่เสียงแข็งกร้าว “นายเป็นบ้าอะไร! ฉันกำลังพูดอยู่กับคุณพ่อ นายมาพูดแทรกได้อย่างนั้นเหรอ? แม้แต่ปกป้องเจ้านายก็ยังทำไม่ได้ ตระกูลซือเลี้ยงคนอย่างนายไว้จะมีปะโยชน์อะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี