“เธอตบฉัน…เธอกล้าตบฉันงั้นเหรอ! ของเล่นสกปรกต่ำต้อยอย่างเธอกล้ามาใช้อำนาจนายหญิงกับฉันงั้นเหรอ! กล้ามาสั่งสอนฉันอีก!”
เฝิงชิ่นอวี้โกรธหน้าบวมเป็นสีตับหมู ยกมือหมายจะตบแรงๆ กลับไปที่เยี่ยหวันหวั่น “ชั้นต่ำ!”
วินาทีถัดมา สวี่อี้และสิบเอ็ดขยับขึ้นหน้ามาก้าวหนึ่งพร้อมกัน บังอยู่ข้างหน้าของเยี่ยหวันหวั่นราวกับกำแพงหินสองแผ่น
สิบเอ็ดเอ่ยว่า “คุณหนูเฝิง! อย่าเสียมารยาทกับคุณหนูหวันหวั่น!”
สวี่อี้กล่าว “ขอคุณหนูเฝิงช่วยระวังคำพูดด้วย”
เฝิงชิ่นอวี้หน้าตาโกรธเคืองถลึงตาจ้องคนทั้งสอง “ดี…ช่างดีเหลือเกิน…ช่างเป็นสุนัขสองตัวที่ซื่อสัตว์ภักดีเหลือเกิน! พวกนายหลงเสน่ห์ของนังจิ้งจอกคนนี้จนลืมไปแล้วเหรอว่าเจ้านายของตัวเองคือใคร? ถึงได้มาปกป้องคนชั้นต่ำที่รักตัวกลัวตายลืมหน้าที่เนรคุณแบบนี้?”
นัยน์ตาของสิบเอ็ดประกายรังสีสังหาร แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่นพลันกล่าว “คุณหนูเฝิงครับ จริงอยู่ที่คุณหนูหวันหวั่นไม่ได้เลือกสู้ตายไปพร้อมกับพวกเรา แต่ว่าเธอช่วยชีวิตของพวกเราทุกคนไว้!”
เฝิงชิ่นอวี้ชะงักงัน แค่นหัวเราะกล่าวเย้ยหยัน “ช่วยชีวิตทุกคน? อาศัยคนอย่างเธอเนี่ยนะ? เพื่อปกป้องนังจิ้งจอกนี้แล้ว คำพูดอะไรพวกนายก็สามารถพูดออกมาได้หมดเลยเหรอ! ถึงขนาดกล้าพูดจาพล่อยๆ ต่อหน้าคุณย่า และต่อหน้าพวกเราทุกคนตั้งมากมายเพียงนี้!”
“ชิ่นอวี้ ใจเย็นก่อน!” คุณหญิงย่าสายตาดุมองไปทางเฝิงชิ่นอวี้ แล้วมองไปทางสิบเอ็ดพลันเอ่ยถาม “สิ่งที่นายพูดเมื่อครู่ เป็นเรื่องจริงไหม?”
เผชิญหน้ากับสายตาความสงสัยของคุณหญิงย่าและผู้อาวุโสทุกคนในที่นี่ สายตาของสิบเอ็ดไม่มีความหวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย “ผมไม่กล้าพูดจาปดเท็จสักคำ หากไม่ได้คุณหนูหวันหวั่นช่วย พวกเราเหล่านี้รวมถึงนายท่าน ในเวลานี้เกรงว่าคงจะกลายเป็นศพกันหมดแล้ว!
คุณหนูหวันหวั่นไหวพริบเหนือธรรมดา ยิ่งต้องชื่นชมในความกล้าหาญ ในตอนนั้นเธอก็แค่แกล้งตามพวกเราหนีไป ถัดมาได้เสนอความคิดให้พวกเราปลอมตัวเป็นกลุ่มอำนาจหนึ่งเดียวที่พันธมิตรเลือดเกรงกลัวมากๆ ออกไปขับไล่พวกพันธมิตรเลือดจนตกใจกลัวล่นถอยไปทั้งหมด พวกเราถึงได้มีโอกาสปลีกตัวหนีออกมาเช่นนี้! เมื่อครู่คุณหนูเฝิงพูดจาดูถูกจาบจ้วงคุณหนูหวันหวั่นเช่นนี้ เป็นการกระทำที่เกินไป!”
แม้ว่าการอธิบายซ้ำขึ้นมาในเวลานี้ จะเป็นคำพูดไม่กี่คำของความรู้สึกหลังผ่านความลำบากมาแล้ว ทว่ามีเพียงพวกเขาคนที่เจอเรื่องราวกับตัวถึงจะรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นตื่นเต้นน่าตกใจเพียงใด ความประมาทแม้เพียงเล็กน้อยเท่ากับการไม่มีทางจะฟื้นคืนได้อีกตลอดกาล
สวี่อี้ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเสริม “ในตอนนั้นคนของพวกเราได้ต่อสู้กับพันธมิตรเลือดแล้ว หลิวอิ่งและซ่งจิ้งต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่คุณหนูหวันหวั่นนำทีมสายลับทีม1 มาช่วยไว้ทันเวลา ในตอนแรกพวกเราก็เข้าใจคุณหนูหวันหวั่นผิดไป กระทั่งอันตรายได้จบสิ้นลง สิบเอ็ดและพวกได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง พวกเราถึงได้รู้ความจริง!”
หลังจากที่สิบเอ็ดและสวี่อี้พูดจบ สถานการณ์จมดิ่งสู่บรรยากาศที่เงียบแบบแปลกๆ
ผ่านไปครู่หนึ่งผู้คนถึงได้สติกลับมา ผู้อาวุโสหลายท่านในที่นี้ต่างสบตามองหน้ากัน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เรื่องจริงหรือเท็จ? สุดท้ายเป็นเธอยัยเด็กผู้หญิงที่ไปช่วยทุกคนออกมางั้นเหรอ?”
“เป็นไปได้อย่างไร…ฉันนึกว่าเป็นกลุ่มอำนาจที่เก่งกาจอะไรเข้าไปช่วยเหลือเสียอีก…”
……
คุณหญิงย่ามองไปทางหลิวอิ่งที่ไม่พูดอะไรเลยอยู่คนเดียว เอ่ยถามเสียงจริงจัง “หลิวอิ่ง ที่สวี่อี้และสิบเอ็ดพูดเมื่อครู่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
หลิวอิ่งเม้มริมฝีปาก แม้ว่าเขาจะไม่พอใจเยี่ยหวันหวั่นอยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่อาจพูดโกหกในสถานการณ์แบบนี้ได้ สุดท้ายก็ก้มหน้าตอบกลับด้วยความสัจจริง “เรียนคุณหญิงใหญ่ เป็นความจริงครับ เป็นความคิดของคุณหนูเยี่ยที่ช่วยพวกเราไว้จริงๆ”
ได้ยินหลิวอิ่งตอบเช่นนี้ นัยน์ตาของฉินรั่วซีเป็นระลอกคลื่นอย่างไม่ทันสังเกตได้
“เป็น…เป็นไปได้อย่างไร…” เวลานี้เอง เฝิงชิ่นอวี้หน้าเปลี่ยนไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี