ตอนที่ 23 ผู้ชายที่เกลียด
เจียงเว่ยหว่านหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
ไอ้ผู้ชายบ้า เพื่อผู้หญิงแบบนี้ กล้ามาปฏิปักษ์กับนางอย่างโจ่งแจ้ง
ในใจของนางรู้สึกเย็นชาเล็กน้อย นางกัดริมฝีปากแล้วยิ้มออกมาทันทีว่า “ท่านอ๋อง เมื่อครู่ท่านได้เตือนข้าว่าอย่าลืมข้อตกลงของเรา ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะขอเตือนท่านอีกรอบ”
“ท่านเคยสัญญากับข้าว่า จะไม่แต่งงาน ยิ่งไม่รับพระชายารองเข้ามาด้วย”
คำพูดแต่ละคำของนางชัดเจนมาก เกือบหมดแรงไปทั้งตัว
“ท่านจะให้หลี่เยียนเอ๋อร์อยู่ในจวนอ๋องต่อ รบกวนท่านอ๋องไตร่ตรองให้ดีด้วย อย่าให้ข้าได้ยินคำนินทา หรือไม่ก็เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น”
เขาข่มขู่นาง ถ้าเช่นนั้นนางก็จะไม่เกรงใจ จึงประกาศข้อตกลงระหว่างพวกเขาสู่สาธารณะชน ให้คนทั้งหมดได้รับรู้ว่าต่อให้หลี่เยียนเอ๋อร์จะได้รับการโปรดปราน ก็ยังเป็นหญิงคนนอกอยู่ดี จะต้องคิดไตร่ตรองให้ดี เจียงเว่ยหว่านนางต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนอ๋อง และจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
เซียวจิ้งเป่ยเงียบไม่พูดอะไร หญิงงามอยู่ข้างนอกภายใต้แสงยามค่ำคืน ชุมคลุมสีขาว เสมือนดั่งเซียน
หลี่เยียนเอ๋อร์กำผ้าอย่างแรง นางแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองว่า เหตุใดท่านอ๋องฉินถึงได้ยอมรับเงื่อนไขของคนสารเลวยิ่งนี้ นางโกรธจนใจสั่น ความเกลียดที่มีต่อเจียงเว่ยหว่านมากยิ่งไปกว่าเดิมอีก
คนที่ตกใจเช่นเดียวกับหลี่เยียนเอ๋อร์ยังมีหมิงเอ๋อร์ นางเองก็มองไปที่ท่านอ๋องด้วยความตกใจ
เห็นเพียงท่านอ๋องที่มีสีหน้านิ่งเงียบ ไม่หงุดหงิดโมโห แสดงว่าเป็นเรื่องจริง
ในใจของหมิงเอ๋อร์เกิดช่องโหว่วขนาดใหญ่ ลมพัดโบกโชย หัวใจที่แตกสลาย นางทั้งเย็นชาและเจ็บปวด ทำได้เพียงจ้องมองไปที่เจียงเว่ยหว่านอย่างเงียบ ๆ
เจียงเว่ยหว่านเองก็รับรู้สายตาที่ประหลาดและโกรธของพวกนางได้ นางค่อย ๆ มองไปยังทุกคนโดยรอบ จากนั้นสายตาก็ไปตกที่หลี่เยียนเอ๋อร์ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “คนเราจะต้องมีความฉลาดในตนเอง อย่ามามัวแต่จ้องสามีของข้า ต่อไปอย่ามาได้มายั่วยวนอีก ถ้าเช่นนั้นคนที่จะสูญเสียก็คือตัวฮูหยินเอง ถ้าเช่นนั้นคงจะแย่เป็นแน่”
หลี่เยียนเอ๋อร์มองไปที่เจียงเว่ยหว่านด้วยน้ำตาคลอเบ้า พูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “พระชายา หม่อมฉันกับท่านอ๋อง...”
เจียงเว่ยหว่านขัดจังนางด้วยความรังเกียจ “เจ้ามีความรู้สึกอย่างไรต่อท่านอ๋อง ไม่เกี่ยวกับข้า เจ้าคิดเอาเองก็แล้วกัน!”
ดวงตาที่งดงามของนางทองไปยังเซียวจิ้งเป่ยอย่างคาดเดาไม่ได้ ริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย จึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับข้า ถ้าเช่นนั้นข้ากลับห้องก่อน”
เมื่อพูดจบ นางก็สะบัดกระโปรงออกไป
ใบหน้างดงามของเซียวจิ้งเป่ยสงบดั่งสายน้ำ มองอารมณ์ไม่ออกเมื่อเผชิญหน้ากับเจียงเว่ยหว่านที่สะบัดกระโปรงออกไป ไม่หงุดหงิดโมโหทั้งนั้น เพียงแค่มองด้วยนัยน์ตาที่สับสน
ผู้หญิงคนนี้คือคุณหนูแห่งจวนโหวงั้นหรือ?
ไม่เหมือนกับข่าวลือเลย
เจียงเว่ยหว่านไปแล้ว เขาก็สั่งให้คนอื่นแยกย้าย จากนั้นกลับไปที่ห้องตำรา
หลี่เยียนเอ๋อร์อยากจะอยู่ต่อเป็นเพื่อนเขา แต่เขากลับปฏิเสธ
แสงไฟจากเทียนภายในห้องตำรา เซียวจิ้งเป่ยมาถึงเตียงนุ่ม ๆ ด้านหลัง จากนั้นค่อย ๆ นั่งลงที่เตียงนุ่ม ๆ ใบหน้าที่หล่อเหลามีเสน่ห์และสวยงามเป็นพิเศษในเงาเทียน นัยน์ตาที่งดงามคู่นั้นมองไปยังท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิดนอกกรอบหน้าต่าง
นัยน์ตาที่คมดำของเขาราวกับเหยี่ยว เย็นชาอย่างไร้ที่ติ
“จางหาน”
“นายท่าน” จางหานรีบเข้ามา จากนั้นก็กราบที่เท้าของเขา
“ได้ข่าวหรือยัง?” เซียวจิ้งเป่ยถามเขาอย่างใจจดใจจ่อ
จางหานตอบด้วยความเคารพว่า “รายงานเจ้านาย ข้าน้อยได้ได้สั่งคนให้ไปหาทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ไม่พบเงาของแม่นางผู้นั้นเลย ข้าน้อยคิดว่า นางคงไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแล้ว”
เซียวจิ้งเป่ยหยิบที่ห้อยหยกลายเมฆินทร์อันงดงามออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นลูบคลำในมือ ใบหน้าที่งดงามนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ
“คน ๆ หนึ่ง เหตุใดถึงได้ไร้ร่องรอยอย่างกระทันหัน สั่งคนไปหาเพิ่ม ตั้งใจหาทีละคนบริเวณนอกเมืองสักสองสามร้อยลี้ด้วย”
“ขอรับ” จางหาน
“หาจิตกรแก้ไขภาพวาดของท่านแม่พระชายาด้วย วันพรุ่งให้หมิงเอ๋อร์มาพบข้าด้วย หากไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามเข้าใกล้”
“ขอรับ” จางหานรับปากแล้วจากไป
เมื่อเซียวจิ้งเป่ยสั่งเสร็จ ก็มองไปยังจางหานที่จากไปไกล เขาถึงได้เอนนอนลงบนเตียงนุ่ม ๆ เขาเองซึ่งยังไม่หายจากการเป็นอัมพาตอย่างไร้เรี่ยวแรง เมื่อครู่ได้ทะเลาะกับเจียงเว่ยหว่าน กระชากไปโดนแผล เจ็บจนเขาสั่นไปทั้งตัว เขาใช้กำลังภายในควบคุมความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้
บัดนี้บาดแผลได้มีเลือดไหลซึมแล้ว เวลาเซียวจิ้งเป่ยอยู่ต่อหน้าคนอื่นมักจะแสร้งเป็นเข้มแข็ง อีกทั้งบัดนี้ในห้องตำรามีเขาเพียงคนเดียว เขาจึงกอดตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรง บัดนี้เขาเป็นตะคริวด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับขดตัวเพื่อหยุดร่างกายที่สั่นไหว
เจียงเว่ยหว่านกลับมาที่เรือนติง ชิงผิงปรนนิบัติดูแลนางล้างหน้าแปรงฟันจนพักผ่อน
เจียงเว่ยหว่านที่นอนอยู่บนเตียง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังแสงไฟที่โยกไปมาตามสายลม ในใจของนางว้าวุ่นไปหมด นอนไม่หลับกลิ้งไปกลิ้งมา เอาคิดถึงเซียวจิ้งเป่ยปกป้องหลี่เยียนเอ๋อร์ในคืนนี้
ในใจของนางโกรธจนอธิบายไม่ได้ ผู้ชายที่ไม่รักษาสัญญา น่ารังเกียจเสียจริง
แต่เมื่อคิดถึงรูปภาพที่ถูกทำลาย เจียงเว่ยหว่านรู้สึกเพียงว่าน่าเสียดาย นอนก็นอนไม่หลับ นางจึงลุกขึ้นเดินไปที่ห้องตำราโดยไม่รู้ตัว
แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เจียงเว่ยหว่านก็มีความคิดในใจเพียงอย่างเดียวว่า คืนนี้จะต้องซ่อมภาพของพระชายาเดิมให้ได้
ไม่ได้เพื่ออะไร แต่เพื่อให้เซียวจิ้งเป่ยพุ่งเป้ามาที่ทางน้อยหน่อย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์
ไม่่เขียนต่อแล้วเหรอคะ...