เมื่อซย่าเอ๋อร์ทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว ทุกคนก็กินอาหารกันอย่างรวดเร็ว และก็จัดเก็บข้าวของพากันเข้านอน
ตอนเหยาชิงหลีนอนอยู่บนเตียงจะทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เพราะว่าที่บ้านมีแค่ผ้าห่มเพียงสองผืน เหยาเสียวเป่าเจ้าซาลาเปาตัวน้อยนอนด้วยกันกับเธอ และกำลังหดตัวอยู่ในอ้อมแขนของนาง นอนหลับอย่างหอมหวาน
เธอเคยชินกับการนอนคนเดียว แต่อยู่ ๆ ก็มีซาลาเปาตัวน้อยมานอนอยู่ข้างกาย และยังตัวหอมกรุ่นทำให้ปรับตัวไม่ทันจริง ๆ
จนกระทั่งประมาณตีห้ากว่า เหยาชิงหลีถึงหลับไปไม่รู้ตัว
เมื่อตอนตื่นขึ้นมา เหยาชิงหลีก็รู้สึกเพียงว่าในอ้อมแขนของเธอร้อนระอุ เหยาชิงหลีตกใจก้มมองลงไป ก็เห็นเพียงเสียวเป่ากำลังนอนหดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอ และใบหน้าเล็ก ๆ นั่นก็แดงก่ำ
เหยาชิงหลีเอามือไปสัมผัส คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไข้เสียแล้ว!
เหยาชิงหลีลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว และอุ้มเขาเอาไว้ในอ้อมแขน
“คุณหนู ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” ชิวอวิ๋นถือถาดใบหนึ่งเข้ามา และเมื่อเห็นเหยาชิงหลีมีสีหน้าเคร่งขรึมจึงถามอย่างกังวลว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเสียวเป่าหรือ?”
“เป็นไข้แล้วล่ะ” เหยาชิงหลีถอนหายใจออกมาเล็กน้อย สองวันที่ผ่านเจอเรื่องลำบากมามากขนาดนั้น เด็กอายุแค่สามขวบจะอดทนไหวได้อย่างไร “เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะรักษาให้หายดีเอง” ในมิติของเธอมียาลดไข้อยู่มากมาย
“เช่นนั้นก็ดีแล้วเจ้าค่ะ” ชิวอวิ๋นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“จริงสิ เอวของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เหยาชิงหลีเอ่ยถาม
“ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ” ชิวอวิ๋นยิ้มแล้วเอามือไขว้ไปข้างหลังทุบเอวตัวเองเบา ๆ แม้ว่าจะยังเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้วจริง ๆ “คุณหนู ท่านกับเสียวเป่าอยู่บ้านพักผ่อนให้มาก ๆ ข้ากับซย่าเอ๋อร์จะออกไปซื้อของใช้ประจำวัน”
“ออกไปแล้วแวะซื้อเสื้อกันหนาวดี ๆ ให้เสียวเป่าสักสองตัว ดูเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายเล็ก ๆ ของเขานี่สิ ทั้งแข็งและไม่อุ่นเลย” เหยาชิงหลีลูบศีรษะของเสียวเป่าอย่างปวดใจ
“ได้เจ้าค่ะ” แม้ว่าเงินในมือจะมีไม่มาก แต่เด็กเล็ก ๆ จะหนาวไม่ได้
ชิวอวิ๋นไม่กล้าชักช้า จึงรีบเรียกซย่าเอ๋อร์ พวกนางสองคนเก็บข้าวของและก็ออกเดินทาง
แต่ว่าพอมาถึงถนนใหญ่สีหน้าของชิวอวิ๋นก็เปลี่ยนไปทันที
เพราะว่าเกือบจะทุกคนพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันเรื่องที่เมื่อวานคุณหนูใหญ่ของตระกูลเหยาถูกขับไล่ออกจากตระกูล และทุกคำพูดก็เต็มไปด้วยคำพูดที่ดูถูกและเยาะเย้ย
ที่หอน้ำชา โรงละคร คนขายผัก...แค่มีคนมากกว่าสองคนรวมกลุ่มกัน ก็พากันพูดคุยถึงเรื่องนี้
บนแผงขายเกี๊ยวริมถนน มีผู้ชายสองคนกำลังพูดกันอย่างสนุกปาก คนข้าง ๆ ฟังจนลืมกินเกี๊ยวในมือไปเลย...
“ข้าก็ว่าแล้ว คุณหนูรองเหยาอายุก็ปาไปตั้งสิบหกแล้ว เคยได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่เหยาอายุมากกว่านางตั้งหลายปี ก็ว่าอยู่ทำไมถึงยังไม่แต่งงานออกไป ที่แท้ก็ไปมั่วผู้ชายอยู่ข้างนอก”
“หรือจะเป็นเพราะแม่เลี้ยงใจร้ายหรือเปล่า? ไม่ให้นางแต่งงาน?”
“ฮูหยินเหยาจะใจร้ายกับนางได้อย่างไร! นางทั้งโง่ทั้งเปิ่น ไร้ความสามารถอะไรแถมหน้าตาก็ไม่ได้เรื่อง แม้แต่คนที่อยากแต่งงานด้วยก็ไม่มี แต่ฮูหยินเหยาอุตส่าห์ทำเพื่อนางไปขอร้องท่านปู่ให้ท่านไปพูดกับท่านย่า ในที่สุดก็ได้รับการตอบรับหมั้นหมาย แต่นางกลับไม่ยอมแต่งด้วย บ้างก็บอกว่ากำลังป่วยอยู่! บ้างก็บอกว่าฝันถึงท่านแม่ที่เสียไปบอกว่านางไม่สามารถแต่งงานได้ในขณะนี้ อย่างไรเสียก็มีข้ออ้างต่าง ๆ นานา เหตุผลเพราะนางไม่อยากขาดการติดต่อจากชายที่นางคบอยู่”
“ท่านเลขาธิการเหยาก็เป็นพ่อที่ใจดี สุดท้ายก็ละเว้นชีวิตนาง ไม่ได้ตีนางจนตาย แต่นางกลับไม่มีหัวคิด ย้อนกลับมาอาละวาดต่ออีก ตอนนั้นคุณหนูรองเหยากำลังเตรียมไปส่งเงินส่งข้าวของให้นางพอดี ไหนเลยจะคิดว่านางจะกลับมาบ้านมาแว้งกัดแม่ของคุณหนูรองเหยาอย่างบ้าคลั่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ