นายหญิงหลัวถูกลูกชายและลูกสะใภ้พาตัวออกประตูไปอย่างทุลักทุเล
เมื่อซย่าเอ๋อร์กับชิวอวิ๋นเห็นเป็นแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปหนึ่งที หลังจากนั้นก็หันกลับไปมองเหยาชิงหลีด้วยสีหน้าอึ้งทึ่งและชื่นชม
ซย่าเอ๋อร์พูดด้วยความตะลึง “รู้สึกว่า...หลังจากที่คุณหนูตื่นขึ้นมาเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”
ชิวอวิ๋นพยักหน้าเห็นด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจอเรื่องแบบนี้เข้า ไม่ต้องพูดเลยว่าคุณหนูจะออกมาโต้เถียงกับคนอื่นไหม ไม่แน่ว่าอาจจะยอมอ่อนข้อและให้เงินไปทันทีเลยด้วยซ้ำ เพื่อจะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก และยังต้องพูดอีกว่าการเสียเปรียบเป็นเหมือนพรประเภทหนึ่งอะไรแบบนี้ด้วย
ไหนเลยจะเหมือนตอนนี้ ไม่เพียงแต่ก้าวออกมาถกเถียงจนได้รับชัยชนะราบคาบแล้ว แต่ยังบีบนายหญิงหลัวที่แสนร้ายกาจจนหนีเตลิดไปแทบไม่ทัน
“พอได้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ นานามา ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา” เหยาชิงหลีพูดอย่างเรียบเฉย “มิฉะนั้นจะรับมือกับชีวิตในภายภาคหน้าได้อย่างไร?”
ชิวอวิ๋นกับซย่าเอ๋อร์อดปวดใจขึ้นมาไม่ได้ คุณหนูคนที่จิตใจดีมีเมตตาเมื่อสมัยก่อน บัดนี้กลับถูกบังคับให้นิสัยต้องเปลี่ยนไป การเติบโตเช่นนี้ คิดอย่างไรก็ล้วนแต่ทำให้รู้สึกเศร้าใจ
หลังจากชิวอวิ๋นถอนหายใจแล้ว ก็หันกลับไปมองซย่าเอ๋อร์ “เจ้ามันน่าตีให้ตายยิ่งนัก ตอนที่เช่าบ้านหลังนี้ ทำไมถึงได้รับปากให้เงินไปตั้งหนึ่งตำลึงเล่า?”
วันนี้ตอนเช้าตรู่ ชิวอวิ๋นจะต้องกลับไปคุกเข่าที่หน้าประตูตระกูลเหยา เรื่องทั้งหมดจึงเป็นซย่าเอ๋อร์ที่เป็นคนจัดหาบ้าน
“ข้า...” ซย่าเอ๋อร์รู้สึกน้อยใจอย่างมาก “ก็ตอนนั้นคุณหนูยังนอนสลบอยู่ที่โรงหมอ และเสียงด่าทอข้างนอกก็แย่มากจนฟังไม่ได้ ข้ากลัวว่าโรงหมอจะขับไล่ออกมา ดังนั้นจึงรีบออกมาหาบ้านเช่า...บังเอิญมาพบว่าเรือนแห่งนี้เขียนว่าปล่อยให้เช่า ข้ากลัวว่าคุณหนูจะถูกโยนออกมา...ดังนั้นจึงรีบเช่าเอาไว้ทันที ส่วนค่าเช่าจะต้องจ่ายราคาเท่าไร...ข้าไม่ค่อยเข้าใจจริง ๆ”
“เอาละ อย่าโทษซย่าเอ๋อร์เลย” เหยาชิงหลีเอ่ย “นางถูกขายเข้ามาอยู่ในตระกูลเหยาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตข้างนอกมาก่อน และไม่เคยเช่าบ้านอยู่ ย่อมไม่รู้ราคาตลาดอยู่แล้ว”
“คุณหนูดีที่สุด” ซย่าเอ๋อร์ทำปากจู๋พยักหน้า
ทันใดนั้นร่างของเหยาชิงหลีก็รู้สึกโซเซขึ้นมา มีความรู้สึกเหมือนกับเวียนหัว
ซย่าเอ๋อร์ตกใจจนรีบเข้าไปประคองนาง “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปเจ้าค่ะ? เจ็บแผลบนศีรษะใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
“เร็วเข้า รีบกลับห้องไปนอนพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ” ชิวอวิ๋นพูดด้วยความร้อนรน
“ได้” เหยาชิงหลีพยักหน้า
พอตื่นขึ้นมาก็ประสบพบเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ นานา จึงไม่ได้สนใจความรู้สึกของร่างกายตัวเอง ตอนนี้พอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา ร่างกายก็รู้สึกอ่อนแรงปวกเปียก และบาดแผลบนหน้าผากก็เจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย
เหยาชิงหลีถูกซย่าเอ๋อร์ประคองเข้าไปในห้องนอน
ข้างในห้องได้รับการทำความสะอาดเป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่บนเตียงไม่มีเครื่องนอนและสิ่งของอื่น ๆ เลย
ซย่าเอ๋อร์ทำได้เพียงถอดเสื้อนอกบนตัวออกมาปูไว้บนเตียง เพื่อให้เหยาชิงหลีได้เอนตัวนอน
“ท่านแม่...” น้ำเสียงของเด็กน้อยดังขึ้น
เหยาชิงหลีหันกลับมามองก็เห็นเจ้าตัวน้อยตัวกลม ๆ กำลังถือกะละมังที่มีน้ำเดินเข้ามาอย่างทุลักทุเล
ซย่าเอ๋อร์ตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปรับน้ำมา “ทำไมถึงตักน้ำมาล่ะ? เอ๋? ยังร้อนอยู่ด้วย”
“เสียวเป่าตักน้ำมาให้ท่านแม่ล้างหน้า” เสียวเป่าเข้ามาคว้ากะละมังนั้นกลับไป แล้วพยายามถือมาหาเหยาชิงหลี ดวงตากลมโตคู่นั้นมองมาที่นางเป็นประกาย “ท่านแม่เหนื่อยแล้ว ล้างหน้าเถอะขอรับ”
หัวใจของเหยาชิงหลีอ่อนยวบ เธอพบว่าเสียวเป่าเป็นเด็กที่ดีมาก เป็นเด็กที่ดีมากจริง ๆ
เมื่อคืนเขาต้องถูกโยนออกมาจากตระกูลพร้อมกับพวกนางเป็นแน่ แต่ตอนนั้นนางได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไป และพวกซย่าเอ๋อร์ก็เอาแต่รีบหาโรงหมอไม่ได้สนใจเขา เขาก็คงคิดว่าเป็นเพราะตัวเองที่ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเลยไม่กล้าก้าวเข้าไปรบกวนพวกนางได้แต่เดินตามหลังพวกนางมาอย่างเงียบ ๆ
คำว่า “ท่านพ่อ” คำนี้ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที ชิวอวิ๋นตกใจจนหน้าซีด ส่วนซย่าเอ๋อร์ก็รีบเอามือไปปิดปากเสียวเป่าเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ