ไฟแค้น นิยาย บท 14

"ไม่ได้ค่ะ" หญิงสาวปฏิเสธแบบนางพญา เธอนั่งอยู่เฉยๆ และพูดออกไป ..แต่มันก็ทำให้ผู้ชายที่มีอำนาจถึงกับหยุดชะงัก

"ฉันต้องได้ทุกอย่าง ที่ฉันต้องการก่อน" เธอพูดต่อทันทีที่เขาหยุดฟัง

"ไม่เคยมีใคร..ไม่เชื่อใจผมแบบนี้"

"คนอื่นอาจจะเชื่อใจคุณ แต่สำหรับฉันแล้ว..ไม่" เพราะความที่พ่อของเธอเชื่อใจผู้ชายคนนี้ ถึงต้องสูญเสียทุกอย่าง สูญเสียแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง จะกลับมาให้เหมือนเดิมก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

เขาถอยออกมาทันที สิงหราชยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้เก่งมาก แค่คำพูดและท่าทางของเธอก็สามารถทำให้สิงห์แบบเขาสยบได้

แต่ชายหนุ่มไม่ยอมตกอยู่ในวังวนนั้นแน่ ถึงแม้ว่าจะต้องการผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน เขาก็ไม่ลืมความแค้นที่มีต่อพ่อเธอ

"พรุ่งนี้รอผมอยู่ที่บ้านของคุณ" จบคำพูดชายหนุ่มก็ยันกายลุกขึ้นแล้วเดินออกมา

ทิ้งให้เธอได้แต่มองตาม และถอนหายใจ ..นี่แสดงว่าเรารอดแล้วใช่ไหม เธอยิ่งกลัวว่าจะไม่รอดจากเงื้อมมือของเขา

อัปสรสุดารีบเดินออกมาทันที เพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ.. หญิงสาวตรงมาที่ลานจอดรถ

"พี่ดัมมี่"

"ออกมาแล้วเหรอ"

"ค่ะ..พี่รอนานไหมคะ น้องต้องขอโทษพี่ด้วย ที่ทำให้ลำบากอีกแล้ว"

"ไม่เป็นไรหรอกจ้า"

"แล้วนาล่ะคะ"

"วันนี้นาออกมาไม่ได้ ก็เลยให้พี่มารอเรา" ใช่แล้วดัมมี่ก็คือลูกพี่ลูกน้องของนาฬิกาที่เป็นตำรวจ เธอรู้จักกับดัมมี่เป็นอย่างดี เพราะเป็นพี่ชายของเพื่อนรัก

อัปสรสุดาโทรไปบอกนาฬิกาก่อนที่จะขึ้นไปด้านบน เพราะเธอกลัวว่าจะไม่ได้ออกมาจากที่นี่ ..อยากให้ใครรู้ไว้ว่าถ้าเธอหายไปจะตามได้จากที่ไหน

นาฬิกาก็เลยเป็นห่วงเพื่อนมาก ถึงแม้จะมาไม่ได้ ก็โทรให้พี่ชายมารอดูสถานการณ์

"มันเป็นใคร" ตอนนี้ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถ และสายตาของเขาก็มองมาที่ทั้งสอง ..เขาให้ลูกน้องรอดูว่าเธอจะไปที่ไหนต่อ แต่กลับเจอผู้ชายที่คุ้นหน้าเดินมาคุยกับเธอก่อน

"ตำรวจคนที่เข้ามาค้นวันนั้นไงครับ"

..ถึงว่าทำไมหน้าคุ้นๆ วันนี้เขาอาจจะจำตำรวจคนนั้นไม่ได้ในทันที แต่ต่อจากนี้ไปเขาจะจำหน้ามันไว้ เพราะรู้สึกโมโหมากที่เห็นเธอยืนคุยแบบยิ้มระรื่นอยู่กับมันแบบนั้น

"ตาม" สิงหราชสั่งลูกน้องทันทีที่เห็นเธอเดินไปขึ้นรถคันนั้น

ใช้เวลาพอสมควรก็มาถึง..

"ทำไมไม่กลับบ้านตัวเอง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

"ไม่มีหรอกค่ะ น้องมาค้างกับนาหลายคืนแล้ว" ใช่แล้วอัปสรสุดาให้ดัมมี่มาส่งที่บ้านของนาฬิกา ถ้ากลับไปโรงพยาบาลตอนนี้ คงถูกพี่สาวตำหนิอีกเป็นแน่ ยังไงต้องให้ทุกอย่างได้คืนกลับมาก่อน

"บ้านใคร" สิงหราชถามลูกน้อง เมื่อเห็นรถคันนั้นเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง

"ไม่แน่ใจครับ แต่ไม่ใช่บ้านของแม่เธอแน่ หรือว่าจะเป็นบ้านผู้ชายที่มารับ" ลูกน้องเขาสืบเรื่องราวของเธอมาพอสมควร แต่ยังสืบมาไม่ถึงบ้านหลังนี้

สิงหราชให้ลูกน้องจอดรถรอดูอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมง ก็ไม่เห็นรถคันนั้นออกมาสักที

..ชายหนุ่มนึกโมโหมาก แทบอยากจะเผาบ้านหลังนี้ทิ้งไปสะ

สาย ๆ ของวันต่อมา

..เขาบอกให้เรารออยู่ที่บ้านทำไมยังไม่มาสักที อยากจะไปโรงพยาบาลหาพ่อก็ไปยังไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ยังจัดการไม่เสร็จ

"ถ้างั้นป้าจะไปที่โรงพยาบาลแทนแล้วกันนะคะ คุณน้องอยู่ที่นี่ระวังตัวด้วย"

"ไหนคุณบอกว่าจะไป.." พูดมาถึงตรงนี้ อัปสรสุดาถึงคิดขึ้นมาได้ หรือว่าเขาจะแกล้งจัดฉากนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้เธออับอาย

"คุณไม่เห็นดื่มเลย" เขาไม่คุยกับเธอ แต่มือหนายื่นไปโอบไหล่ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง

"ดื่มสิคะ คุณไม่เห็นเองต่างหาก" พอเธอคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของเขาพูดจบ ก็ยกไวน์ขึ้นดื่ม เพื่อให้เห็นว่าคำพูดของเขาสำคัญมาก

"เก่งจังเลยคนดี" มือหนาเขี่ยแก้มนวลของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย โดยที่ไม่สนใจคำพูดของผู้หญิงอีกคนเลย

ผู้หญิงคนนั้นดูท่าทางจะพอใจมาก ยิ้มแบบเอียงอาย

"ดื่มอีกไหมครับ เดี๋ยวผมรินให้" ชายหนุ่มยกไวน์ขวดนั้นขึ้นมารินใส่แก้ว

"ถ้าคุณไม่ว่าง..ก็น่าจะโทรไปบอกกันสักนิด" หญิงสาวพูดต่อโดยไม่แคร์การกระทำของเขา ที่ทำเหมือนว่าเธอเป็นอากาศธาตุ

"คุณสิงห์น่าจะคุยกับเธอก่อนนะคะ" ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกายกระซิบพูดใกล้หูเขา

สายตาของเขาถึงมองมาที่เธอ ..นี่เธอต้องขอบคุณผู้หญิงคนนั้นไหมที่บอกให้เขามองมา

"ไม่เห็นหรือไงว่ายังไม่ว่าง" พูดออกมาเหมือนเธอไม่สำคัญอะไรเลย

น้ำตาของหญิงสาวไหลรินลงมา..พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด

คนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นต่างก็มองแบบงงงวยว่าเธอเป็นอะไร..

"ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้คะ คุณแน่ใจแล้วเหรอ ถ้าคุณไม่ต้องการแก..ก็ได้ค่ะ..ฉันจะไปเอาออก"

".....???" พอเห็นน้ำตาของเธอไหลลงมา เขาก็มองไปดูหน้าแขกที่เชิญมาร่วมงานในวันนี้ ต่างคนก็ต่างมองหน้ากัน ไม่ได้มีแค่แขกที่มอง รวมไปถึงลูกน้องอีกหลายคนที่ได้ยินเธอพูด เพราะอัปสรสุดาไม่ได้พูดเบาๆ

"ฉันให้เวลาคุณแค่คืนนี้ ให้คุณคิดให้ดี ยังไงเด็กคนนี้ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ!!" จบคำพูดหญิงสาวก็วิ่งร้องไห้ออกมาจากงานนั้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น