บทที่ 105
หลี่หยินผู้ทรงพลัง
หากต้องการไปยังส่วนลึกของป่าหวงชา แค่การมีผู้นำทางนั้นมันยังไม่เพียงพอ
ในฐานะที่เป็นกองกำลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของศาลาไป่หยู่ หลิวหูเองก็มีหน้าต้องเข้าร่วมการเดินทางครั้งนี้ด้วย เขาเองก็หวังว่าจะได้รับประสบการณ์ความรู้ในการเดินทางเข้าไปในส่วนลึกของป่าหวงชา
นอกจากนี้หลิวหูยังนำนักรบที่มีประสบการณ์ 5 คนในทีมคมมีดผู้สมัครใจจะติดตามไปด้วยกัน
ขณะนั้นหลี่หยินก็เดินออกมาจากห้องและนางดีใจมากที่ได้พบกับลั่วอู๋ “นายน้อย ท่านกลับมาแล้วสินะเจ้าคะ!”
“ใช่แล้วล่ะ” ลั่วอู๋กล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อหลี่หยินได้ยินว่าลั่วอู๋กำลังจะเดินทางไปยังส่วนลึกในป่าหวงชา นางก็กังวลมาก “นายน้อย ข้าจะไปกับท่านด้วย”
“ไร้สาระน่า เจ้าจะไปทำอะไร” ลั่วอู๋ขมวดคิ้วและน้ำเสียงของเขาเบาลง “การเดินทางครั้งนี้มันอันตรายมาก เจ้าควรจะอยู่รอข้ากลับมาที่ศาลาไป่หยู่ดีกว่า”
“นายน้อย ตอนนี้ข้าหลี่หยินมีพลังมากกว่าแต่ก่อนมากนะเจ้าคะ”
พูดจบมือของหลี่หยินมีสัมผัสของพลังวิญญาณอันควบแน่น ค่อยๆเพิ่มขึ้น
ดวงตาของลั่วอู๋เบิกกว้าง “นี่มันพลังวิญญาณ”
พลังวิญญาณถูกปลดปล่อยออกมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงิน
ฉูจงฉวนก็ตกใจจนพูดไม่ออก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? เขาไม่ได้พบคนเหล่านี้มาเพียงแค่ 2-3 เดือน ลั่วอู๋ก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงิน
ส่วนสาวใช้ของลั่วอู๋ก็กลายมาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงินด้วยเช่นกัน ? เขายังจำได้ว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อนสาวใช้ตัวน้อยคนนี้ยังต่ำกว่าลั่วอู๋สองก้าวด้วยซ้ำ
พระเจ้านี่มันมีความเร็วในการฝึกฝนแบบไหนกัน
หลิวหูกล่าวอย่างด้านชา “นายน้อยตั้งแต่ที่ท่านกลับมาครั้งที่แล้ว หลี่หยินก็ได้ขังตัวเองอยู่ในห้องฝึกซ้อมทั้งกลางวันและกลางคืน”
หลิวหูชื่นชมในตัวสาวน้อยหลี่หยินจริงๆ
เป็นเวลา 3 เดือนนอกจากการกินและการฝึกซ้อมแล้ว มันช่างน่าเบื่อถึงขีดสุดจริงๆ นางออกมานาน ๆ ที เพื่อดูว่าลั่วอู๋กลับมาหรือยัง
ลั่วอู๋นั้นประหลาดใจมาก
เขาได้รับการฝึกฝนในมิติของไหปีศาจ ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ แต่ยังมีอัตราการไหลของเวลาที่แตกต่างกันกับโลกภายนอก แต่หลี่หยินกลับฝึกแบบไม่มีเงื่อนไขเหล่านั้นโดยผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
หลี่หยินฝึกได้รวดเร็วมาก
ตอนนี้เขาจึงสามารถสรุปได้สองอย่าง
ก่อนอื่นเลยคุณสมบัติดั้งเดิมของหลี่หยินนั้นยอดเยี่ยมมากแน่นอน
ประการที่สองคือหลี่หยินจะต้องทุ่มเทให้กับการฝึกฝน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามากเกินจะนึก ซึ่งเป็นอะไรที่พูดได้ง่ายๆ แต่ลงมือทำนั้นยาก
หลี่หยินยิ้มอย่างเขินอายแก้มแดงระเรื่อพร้อมกระซิบ “ข้าเพียงแค่อยากเป็นกำลังให้กับนายน้อยเจ้าคะ”
ครั้งก่อนที่ลั่วอู๋กลับมาและถูกลอบสังหาร โชคดีที่มันไม่สำเร็จ เพราะศัตรูถูกขัดขวางโดยไร้หน้าเสียก่อน
หลี่หยินรู้สึกเป็นห่วงมาก
ถ้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะ
ด้วยเหตุนี้หลี่หยินจึงพยายามฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่ง
“นั่นก็ยังไม่พออยู่ดี” ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ “มันอันตรายเกินไป พลังของเจ้ายังน้อยไปและประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็ยังอ่อนแอเกินไป”
ความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังวิญญาณส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตัวสัตว์วิญญาณ
แมวผี ซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณของหลี่หยิน แม้ว่ามันจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังอยู่ในวัยเด็ก มันจึงมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับทองแดง มิติ 7 เท่านั้น
ดังนั้นความแข็งแรงโดยรวมของหลี่หยินนั้นยังคงอ่อนแอเกินไป
หลี่หยินเบ้ปาก “ตอนนี้ข้าไม่ได้มีแค่เสี่ยวหลวน แต่ยังมีเสี่ยวไป่ด้วย”
“เสี่ยวไป่งั้นเหรอ ? ที่แปลว่าตัวเล็กสีขาวสินะ ?” ลั่วอู๋ไม่เข้าใจ
หลี่หยินกล่าว “มันคือราชากระต่ายแห่งแดนสาบสูญ ข้าได้ทำพันธสัญญากับมันและเรียกมันว่า เสี่ยวไป่ แล้วตอนนี้ข้ามีสัตว์วิญญาณสองตัวแล้วเจ้าค่ะ”
หลังจากได้ปรับแต่งกระต่ายแห่งแดนสาบสูญแล้ว ลั่วอู๋ก็ไม่มีเวลาจัดการมัน ดังนั้นเขาทิ้งไว้ให้ผู้คนในศาลาไป่หยู่จัดการ
แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับทอง แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้นั้นก็แย่เกินไป ลั่วอู๋จึงไม่คิดที่จะทำพันธสัญญากับมัน
“แม้แต่สาวใช้ตัวน้อยของเจ้าก็มีสัตว์วิญญาณตั้งสองตัว เจ้ายังไม่สามารถเอาชนะนางได้เลยด้วยซ้ำ” ฉูจงฉวน ที่อยู่ข้าง ๆ ส่งเสียงแหย่เบา ๆ
“อย่าสร้างปัญหาน่า” ลั่วอู๋พูด
“ข้าทำอะไรผิด ? ข้าแค่สนับสนุนสาวใช้ของเจ้าเอง” ฉูจงฉวนพึมพำ ความคิดของฉูจงฉวนนั้นง่ายมาก
มันน่าเบื่อเกินไปที่จะมีแต่ผู้ชายในการเดินทางครั้งนี้ เขาจึงคิดว่าควรพาสาวใช้มาเป็นอาหารตาด้วย
ลั่วอู๋โกรธเคืองฉูจงฉวน แต่เขาหันไปพูดกับหลี่หยินต่อ “นั่นก็ยังไม่ดีพอ เสี่ยวไป่ใช่ไหม ? มันเองก็ยังมีพลังไม่พอเช่นกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ