บทที่ 14 แมงป่องทรายเหลือง
“เจ้าของร้าน! เจ้าของร้าน!”
เสียงเคาะประตูดัง ทำให้ลั่วอู๋ตื่นขึ้น
ลั่วอู๋ลืมตาตื่น ข้างนอกสว่างจ้า ครั้งนี้เขานอนหลับประมาณเจ็ดถึงแปดชั่วโมง เขารู้สึกถึงพลังงานที่เต็มเปี่ยม
“แล้วใครเปลี่ยนเสื้อให้ข้ากันล่ะ” ลั่วอู๋รู้สึกถึงเสื้อผ้าที่สะอาดและมีกลิ่นหอมสดชื่นบนตัว เขาหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ต้องเป็นหลี่หยินแน่นอน
ช่างเป็นสาวน้อยที่เอาใจใส่อย่างมาก
ลั่วอู๋ลุกขึ้นและเปิดประตู ที่หน้าประตูมีผู้ชายชื่อมู่เถายืนอยู่ เขาดูกระวนกระวาย มันอาจจะมีบางอย่างผิดปกติ
“หยุดกระวนกระวายได้แล้ว เจ้าควรใจเย็นลงนะ” ลั่วอู๋กล่าว
ตั้งแต่กลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ อารมณ์ของลั่วอู๋ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ แสดงถึงความมั่นใจและหนักแน่น
มู่เถาพยักหน้าช้า ๆ ยืดอกของเขาขึ้น “ท่านเจ้าของร้าน มีคนกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างนอกร้าน ดูเหมือนว่าจะเป็นทีมล่าสัตว์ได้ข่าวจากหัวหน้า พวกเขาแจ้งว่ามีข้อตกลงกับเจ้าของร้านคนเก่าเอาไว้”
“ถ้าอย่างนั้นนี่คือระดับที่สองสำหรับข้างั้นเหรอ เจ้าของร้านคนเก่าเนี่ยนะ” ลั่วอู๋หัวเราะ “ไปกันสิ พาข้าไปพบพวกเขา”
ลั่วอู๋เดินตามมู่เถาไปยังห้องโถงด้านหน้าของศาลาไป่หยู่
มีชายหกคนยืนอยู่ด้านนอกประตู พวกเขาคลุมหน้าด้วยผ้าโปร่งสีดำ ลมหายใจของพวกเขาดูรุนแรง และถือมีดยาวที่เป็นที่นิยมอย่างมากในพื้นที่หวงชา
ทุกคนล้วนเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ แต่มิติไม่สูงมากนัก พวกเขาทั้งหมดอยู่ในมิติระดับทองแดง พร้อมกับสัตว์วิญญาณ มดยักษ์ หนู กิ้งก่าทรายดูดสองตัว และงูทองคำสองตัว อยู่ล้อมรอบพวกเขา
เป็นพวกนักล่า
เพื่อความอยู่รอดและการล่าในพื้นที่ทรายเหลืองอันกว้างใหญ่ เราไม่เพียงแค่ต้องการประสบการณ์
แต่ยังต้องมีความแข็งแกร่งอันยอดเยี่ยม ดังนั้น ความแข็งแกร่งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
การต่อสู้ส่วนใหญ่ระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณ มักแก้ปัญหาโดยการใช้สัตว์วิญญาณเข้าช่วย
แต่การล่านั้นแตกต่างกัน สมาชิกของทีมล่าสัตว์จะต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้มาบ้าง และซื้ออาวุธเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขา
“มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่กล้าจะล่าสัตว์ในป่าทรายเหลืองแห่งนี้”
มันคือคำขวัญของเหล่านักล่าสัตว์
แม้จะสงสัยเรื่องการกีดกันทางเพศ แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่ามีสมาชิกหญิงอยู่เพียงไม่กี่คนในทีมล่าสัตว์ แม้แต่ผู้ชายที่มีร่างกายอ่อนแอก็ไม่ได้รับการยกเว้น
“นั่นคือทีมเขี้ยวหมาป่า ผู้ชายผมสีขาวที่เป็นลูกพี่ของพวกเขานาม เพิงหงเทียน ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดง ลำดับที่ 10 ถึงแม้ว่ามิติของพวกเขาจะไม่สูงมาก พวกเขาก็มีข้อตกลงที่ดีกับการจัดการสัตว์ป่า มีชื่อเสียงในเมืองแห่งความพินาศอย่างมาก” มู่เถากระซิบใส่หูของลั่วอู๋
ลั่วอู๋พยักหน้ารับ
เพิงหงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ท่านคือเจ้าของร้านคนใหม่ของศาลาไป่หยู่ใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าของร้านคนเก่าได้ทำข้อตกลงกับทีมของท่านเอาไว้งั้นหรือ?” ลั่วอู๋ถาม
เพิงหงเทียนมองลั่วอู๋จากท้องฟ้า เขายิ้มกว้างและโบกมืทักทาย “ข้าชอบทำข้อตกลงกับคนหนุ่มสาว เพราะพวกเขาดูมีความกระตือรือร้นดี เจ้าของร้านคนเก่ามันน่าเบื่อ ถ้าข้าไม่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อมองดูหอคอยหวงชาล่ะก็ ข้าก็จะไม่ทำข้อตกลงกับศาลาไป่หยู่ของท่าน”
เมื่อเพิงหงเทียนโบกมือ เหล่าพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็กระจัดกระจายออกไป เผยให้เห็นถึงกรงเหล็กที่มีโซ่ล้อมรอบอยู่ข้างหลังพวกเขา
“อืม” ลั่วอู๋มองอย่างใกล้ชิด
กรงที่เห็นนั้นไม่ใหญ่มาก แต่ช่องว่างระหว่างซี่กรงเหล็กแคบมาก ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างคืบคลานอยู่ด้านในนั้น มีเสียงดังกังวานกระทบกรงเหล็กเป็นครั้งคราว
ลั่วอู๋เดินไปเล็กน้อย และได้พบสิ่งมีชีวิตจำนวนมากคืบคลานอยู่ในกรงที่มืดสนิท พวกมันคือแมงป่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ