ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย“ ท่านทูตเฉียนหลง คราวนี้มีกี่คนที่ผ่านการทดสอบเข้ามาสำนักภายในกี่คนหรือขอรับ?”
ทูตเฉียนหลงผู้สวมหน้ากากมังกรทองตอบอย่างละเอียด “มีทั้งหมด 20 คนในครั้งนี้”
ครั้งแรกนั้นมีเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนในรอบที่สองนี้มีถึง 20 คน เห็นได้ชัดว่าคนข้างนอกเริ่มจับทางกันได้เรื่อย ๆ แล้วว่าต้องทำยังไงจึงจะผ่านการทดสอบ และจำนวนคนที่เข้ามาในเขตสำนักชั้นในนั้นจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ตูม”หลี่หยินเห็นลั่วอู๋ นางวิ่งเข้าไปหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุข ส่วนฉูจงฉวนดูเหมือนจะมีบางอย่างคิดอยู่ในใจ
“ฉูจงฉวน เจ้าเป็นอะไรไปรึ? นานๆทีข้าจะเห็นเจ้าเป็นแบบนี้” ลั่วอู๋พูดติดตลก
สีหน้าของฉูจงฉวนดูจริงจังเขาดึงลั่วอู๋แยกออกไปคุยแล้ว มองไปที่หลี่หยินอย่างระมัดระวัง “ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้าเกี่ยวกับหลี่หยิน”
หัวใจของลั่วอู๋หลินดูจริงจังขึ้นอย่างรวดเร็ว“ไม่มีทางน่า” ลั่วอู๋มองไปที่หลี่หยินผู้กำลังยิ้มหวาน เขาได้แต่งงงวย “เจ้าฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ข้าคิดว่าหลี่หยินดูปกติดีนะ”
“เชื่อข้าเถอะ ในการทดสอบเข้าร่วมสำนักชั้นในหลี่หยินได้รับรางวัลที่หนึ่งในมิติที่ทางสำนักสร้างขึ้น” ฉูจงฉวนกล่าว
ลั่วอู๋ไม่ชอบใจเท่าไหร่ “ไม่แปลกนี่นา หลี่หยินคือครอบครัวของข้า”
“ฟังข้าก่อน” ฉูจงฉวนไม่ได้โกรธและพยายามกล่าวต่อ “ครั้งนี้มีคนอย่างน้อย 30 คนถูกโจมตีมิติที่สร้างขึ้นนั่น และพวกเขาเป็นกลุ่มระดับต่ำสุด การบาดเจ็บของทุกคนนั้นสาหัสและโหดร้ายมาก ดูเหมือนว่าผู้โจมตีจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้พวกเขาตายได้มันจึงหยุดอยู่แค่นั้น”
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “เจ้าอย่ามาสงสัยหลี่หยินน่า อย่ามาล้อเล่น เจ้าไม่มีหลักฐานซะหน่อย”
“ใช่ ข้าไม่มีหลักฐาน แต่ … ” ฉูจงฉวนลังเลสักครู่ก่อนจะพูดว่า “ในตอนที่นางออกจากมิติมา ลมปราณของนางทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจมาก”
ลั่วอู๋ตะลึงแล้วพยักหน้า “ข้ารู้ไม่ว่าหลี่หยินเป็นคนทำจริง ๆ รึเปล่านะ แต่ข้าจะพยายามใส่ใจกับสภาพจิตใจของนาง”
ฉูจงฉวนพยักหน้า“มีอะไรงั้นเหรอนายน้อย?” เมื่อลั่วอู๋จ้องมองไปที่หลี่หยินตลอดเวลา นางก็เลยเริ่มเขินอายเล็กน้อย
ลั่วอู๋ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “หลี่หยิน ถ้าเจ้ารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เจ้าต้องบอกข้ารู้ไหม”
แม้ว่าหลี่หยินจะไม่รู้ว่าลั่วอู๋กำลังพูดถึงอะไร แต่นางก็ยังพยักหน้าอย่างชาญฉลาด
ในระหว่างที่ลั่วอู๋กำลังจะพาฉูจงฉวนและหลี่หยินไปเยี่ยมชมสำนักชั้นใน เขาก็สังเกตเห็นชายสองคนที่ไม่ใช่มิตรสหาย
พวกเขาคือเอ๋าเฉาและเอ๋าหยู่ พี่น้องตระกูลเอ๋าฉูจงฉวนอธิบายว่า “ข้าได้รู้มาว่าทั้ง 13 คนนั้น ล้วนมาจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ พวกเขาส่วนใหญ่มีภูมิหลังอันลึกซึ้งเกี่ยวข้องกัน แม้ว่าความสามารถหรือนิสัยของพวกเขาจะเลวร้ายแค่ไหน พวกเขาก็มีพรสวรรค์และที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับหนึ่ง”
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่อัจฉริยะจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ จะผูกมิตรกับอัจฉริยะจากเมืองหลวงของจักรวรรดิด้วยกัน
“พวกเจ้าช่วยรอกันสักเดี๋ยว พวกเราสองพี่น้องเรามีเรื่องที่ต้องจัดการ” สองพี่น้องแว่บหายไปจากตรงหน้าหมู่คนที่จะขอติดตามสองพี่น้องตระกูลเอ๋า
สองพี่น้องตระกูลเอ๋าจ้องมองไปที่ลั่วอู๋
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ