บทที่ 262 ใบประกาศ
“ดีมาก”
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกคฤหาสน์ของมู่ฉิง
มู่ฉิงเปิดประตูออกไปดูและต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าลั่วอู๋นั้นได้มายืนรออยู่ด้านหน้าคฤหาสน์
“ลั่วอู๋ ? เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยอย่างนั้นเหรอ ?”
“ขอข้ายืมดูภูตสงครามหน่อยได้ไหม” ลั่วอู๋ถาม
มู่ฉิงยิ้มและพยักหน้า “แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ภูตสงครามคงไม่สามารถแข็งแกร่งได้เหมือนในตอนนี้แน่”
หลังจากนั้นมู่ฉิงก็เรียกภูตสงครามออกมา
ส่วนลั่วอู๋ก็เรียกอสูรแห่งความวุ่นวายออกมา
“นี่มันเป็นสัตว์วิญญาณแบบไหนกันนะ ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” มู่ฉิงสงสัยอยากรู้อยากเห็น “มันตัวเล็กน่ารักมาก ”
“มันเป็นแค่ สัตว์วิญญาณสัตว์เลี้ยงธรรมดา ๆ น่ะ” ลั่วอู๋ตอบพร้อมรอยยิ้ม
มู่ฉิงพยักหน้า
มีสัตว์วิญญาณมากมายในโลกนี้ที่นางยังไม่รู้จัก นอกจากนี้ลมปราณของอสูรแห่งความวุ่นวายนั้นยังไม่แข็งแรงพอที่จะดึงดูดความสนใจของนาง
ร่างของภูตสงครามนั้นปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว พลังวิญญาณในเส้นเลือดของมันเดือดพล่านตลอดเวลา มันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างสง่างามทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกเกรงกลัว
“ตวนซี เจ้ามองเห็นมันได้อย่างชัดเจนใช่ไหม?” ลั่วอู๋ถามด้วยเสียงต่ำ
ตวนซีคือชื่อที่ลั่วอู๋มอบให้กับอสูรแห่งความวุ่นวาย เนื่องจากมันมีรูปร่างเหมือนกับหมันโถวสีขาวหิมะนุ่ม ๆ
ดวงตาสีฟ้าของตวนซีกะพริบเล็กน้อย จากนั้นมันก็หันไปหาลั่วอู๋ เพื่อบ่งบอกว่ามันจดจำรูปลักษณ์ของภูตสงครามได้แล้ว
ตราบใดที่ตวนซีสามารถมองเห็นและจดจำรูปร่างของอีกฝ่ายได้ มันก็สามารถกลายร่างเป็นสัตว์วิญญาณตัวนั้นและคัดลอกความสามารถทักษะต่าง ๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่มิติวิญญาณของมันนั้นจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
มู่ฉิงถาม “มีอะไรงั้นเหรอ ? ภูตสงครามของข้ามีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
“ไม่มี ๆ มันสุขภาพแข็งแรงมาก” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดคุยต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะจากไป
เมื่อเสร็จสิ้นแล้วลั่วอู๋ก็มองหาสัตว์วิญญาณตัวต่อไป เขาไม่มีทางลืมผู้คนที่มีสัตว์วิญญาณดี ๆ ในครอบครองได้อยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น วิหคกระจกเงาอมตะ, ม้าผี, วานรพายุคลั่ง , ภูตสงคราม, เล่กุย,นกกระเรียนแห่งการจุติใหม่, แมงมุมยักษ์หลากสี ฯลฯ
ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาที่เคยอยู่ในสำนักชั้นนอกได้ผ่านเข้ามายังสำนักชั้นในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามหาตัวพวกเขา
ลั่วอู๋ได้มาถึงลานกว้างอันเงียบสงบ
เจ้าของลานกว้างนี้คือเหวินเสี่ยว ซึ่งเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาก่อน เขาคนนี้มีภูตปีกแสงอยู่ในครอบครอง มันเป็นสัตว์วิญญาณที่หาได้ยากมาก และมีทักษะในการรักษาที่แข็งแกร่ง
“ข้าคงจะประหยัดเงินได้มากในอนาคตเลยทีเดียว” ลั่วอู๋คิด
เหวินเสี่ยวรู้สึกประหลาดใจที่เห็นลั่วอู๋ “เจ้าต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับสองพี่น้องตระกูลเอ๋าไม่ใช่เหรอ ? เจ้ามีเวลาว่างมาหาข้าได้อย่างไรกัน?”
นับตั้งแต่การทดสอบเฉียนหลง พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
“ข้าแค่อยากเห็นภูตปีกแสงของเจ้าอีกครั้งเฉย ๆ น่ะ” ลั่วอู๋กล่าว
ภูตปีกแสงปรากฏตัวออกมาปล่อยแสงสว่างวาบ บินผ่านสายตาของตวนซีไป
อย่างไรก็ตามตวนซีนั้นสามารถจดจำรูปร่างและทักษะของภูตปีกแสงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“ขอบคุณเจ้ามาก ลาก่อน” ลั่วอู๋กำลังจะเดินจากไปแต่ เหวินเสี่ยวก็เข้ามาหยุดเขาเอาไว้
เหวินเสี่ยวกล่าวอย่างสงสัย “สภาพของเจ้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เจ้าไม่ได้พักผ่อนมานานแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ ๆ ข้ารู้สึกสบายมาก” ลั่วอู๋กล่าว
ลั่วอู๋อยู่ในอาการกำลังตื่นเต้น
ทุกครั้งที่ตวนซีจดจำสัตว์วิญญาณได้มากขึ้นก็เหมือนกับการฉีดยากระตุ้นให้กับเขาด้วยความรู้สึกที่ว่า “สัตว์วิญญาณหายากได้กลายมาเป็นของเขาแล้ว” มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก
เหวินเสี่ยวส่ายหัว“ ตอนนี้ข้าว่าเจ้าไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างดึงดูดความสนใจของเจ้าไปจนหมด ทำให้เจ้าไม่ได้สนใจสภาพร่างกายเลยสักนิด”
ลั่วอู๋นั้นกำลังมัวเมาอย่างเห็นได้ชัด
เหวินเสี่ยวหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาให้กับลั่วอู๋ “นี่คือยาสงบประสาท มันจะช่วยให้เจ้าสงบสติอารมณ์ได้”
ลั่วอู๋จำยาเม็ดนี้ได้เป็นอย่างดี
มันเป็นยาพิษระดับอ่อน ๆ เทียบได้กับยาสามัญราคาถูก
ลั่วอู๋หยิบเม็ดยาและกลืนมันลงไป
ความกระตือรือร้นที่อธิบายไม่ได้ของเขาค่อย ๆ บรรเทาลงอย่างช้า ๆ อารมณ์ของเขาเองก็ค่อย ๆ สงบลง ร่างกายเริ่มง่วงซึมลงไปเรื่อย ๆ
“ข้า … ” ลั่วอู๋กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเบาหวิว หน้ามืดและเป็นลมไปในที่สุด
เขาจำเป็นอย่างดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ