บทที่ 71
ช่วงเวลาแห่งบทละคร
มีเสียงการทุบถ้วยชาดังมาจากทางที่นั่งระดับมังกรอีกครั้ง แต่ที่ผิดกันคือคราวนี้เสียงทุบถ้วยขานั้นดังขึ้นกว่าครั้งก่อน
“เจ้าบังอาจนักที่พูดท้าทายข้าด้วยวาจาแบบนั้น!” หลี่ชวนเฉิงวางมือของเขาลงบนโต๊ะพร้อมคำราม
“มันก็แค่ผู้ใช้พลังวิญญาณชั้นต่ำที่ใช้เส้นสายเข้ามานั่งในส่วนชั้นที่นั่งชวนเทียนเท่านั้น “
ผู้คนในการประมูลต่างก็ประหลาดใจ
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคนที่อยู่ตรงที่นั่งตรงนั้น
ตามที่ระบุไว้ในสัญญาของผู้เข้าร่วม บอกว่าเขาเป็นชายที่สร้างคุณประโยชน์ให้ที่นี่อย่างสูง
อย่างไรก็ตามจากคำพูดของหลี่ชวนเฉิงสรุปว่าเขาเป็นเพียงคนที่ใช้เส้นสายเข้ามานั่งอย่างนั้นเหรอ
คฤหาสน์ชวนเทียน สามารถมีเส้นสายความสัมพันธ์กับตระกูลอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่
หลงเลินชานผู้เป็นประธานในการประมูลกลั้นขำแทบไม่ไหว เขารู้ดีว่าใครนั่งอยู่ตรงนั้น คนที่ใช้เส้นสายเข้ามา ลั่วอู๋คนนั้นนั่นเอง เขามีเส้นสายในนี้ด้วยเหรอ
เพราะตอนนี้เขาเป็นแขกคนพิเศษที่สำคัญของคฤหาสน์ชวนเทียน
“ดูให้ดีก็แล้วกัน ข้าจะช่วยเจ้าเพิ่มราคาสู้” ลั่วอู๋พูดเพียงแค่เรื่องนี้และไม่ได้ตอบโต้อีกฝ่ายไป
หลี่ชวนเฉิงนั้นกำลังโมโหสุดขีดจนสบถคำพูดดูถูกเหยียดหยามเขาออกมา แต่ลั่วอู๋ก็ไม่ได้สนใจ
ฉูจงฉวนอดใจไม่ถามอีกฝ่ายต่อไปไม่ไหว “เจ้าพูดจริงใช่ไหม”
“ แน่นอนสิ ข้าจริงจังนะ ข้าเพิ่งเสียไปอีก 300,000 หินวิญญาณเพราะพวกเขา คิดว่าข้าจะยอมปล่อยให้พวกเขาได้ภูตดอกไม้ไปโดยไม่ต้องเสียอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ ” ลั่วอู๋กล่าว
ฉูจงฉวนได้แต่สงสัย “เจ้ามีเงินเหลือเท่าไหร่กันแน่ พวก มู่เฉิงเองก็น่าจะร่วมประมูลภูตดอกไม้เพื่อเอาไปให้องค์หญิง เจียโรวเหมือนกัน ซึ่งถ้าสองพี่น้องตระกูลมู่ ได้ร่วมมือกับ หลี่ชวนเฉิงล่ะก็ พวกเขาก็น่าจะทำข้อตกลงบางอย่างกันเรียบร้อยแล้ว “
“ ไม่ว่าข้อตกลงคืออะไรพวกเขาก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อให้ชนะการประมูลภูตดอกไม้ เจ้ามีหินวิญญาณมากพอที่สู้กับพวกเขารึไง”
ลั่วอู๋ส่ายหน้าไปมา “ไม่ ทั้งตัวข้ามีเหลือแค่ 5 หมื่นหินวิญญาณ ข้าใช้เงินซื้อสัตว์กระหายเลือดที่มีทักษะคลุ้มคลั่งไปจนเกือบหมดแล้ว”
“เจ้านี่มันต้องหยิ่งยโสแค่ไหนกันนะ” ฉูจงฉวนเบิกตากว้าง “ข้าไม่รู้เลยนะว่าเจ้าเองก็เป็นคนร่ำรวยแบบลับๆ”
เขาคงคิดว่าว่าลั่วอู๋ไม่ได้มีเงินมากนัก
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เข้าโรงประมูลเฉิงเทียน เพื่อขายเอาเงินหรอก
ลั่วอู๋พูดพร้อมกับยิ้มว่า “ไม่หรอกข้ายังมีเจ้า … “
“เจ้าต้องการยืมเงินจากข้าเหรอ” ฉูจงฉวนถาม
“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้หมายถึงเงิน” ลั่วอู๋ส่ายหัว “เจ้าเองก็ต้องการที่จะชนะการประมูลภูตดอกไม้เหมือนกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นการดีมากถ้าอย่างน้อยคนที่ได้ภูตดอกไม้ไปเป็นเจ้า”
ฉูจงฉวนปาดเหงื่อที่หน้าผากและน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความงุนงง “เจ้าบ้าไปแล้วหรือข้าบ้าไปแล้วกันแน่ แม้ว่าตระกูลฉูของข้ามีเงินมาก แต่พวกเราก็ไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะสามารถแข่งขันกับมู่เฉิงและบุตรขององค์ชายรัชทายาทได้หรอกนะ”
ลั่วอู๋พูดอย่างมั่นใจ “ไม่หรอก เจ้าทำได้แน่ เชื่อข้าสิ “
ฉูจงฉวนยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ทำไมเขาถึงมั่นใจได้ขนาดนั้น
เดิมทีตระกูลฉูวางแผนที่จะซื้อภูตดอกไม้แล้วส่งภูตดอกไม้ไปให้องค์หญิงเจียโรว โดยให้คนที่ดีที่สุดของตระกูลเป็นผู้จัดการ
ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลและเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ ฉูจงฉวนจึงเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดของคนรุ่นใหม่ในตระกูล
แต่เขาไม่ต้องการที่จะทำหน้าที่นี้
ดังนั้นเขาจึงแอบมาคนเดียว ในฐานะของตัวแทนของตระกูลฉู
ซึ่งเป็นผลทำให้ ผู้อาวุโสของตระกูลที่อยู่ข้างนอกโรงประมูลว่ากล่าวตักเตือนเขาอย่างรุนแรงที่สุด
จากสภาพเขาคงทำได้แค่พยายามประมูลภูตดอกไม้ เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะฉูจงฉวนและบุตรขององค์ชายรัชทายาทได้หรือไม่
การทะเลาะกันได้สิ้นสุดลงตรงนั้นและการประมูลสินค้าก็ดำเนินต่อไปตามระเบียบ
ลั่วอู๋ยังนึกถึงของหลายอย่างที่เขาได้ใช้จ่ายไป ซึ่งก็คือ เฟยหยวนสิบเม็ด, ชูหลินเสี่ยวหวนสิบเม็ด, และผงสนธยา ระดับ4
เฟยหยวน : ยาที่สามารถเพิ่มโอกาสในการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณ
ชูหลินเสี่ยวหวน: ยาที่สามารถระงับความดุร้ายของ สัตว์วิญญาณ และปรับปรุงอัตราความสำเร็จในการเลื่อนขั้น (ระดับต่ำกว่าทอง)
ผงสนธยา: ยาที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งต้นกำเนิดของ สัตว์วิญญาณ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณในระยะยาวได้ และยังสามารถช่วยเพิ่มอัตราการวิวัฒนาการได้อีกด้วย (ระดับทองเท่านั้น)
เพื่อเอายาเหล่านี้มาครอบครองลั่วอู๋ได้เสียเงินไปเกือบ 800,000 หินวิญญาณ ซึ่งแน่นอนว่าเขาลงนามในใบเรียกเก็บเงินแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ