แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์น่าตกใจตรงหน้า แต่สีหน้าของไซม่อนก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เขาเดินเอ้อระเหยตรงไปข้างหน้า
“ผมกลับบ้านแล้วครับ คุณพ่อ” ไซม่อนกล่าวทักทายดักลาสซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ หลังจากนั้น ไซม่อนก็หันไปมองอีกคนข้างกาย “พี่สะใภ้ก็มาด้วยเหรอ?”
ฟิโอน่าเป็นพี่สะใภ้ของไซม่อน เมื่อห้าปีที่แล้ว พี่ชายของไซม่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ดังนั้น เขาจึงต้องกลับไปรับช่วงต่อจากตระกูลแซคคารี่
หลังจากพี่ชายของไซม่อนเสียชีวิต ฟิโอน่าและโฮเวิร์ดได้ย้ายออกไป ทั้งสองทำเช่นนั้นเพราะไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนี้ พวกเขาต่างก็ต้องเห็นสิ่งของหลายอย่างซึ่งเป็นเหมือนตัวกระตุ้นความทรงจำของคนที่เสียไป
ดักลาสมองดูไซม่อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาถามขึ้นด้วยเสียงเข้ม “ลูกไปไหนมา? ทำไมเพิ่งกลับมาถึงบ้านเอาป่านนี้ล่ะ?”
ไซม่อนเลิกคิ้วและรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตลก “พ่อครับ ผมโตแล้วนะ กลับบ้านช้าไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
อันที่จริง ไซม่อนรู้ดีว่าพ่อของตนถามแบบนั้นเพราะต้องการที่จะรู้ว่าเขาได้อยู่กับชารอนหรือไม่
ดักลาสพ่นลมหายใจเสียงดัง “ผู้หญิงที่ชื่อว่าชารอนอยู่ไหนกันล่ะ? เธอเข้ามาทำลายงานเลี้ยงไม่พอ เธอยังไม่กล้ายอมรับผลที่ตามมาด้วยงั้นเหรอ? ลูกพาเธอออกไปไม่ใช่หรือยังไงกัน?”
ฟิโอน่าซึ่งนั่งอยู่ข้างดักลาสอยากถามไซม่อนเช่นนั้นเหมือนกัน เนื่องด้วยดักลาสได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ฟิโอน่าจึงอดใจไม่ไหว "ไซมอน ชารอนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีหรอกนะ เพราะเมื่อห้าปีก่อน เธอทำเรื่องน่ารังเกียจและนอกใจโฮเวิร์ด แถมตอนนี้ การกลับมาของชารอนต่างก็มีแต่จะสร้างปัญหา นายควรอยู่ให้ห่างจากผู้หญิงคนนั้นเสียนะ"
“ใช่ค่ะ ชารอนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างที่คุณลุงคิดนะคะ เมื่อก่อนฉันโง่เองแหละที่ยอมเป็นเพื่อนกับคนแบบนั้น ตอนนั้นฉันยังไม่รู้จักธาตุแท้ของเธอเลย ฉันเองก็เพิ่งมารู้ทีหลังนี่แหละค่ะว่าเธอเคยคบผู้ชายคนอื่นทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว เธอไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นโดยที่โฮเวิร์ดก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันสงสารโฮเวิร์ดมากเลยล่ะค่ะ"
แซลลี่เผยหน้าเศร้าในระหว่างที่กำลังสนับสนุนคำพูดของฟิโอน่า เธอเกลียดชารอนมากถึงมากที่สุด เพราะชารอนเป็นตัวการที่ทำให้งานเลี้ยงวันครบรอบแต่งงานของเธอพังลง
นอกจากนี้ ชารอนยังทำให้แซลลี่สติหลุดต่อหน้าสาธารณชนอีกด้วย ด้วยเหตุนั้น ความประทับใจของทุกคนที่มีต่อแซลลี่ในฐานะผู้หญิงทรงสง่างามได้หายไปหมดแล้ว อันที่จริง แซลลี่อยากให้ชารอนตายไปเลยด้วยซ้ำ!
ทว่า สิ่งที่ทำให้แซลลี่ตกใจคือคำพูดที่ชารอนกระซิบข้างหู 'ชารอนรู้ความลับของเราแล้วงั้นเหรอ?'
แซลลี่ยกมือขึ้นและสัมผัสท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
โฮเวิร์ดไม่พูดอะไรออกมาสักคำ โฮเวิร์ดสังเกตเห็นว่าแซลลี่กำลังตัวสั่น เขาคิดว่าเธอน่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะความโกรธ โฮเวิร์ดผู้เป็นสามีรู้สึกแย่ไม่น้อย ทันใดนั้น เขาก็เดินเข้าไปกอดแซลลี่และปลอบประโลมเธอ
ทันทีที่ได้ยินคำกล่าวหาของคนในครอบครัวที่มีต่อชารอน ไซม่อนก็กล่าวคำพูดอย่างเฉยเมย “ถึงเธอจะเป็นคนแบบนั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ? แต่ยังไงเสีย คืนนี้เธอก็เป็นคู่ควงของผม แถมเธอก็ถูกรังแกด้วย เพราะแบบนั้น ผมต้องปกป้องเธอ"
“ลูกไม่ได้ยินพวกเขาบอกรึยังไงกันว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ต่างอะไรกับนางเพศยาน่ะ? ลูกคิดว่าเธอไม่ได้หวังอะไรจากลูกจริง ๆ เหรอ?" ดักลาสเชื่อในสิ่งที่ฟิโอน่าพูด นอกจากนี้ ดักลาสจะไม่ยอมให้ลูกชายของตนเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้อีกด้วย
“แล้วพวกคุณมีหลักฐานอะไรว่าเธอเป็นนางเพศยาล่ะ? แค่คำพูดไม่กี่คำของพวกอื่น พวกคุณก็ตัดสินไปแล้วเหรอครับว่าเธอเป็นคนแบบนั้น?" ไซม่อนตอบอย่างใจเย็น
"เรามีหลักฐาน เรามีรูปถ่ายด้วย!" แซลลี่กล่าวคำพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
"งั้นเหรอ? แล้วรูปถ่ายอยู่ไหนแล้วล่ะ?" ไซม่อนถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO