ในปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครทำเค้กให้เพเนโลเป้ในวันเกิดเลย ทันทีที่ฟิโอน่าตักเค้กไปให้ไซม่อน เขาก็ตักขึ้นมากินด้วยความสุภาพเท่านั้น
“ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ” เพเนโลเป้ไม่เคยชอบอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว เธอไม่แม้แต่จะตักกินเลยด้วยซ้ำ
ในตอนนี้ รีเบคก้ารู้สึกอับอาย ดูเหมือนว่าเพเนโลเป้จากตระกูลแซคคารี่จะเป็นคนที่เอาใจยากไม่น้อยเลย
ท้ายที่สุด เค้กทั้งหมดก็ถูกตัดให้กับคนรับใช้ในบ้าน
รีเบคก้ากำหมัดแน่น เธอรู้สึกอับอายขายขี้หน้ามากแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้ทำเค้กก็ตาม
หลังจากรับประทานเค้กเสร็จแล้ว ทุกคนก็เดินออกจากห้องอาหาร ทว่า ในระหว่างที่ไซม่อนลุกขึ้นยืน เขาก็ตัวสั่นราวกับกำลังจะล้มลง
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ?" เพเนโลเป้ที่นั่งอยู่ข้างไซม่อนถามขึ้น
"อ๊าย! ไซม่อน ทำไมนายถึงมีผื่นขึ้นเยอะขนาดนั้นล่ะ?” ฟิโอน่าก็ร้องตะโกนออกมาทันที
หลังจากได้ยินเสียงอุทานของฟิโอน่า เพเนโลเป้ก็เห็นผื่นแดงที่ใบหน้าและลำคอของไซม่อน เธอมองไปยังไซม่อนชั่วครู่ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เข้าใจทุกอย่างในทันที
เพเนโลเป้หันไปหารีเบคก้าและรีบถามอย่างเย็นชา "เธอใส่อะไรลงไปในเค้ก?”
รีเบคก้าตกใจกับท่าทีที่น่าสะพรึงกลัวของเพเนโลเป้ ราวกับว่าเธอกำลังถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษใส่ไซ่มอนโดยการใส่บางอย่างลงไปในเค้ก
รีเบคก้าส่ายหัวอย่างกังวลและหวาดกลัว “ฉัน... ฉันไม่ได้ใส่อะไรเลยนะคะ... ”
อันที่จริง เธอไม่ได้ทำเค้กด้วยซ้ำ เธอจะรู้ได้ยังไงว่ามีอะไรอยู่ในนั้น?
รีเบคก้าทำได้เพียงแค่จ้องมองไปที่ฟิโอน่าเพื่อขอความช่วยเหลือ
ฟิโอน่าตบหน้าผากตัวเองและแสร้งทำเป็นหงุดหงิด “เอ่อ ฉันลืมบอกไปเลยว่าไซม่อนกินถั่วไม่ได้ เขาเป็นภูมิแพ้ เธอใส่ถั่วลงไปในเค้กด้วยเหรอ?”
รีเบคก้าได้รับสัญญาณจากฟิโอน่า ทันใดนั้น เธอก็พยักหน้าตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ใช่ค่ะ... หนูใส่ถั่วลงไป”
รีเบคก้าทำได้เพียงยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้น เธอไม่สามารถพูดออกมาได้เลยว่าตัวเองไม่ได้ทำเค้ก เพราะมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
ดูเหมือนไซม่อนจะทนไม่ไหวแล้ว ไซม่อนไม่เพียงแต่มีผื่นเท่านั้น แต่เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัวด้วย
“ฉันขอโทษ ฉัน... ฉันไม่รู้...” ทันทีที่เห็นไซม่อนในสภาพนั้น รีเบคก้าก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว เธอกำลังเจอกับปัญหาเข้าแล้ว!
เพเนโลเป้ออกคำสั่งกับคนรับใช้ข้างกาย “ไปเอายาแก้แพ้จากชุดปฐมพยาบาลมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“เรียกหมอซาเวียร์มาด่วนเลยด้วย!”
“ส่วนพวกคุณทุกคน มาช่วยกันจับตัวไซม่อนนอนลงก่อน"
คนรับใช้ลงมือทันทีหลังจากได้รับคำสั่ง ทว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องแบบนี้เกินขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว
คนรับใช้ของตระกูลแซคคารี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานในครัว พวกเขาและพวกเธอต่างได้รับแจ้งข้อห้ามของครอบครัวตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ามาในบ้านหลังนี้แล้ว ไซม่อนกินถั่วลิสงไม่ได้ เพราะฉะนั้น อาหารที่เกี่ยวข้องกับถั่วลิสงทั้งหมดจึงไม่สามารถนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะได้เลย
ด้วยเหตุนั้น อาหารที่ทุกคนได้กินในคืนนี้จะต้องเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์เท่านั้น แต่ทว่า สิ่งเดียวที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็คือเค้กของรีเบคก้า
โดยปกติแล้ว ยาแก้แพ้มักจะอยู่ในชุดปฐมพยาบาล มันมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ไซม่อนเป็นแบบนี้
ไม่มีใครรู้เลยว่าในเค้กต้องมีถั่วกี่เม็ดถึงจะโค่นชายร่างสูงและแข็งแรงอย่างไซม่อนลงได้
คนรับใช้ช่วยพยุงไซม่อนกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน เขากำลังตกอยู่ในอาการโคม่า ตอนนี้ เขายังไม่ได้สติอะไรเลย
รีเบคก้ารู้สึกหวาดกลัว เธอร้องไห้พร้อมกับจับมือของฟิโอน่าไปด้วย หลังจากนั้น เธอก็ถามต่อ "หนูควรทำยังไงดีล่ะคะ? หนูต้องโดนด่าแน่เลยใช่ไหม?"
ฟิโอน่าตบมือรีเบคก้าและกระซิบถ้อยคำปลอบโยนข้างหู “ไม่เป็นไรหรอก ไซม่อนเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ถ้าคุณหมอมาตรวจดูอาการ คืนนี้เขาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว"
ทว่า ออร่าบางอย่างแวบผ่านดวงตาของฟิโอน่าออกมา เธอเอนตัวเข้าไปใกล้หูของรีเบคก้าและกระซิบอีกครั้ง “ทีหลัง หนูจะต้องมีไหวพริบไวกว่านี้นะ คืนนี้หนูต้องเป็นคนดูแลไซม่อน เข้าใจไหม?" เธอมองไปยังรีเบคก้าอย่างมีเลศนัย
รีเบคก้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในตอนนี้ รีเบคก้าเข้าใจแล้วว่าเป็นฟิโอน่าเป็นคนจงใจใส่ถั่วลิสงลงไปในเค้กเพื่อทำให้ไซม่อนเกิดอาการภูมิแพ้กำเริบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO