คุณหมอซาเวียร์รีบมายังบ้านใหญ่ของตระกูลแซคคารี่ทันที เมื่อเขามาถึง เขาก็รีบเข้าไปในห้องเพื่อตรวจดูอาการของไซม่อน ส่วนคนอื่นก็กำลังยืนอยู่ที่ปลายเตียง
โฮเวิร์ดเองก็กำลังช่วยพยุงดักลาสอยู่ ทั้งสองคนเป็นห่วงไซม่อนมาก
ทันทีที่คุณหมอซาเวียร์เห็นสภาพของไซม่อนและได้รับแจ้งว่าไซม่อนกินอะไรเข้ามาถึงทำให้เกิดอาการแพ้ เขาก็เริ่มวินิจฉัยสถานการณ์ทันที
“คุณหมอซาเวียร์คะ เขาเป็นยังไงบ้าง?” เพเนโลเป้ถามก่อน
“มันเป็นการแพ้แบบเฉียบพลันน่ะครับ ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในอาการโคม่าชั่วคราว แต่โชคดีที่คุณให้ยาเขาไปแล้วเมื่อครู่ เพราะฉะนั้น หลังจากหมดสติไปอีกสักพัก เดี๋ยวเขาก็จะตื่นขึ้นมาแล้วแหละครับ เดี๋ยวผมจะเตรียมยาเอาไว้ให้คุณไซม่อนเองครับ ถ้าคุณไซม่อนตื่นแล้ว ต้องให้เขาทานยาทันทีเลยนะครับ อีกอย่าง อย่าลืมทายาบริเวณที่มีผื่นด้วย อย่าปล่อยให้เขาสวมเสื้อผ้าหรือคลุมร่างกายด้วยผ้าห่มในตอนนี้ เขาสามารถสวมเสื้อและห่มผ้าได้ก็ต่อเมื่อผื่นหายไปแล้วเท่านั้น"
“โอเคค่ะ พวกเราเข้าใจ” เพเนโลเป้ขอให้พ่อบ้านพาคุณหมอซาเวียร์ออกไปหยิบยา
“พ่อคุณควรกลับไปพักผ่อนในห้องก่อนนะคะ เดี๋ยวพวกเราจะดูแลไซม่อนเอง คุณพ่อก็น่าจะได้ยินสิ่งที่คุณหมอพูดแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นาน เขาก็หายดีแล้วแหละค่ะ" เพเนโลเป้มองดูพ่อที่แก่ชราของตัวเอง เธอไม่อยากทำให้เขาเหนื่อยเกินไป
ในตอนนี้ดักลาสรู้สึกตกใจมาก ไซม่อนเคยมีอาการแพ้มาก่อน แต่เขาไม่เคยหมดสติแบบนี้เลย
ดักลาสมองไปยังรีเบคก้าที่กำลังตาแดงก่ำจากการร้องไห้ เขาคงว่าอะไรเธอไม่ได้ เพราะเธอไม่รู้เรื่องอาการแพ้ของไซม่อนเลย ถ้าจะตำหนิเธอไป มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
หลังจากนั้น ฟิโอน่าก็พูดขึ้น “โฮเวิร์ด ไปช่วยพยุงคุณปู่กลับห้องก่อนสิ" เธออยากให้ดักลาสออกไปก่อน
“ก็ได้ งั้นพวกลูกดูแลไซม่อนไปก่อน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ตะโกนให้สุดเสียงเลยนะ!” ดักลาสกล่าว
“คุณลุงดักลาสคะ... หนูขอโทษนะคะ หนูไม่รู้..." รีเบคก้าขอโทษดักลาสด้วยน้ำตาที่ไหลอาบหน้า
ดักลาสมองรีเบคก้าเป็นครั้งสุดท้ายและถอนหายใจ เขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอ หลังจากนั้น โฮเวิร์ดก็พยุงดักลาสออกไป
“ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่อยู่ล่ะ?” เพเนโลเป้ขมวดคิ้วและมองไปยังรีเบคก้าด้วยความสงสัย ตอนนี้เพเนโลเป้ไม่ใช่คนสุภาพแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO