ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 26

สรุปบท บทที่ 26: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO

สรุปตอน บทที่ 26 – จากเรื่อง ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO โดย มวลหมู่บุปผาบนแก้วสุราสีชาด

ตอน บทที่ 26 ของนิยายโรแมนติกเรื่องดัง ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO โดยนักเขียน มวลหมู่บุปผาบนแก้วสุราสีชาด เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ใบหน้าชราของดักลาสมืดลง “เธอผ่านการทดสอบของพ่อแล้ว พ่อคิดว่าเธอมีคุณสมบัติที่จะเป็นเลขาของลูกได้นะ”

ไซม่อนหรี่ตาลง “แต่ผมไม่ได้ต้องการเลขา ถ้าคุณพ่อยังยืนกรานให้เธอทำงานที่บริษัทนี้ ผมก็จะให้ฝ่ายบุคคลจัดเธอให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกว่านี้”

“ไม่จำเป็นหรอก ให้เธอเป็นเลขาของลูกดีกว่า”

“พ่อครับ นี่พ่อกำลังหาเลขาหรือผู้หญิงให้ผมอยู่กันแน่?” ไซม่อนไม่อยากพูดอ้อมไปอ้อมมาอีกต่อไปแล้ว

ดักลาสรู้สึกว่ามันเป็นบทสนทนาที่ค่อนข้างน่าเหนื่อยใจ ดังนั้น เขาจึงพูดอยากตรงไปตรงมา "รีเบคก้าเป็นเด็กที่พ่อรู้จักมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กจนเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้หญิงคนนี้เก่งมาก เธอทั้งเก่งด้านวิชาการและเป็นคนอ่อนโยน เธอเหมาะที่จะเป็นภรรยาของลูกด้วยซ้ำ เธอจะสามารถช่วยลูกได้ในทุกเรื่อง"

“พ่อครับ ผมไม่ได้ต้องการผู้หญิงหรือภรรยาสักหน่อย” ในตอนนี้ ไซม่อนตั้งใจจะบอกพ่อของตัวเองว่าเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงรอบตัวเลยแม้แต่น้อย

ดักลาสสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ “อ่า งั้นเหรอ? งั้นก็แปลว่าลูกมีผู้หญิงที่อยากอยู่ด้วยแล้วสิ ทำไมพ่อถึงจะไม่รู้เรื่องนั้นล่ะ?”

ไซม่อนมองไปรอบกาย เขาเริ่มคิดถึงชารอนขึ้นมา ทันใดนั้น น้ำเสียงของไซม่อนก็เปลี่ยนไป "เดี๋ยวสักวันผมจะพาเธอไปที่บ้านเอง" ทันใดนั้น ไซม่อนวางสายทันทีที่พูดจบ

ดักลาสโยนโทรศัพท์ไปด้านข้าง 'ไอ้ลูกคนนี้เริ่มซ่อนผู้หญิงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?'

ทันทีที่วางสาย ไซม่อนก็ลุกขึ้นและจ้องมองไปยังรีเบคก้า เธอก้มศีรษะลงเพื่อระงับความคับข้องใจ รีเบคก้ารู้ตัวดีว่าเธอต้องทำอย่างไร "ฉัน... ฉันจะไปรายงานตัวที่แผนกบุคคลเดี๋ยวนี้แหละค่ะ" หลังจากนั้น เธอก็ปิดหน้าและเดินหนีไป

ไซม่อนเลิกคิ้วและกลับไปนั่งบนเก้าอี้หมุน เขาหยุดคิดเรื่องชารอนและเซบาสเตียนไม่ได้เลย 'อาการบาดเจ็บที่ขาของชารอนดีขึ้นแล้วหรือยังนะ?'

เขาเป็นหัวหน้าของชารอน และชารอนเองก็ได้รับบาดเจ็บเพราะเขา แค่นี้ก็พอจะเป็นเหตุผลที่ไซม่อนควรไปเยี่ยมเธอแล้วใช่ไหม?

ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไซม่อนกัดริมฝีปากและตัดสินใจไปเยี่ยมชารอนหลังเลิกงาน

เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่นิ่งไม่ได้เลย ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ใช่เวลาเลิกงานก็เถอะ

ไซม่อนสั่งให้แฟรงกี้ไปเอารถออกมารอตนเองที่ทางเข้าบริษัท หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาสั่งให้แฟรงกี้ไปที่ร้านดอกไม้เพื่อซื้อดอกไม้สักช่อ นอกจากนี้ ไซม่อนยังไปร้านผลไม้เพื่อซื้อผลไม้มาอีกด้วย

'เราไปเยี่ยมทั้งสองคนทั้งที จะไปมือเปล่าได้ยังไงกันล่ะ?'

นอกจากนี้ ไซม่อนยังสั่งให้แฟรงกี้ขับรถไปร้านขายของเล่นด้วย เขาลงไปซื้อชุดรถแข่งสำหรับเด็กมาหนึ่งชุด แค่นี้ไซม่อนก็รู้สึกพอใจแล้ว

ทว่า ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็กล่าวคำพูดออกมา “ของเล่นพวกนั้นมันเด็กเกินไป ผมไม่เล่นอะไรแบบนั้นหรอก”

แฟรงกี้จ้องไปที่เจ้าหนูน้อย 'งั้นหมายความว่าเราต้องเอาของเล่นไปคืนด้วยงั้นเหรอ?'

อันที่จริง แฟรงกี้แทบจะหลุดขำออกมา 'นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านประธานต้องการมอบของขวัญให้คนอื่น แต่สุดท้าย ทุกอย่างกลับเละไม่เป็นท่า'

ในตอนนั้นเอง ท่าทีของไซม่อนยังคงไร้ความรู้สึก เห็นได้ชัดว่าไซม่อนกำลังพยายามอดทนกับบางสิ่งบางอย่างอยู่ หลังจากนั้น ไซม่อนกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เอากลับไปคืนเถอะแฟรงกี้”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบเอากลับไปคืนเดี๋ยวนี้แหละ” แฟรงกี้รู้สึกว่าเจ้านายของตนกำลังรู้สึกแย่จนไม่กล้าหัวเราะออกมา เขาหยิบสิ่งของและรีบจากไป

ท้ายที่สุด ลิฟต์ก็มาถึง ทันใดนั้น ทั้งสามจึงขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน

ชารอนเดินมาเปิดประตูทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่ง ก่อนที่เธอจะชำเหลืองมองดูผู้คนหน้าประตู เธอก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “เธอไม่ได้เอากุญแจไปด้วยหรือยังไงกัน?”

ชารอนรู้ว่าไรลีย์และลูกชายของเธอกลับมาแล้ว แต่ทว่า เธอไม่คาดคิดเลยว่าไซม่อนจะโผล่มาด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO