บทที่ 36 – ตอนที่ต้องอ่านของ ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO
ตอนนี้ของ ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO โดย มวลหมู่บุปผาบนแก้วสุราสีชาด ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 36 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ในตอนนี้ ดูเหมือนชารอนจะไม่เข้าใจความหมายที่ไซม่อนต้องการจะสื่อเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่า เธอเองก็ไม่อยากคิดอะไรต่ออีกแล้ว หลังจากนั้น ชารอนก็ก้มมองความสกปรกของตัวเองและอดเผยยิ้มออกมาไม่ได้ “งั้นเดี๋ยวฉันขอไปอาบน้ำสักครู่นะคะ”
หลังจากนั้น ชารอนมองดูลูกชายอีกครั้ง “เซบาสเตียนลูกรัก ช่วยแม่ดูแลแขกหน่อยนะจ้ะ”
"ได้ครับ" เซบาสเตียนรีบเดินไปหยิบเกมหมากรุกที่ทั้งสองยังเล่นกับไม่จบมาทันที “คุณลุงครับ พวกเราเล่นต่อจากครั้งที่แล้วดีไหมครับ?”
"เอาสิ" ไซม่อนตอบกลับและพร้อมที่จะเล่นด้วย
ชารอนมองดูทั้งสองด้วยความงุนงง ทั้งคู่ดูเหมือนคุณพ่อและลูกชายจริง ๆ
ทันใดนั้น จิตใจของชารอนเริ่มตึงเครียดขึ้นมา เธอไม่อยากคิดอะไรมากอีกแล้ว หลังจากนั้น ชารอนก็หันกลับมาและเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ทันทีที่ชารอนเดินออกมาหลังจากอาบน้ำ เธอก็ได้ยินเสียงเซบาสเตียนร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “รุกฆาต! ผมชนะ! ในที่สุด ผมก็ชนะคุณลุงสักที!”
ชารอนเดินไปยังห้องนั่งเล่นและเห็นลูกชายของตัวเองกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขในระหว่างที่ไซม่อนเอาแต่กัดริมฝีปาก เขาไม่ได้รู้สึกแย่เลยที่ตัวเองแพ้ แต่กลับตรงกันข้าม ไซม่อนมีอุปนิสัยไม่ต่างอะไรกับสุภาพบุรุษชนชั้นสูงเลย
ทันทีที่เห็นชารอนเดินเข้ามา เซบาสเตียนก็รีบวิ่งไปบอกข่าวดีกับชารอนทันที “แม่ครับ คราวนี้ผมชนะคุณลุงด้วยล่ะ!”
“งั้นเหรอ? ลูกแม่เก่งเกินไปไหนล่ะเนี่ย?”
เซบาสเตียนเผยท่าทีหยิ่งผยองเล็กน้อย “ผมบอกแล้วว่าผมจะต้องชนะคุณลุงแน่!”
“ลูกชนะแล้วก็อย่าขี้โม้ให้มันมากนะ เจ้าลูกชายตัวแสบ” ชารอนเคาะหัวลูกชาย เธอกลัวว่าไซม่อนจะอารมณ์เสีย
ชารอนมองดูไซม่อนและสังเกตเห็นว่าท่าทีของไซม่อนยังคงเหมือนเดิม เขาดูไม่มีความสุขเลย
อันที่จริง มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น เขาคงไม่ได้เสียใจที่แพ้เด็กน้อยอย่างเซบาสเตียนหรอกใช่ไหม?
“ทั้งสองคนเล่นกันต่อเลยก็ได้ เดี๋ยวแม่จะเข้าไปเป่าผมให้แห้งก่อน” ชารอนพูดกับไซม่อนและเดินเข้าไปในห้อง
ชารอนนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและเปิดเครื่องเป่าผมเพื่อเป่าผมยาวสลวยของตัวเองให้แห้ง ทันใดนั้น โครงร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างหลังชารอน ก่อนที่จะทันได้โต้ตอบ เครื่องเป่าผมในมือของชารอนก็ถูกดึงออกไปแล้ว
ชารอนมองไปยังกระจกโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความประหลาดใจ มันสะท้อนให้เห็นถึงร่างที่แข็งแรงและสูงใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่ง เขาถือเครื่องเป่าลมอยู่ในมือและกำลังช่วยชารอนเป่าผมให้แห้งอยู่
ชารอนในตอนนี้รู้สึกเขินอายมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เธอรีบคว้าเครื่องเป่าผมกลับคืนมาทันที "เอ่อ... ฉันเป่าเองได้ค่ะ..."
ทว่า มีรถมาจอดรอไซม่อนอยู่ที่ด้านหน้าแล้ว ระหว่างที่ชารอนเดินไปที่รถ เธอก็พลันชำเลืองมองไซม่อนไปด้วย
ไซม่อนมองดูชารอนนอกรถและกล่าวคำพูดออกมา “เข้ามาสิ”
"ว่าไงนะคะ?" ชารอนรู้สึกสับสน เพราะเธอไม่ได้จะกลับไปที่บริษัทในวันนี้
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยน่ะ” ไซม่อนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของชารอน
ชารอนสามารถสัมผัสและรู้สึกได้ว่าท่าทีของไซม่อนดูเคร่งขรึมลง
ทันใดนั้น ชารอนก็ขึ้นรถไปด้วยความรู้สึกสงสัย เธอปิดประตูทันที หลังจากนั้น ชารอนก็สังเกตเห็นว่าเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนอยู่ภายในรถเท่านั้น เพราะคนขับและแฟรงกี้ต่างก็กำลังยืนอยู่นอกรถ
ชารอนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย “ท่านประธานแซคคารี่คะ?”
ไซม่อนยื่นเอกสารให้กับชารอน “เซ็นเสียสิ”
ชารอนมองลงไป ด้านหน้าของเอกสารมีเพียงแค่สี่คำเท่านั้น 'ทะเบียนสมรส!'
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO