ชารอนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และบ่นพึมพำ “เขา... คือคนที่ลูกรู้จักอยู่แล้วแหละจ้ะ คุณลุงไซม่อนไง”
เซบาสเตียนตกใจ “แม่กำลังจะบอกว่าคุณลุงตัวเหม็นเป็นพ่อของผมงั้นเหรอ? ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย แม่?”
ชารอนเผยสีหน้าเคร่งขรึมราวกับต้องการบอกลูกชายว่าแม่ไม่ได้ล้อเล่น เธอสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเซบาสเตียนอย่างประหม่า เขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้ไหมนะ?
“งั้นก็ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนบอกว่าเราหน้าเหมือนกัน เพราะว่าเขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของผมจริง ๆ ด้วย!”
“แล้วลูกยอมรับให้เขาเป็นพ่อได้ใช่ไหม?” ชารอนถามอย่างสงสัย
“แน่นอนสิครับ ผมโอเคที่คุณลุงจะเป็นพ่อของผม แม่ครับ คุณลุงตัวเหม็นคนนั้นรวยมากเลยนะครับ ผมว่าเขาต้องดูแลและรับผิดชอบเราสองคนได้แน่นอน”
ริมฝีปากของชารอนกระตุกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เซบาสเตียนกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
ก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยกันเสร็จ โทรศัพท์ของชารอนก็ดังขึ้น ไซม่อนโทรมาบอกเธอว่าตอนนี้เขารออยู่ชั้นล่างแล้ว ไซม่อนขอให้ทั้งสองลงไปเลย
เธอวางสาย หลังจากนั้น เซบาสเตียนก็รีบดึงมือเธออย่างตื่นเต้น “ลงไปกันเถอะครับแม่”
ชารอนยังคงไม่นั่งนิ่งและกล่าวคำพูด “ลูกยอมรับเขาจริง ๆ เหรอ? เรากำลังจะไปทานอาหารเย็นที่บ้านของคุณลุง แล้วก็ไปพบญาติของเขาด้วย ลูกไม่กลัวเหรอ?”
“มันก็แค่อาหารไม่ใช่เหรอครับ? ยังไงก็เถอะ แม่ครับ ถ้าแม่กลัว เดี๋ยวลูกชายคนนี้จะปกป้องแม่เอง” เซบาสเตียนพลันตบหน้าอกของตัวเอง
ชารอนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในตอนแรก แต่ทว่า ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
เซบาสเตียนลากชารอนลงไปชั้นล่าง ระหว่างที่ทั้งสองลงไป พวกเขาก็เห็นรถหรูสีดำจอดอยู่ไม่ไกล
แฟรงกี้ยืนอยู่ข้างรถ ดูเหมือนเขากำลังทั้งคู่อยู่
ชารอนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และเดินไปพร้อมกับลูกชาย
"คุณนายแซคคารี่ครับ นายน้อยด้วย โปรดขึ้นรถได้เลยครับ” ทันทีที่พวกเขามาถึง แฟรงกี้ก็เปิดประตูรถให้
ทันทีที่ได้ยินว่าแฟร้งกี้พูดกับเธออย่างไร ชารอนก็ยังคงมึนงงอยู่บ้าง เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอกับไซม่อนแต่งงานกันแล้วจริง ๆ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเท่านั้น
หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาแต่งงานเมื่อวันก่อน ไซม่อนก็ได้ส่งคนมาถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวของเธอเอาไว้ ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้รับทะเบียนสมรส
พวกเขาทั้งสองไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนสมรสด้วยซ้ำ แต่ทว่า ไซม่อนอาจจะแต่งงานกับชารอนเพราะเห็นแก่เด็กก็ได้
ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็รีบกระโดดขึ้นรถทันที หลังจากนั้น เขาก็โบกมือให้ชารอนซึ่งยังคงตกตะลึงอยู่ด้านนอก “แม่ครับ เข้ามาเถอะครับ”
ชารอนกลับมาได้สติอีกครั้งพร้อมกับรีบสลัดความคิดวุ่นวายทิ้งไป หลังจากนั้น เธอก็เดินเข้าไปในรถ
ไซม่อนอยู่ข้างในแล้ว เมื่อผู้เป็นแม่และลูกชายเข้าไปข้างใน ไซม่อนก็บอกกับคนขับให้ออกรถ
ชารอนเหลือบไปยังไซม่อน เขารู้สึกว่าทุกอย่างแปลกไป
ในระหว่างนั้น เซบาสเตียนดูเหมือนจะกระปรี้กระเปร่าไม่น้อย เขามองไปยังไซม่อนโดยไม่กะพริบตาและถามขึ้น “แม่บอกว่าคุณลุงเป็นพ่อของผมเหรอครับ?”
ไซม่อนพยักหน้า "ใช่"
“ถ้าอย่างนั้น คุณลุงจะพาเรากลับบ้านและดูแลพวกเราได้ไหมครับ?” เด็กน้อยกล้าพอที่จะถามทุกอย่าง
ไซม่อนเลิกคิ้ว "แน่นอนสิ"
“แล้วจะแต่งงานกับแม่ของผมไหม?”
ไซม่อนเหลือบมองที่ชารอน เธอไม่ได้บอกเซบาสเตียนเรื่องนั้นหรือยังไงกัน?
ไซม่อนกัดริมฝีปาก “แม่นายกับลุงแต่งงานกันแล้ว”
อันที่จริง ชารอนไม่คิดเลยว่าเซบาสเตียนจะยิงถามคำถามมากมายออกไปขนาดนี้ ไม่นานนัก ชารอนจึงหันไปมองลูกชายพร้อมกล่าวคำพูด “นั่งนิ่ง ๆ เลย เลิกถามคุณลุงได้แล้ว”
“แม่ครับ ผมกำลังต่อสู้เพื่อความสุขของแม่อยู่นะ เพราะถ้าคุณลุงไม่ยอมรับผิดชอบเรื่องดูแลเราสองคน นั่นก็หมายความว่าเขาเป็นคนนิสัยไม่ดี และผมก็จะไม่มีวันยอมรับให้คนอย่างเขาเป็นพ่อผมเด็ดขาด!”
ชารอนรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าลูกชายกำลังทำทุกอย่างเพื่อเธอ
“นายกำลังจะบอกให้ลุงจัดงานแต่งสุดยิ่งใหญ่เพื่อแสดงให้ทุกคนรู้ว่าลุงรับผิดชอบต่อคุณแม่ของนายใช่ไหม?" ไซม่อนถามพร้อมกับเผยยิ้ม
“มันต้องเป็นแบบนั้นสิครับ!” เด็กน้อยตอบทันที
ทันใดนั้น ชารอนก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “อย่าฟังเขาเลย ไม่จำเป็นต้องมีงานวิวาห์หรอกค่ะ”
แต่ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าชายตรงหน้ากำลังพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง “ถ้าไม่มีปัญหาอะไร จัดงานแต่งหน่อยก็ไม่เลว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO