ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 42

ภายในห้องหนังสือ ไซม่อนได้แสดงเอกสารทดสอบความเป็นบิดาระหว่างตนและเซบาสเตียนให้ดักลาสดู ไซม่อนกล่าวคำพูดเชิงสรุปเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน

ทันทีที่ทั้งสองออกมาจากห้องหนังสือ ชารอนสังเกตเห็นว่าดักลาสยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่บ้าง แต่ทว่า เขาไม่ได้มีท่าทีเหมือนในตอนแรกแล้ว

ดักลาสกลับมานั่งบนโซฟาหนังอีกครั้งแล้วมองดูเจ้าตัวเล็กตรงหน้า ดักลาสโบกมือให้และกล่าวคำพูด “มานี่หน่อยสิ เจ้าหนูน้อย”

“ผมไม่ใช่เด็กน้อยสักหน่อย” เซบาสเตียนไม่แม้แต่จะขยับตัว

ดักลาสพินิจพิเคราะห์เด็กชายตรงหน้า เนื่องจากเด็กน้อยเป็นหลานชายของดักลาส เขาจึงกล่าวคำพูดออกมา “เจ้าชื่อเซบาสเตียนใช่ไหม? มาหาปู่ทีสิ”

“คุณไม่ใช่ปู่ของผม” เซบาสเตียนอารมณ์เสียนิดหน่อย

สีหน้าของดักลาสดูไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่มีใครกล้าปฏิเสธเขาแบบนี้มาก่อน

ชารอนก้าวไปข้างหน้าเพื่อยุติสงครามระหว่างทั้งสอง “ท่านผู้อำนวยการแซคคารี่คะ ดิฉันว่าคุณพูดกับเขาจากตรงนั้นเลยก็ได้นะคะ”

ไซม่อนมองไปยังชารอนและกล่าวคำพูด “ชารอน คุณควรเรียกว่าคุณพ่อนะ”

ชารอนเหลือบมองไซม่อนกลับ เธอเรียกเขาแบบนั้นได้ยังไงกัน? ไซม่อนกำลังทำให้หลายอย่างอึดอัดเกินไปหรือเปล่า?

“แม่ครับ ถ้าแม่ไม่เรียกเขาแบบนั้น ผมก็จะไม่เรียกเขาว่าปู่ด้วยเหมือนกัน” เซบาสเตียนขัดจังหวะขึ้นมาทันที

ชารอนรู้สึกหน้าชาไปชั่วครู่ เซบาสเตียนกำลังทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก

แน่นอน ชารอนสังเกตเห็นว่าใบหน้าของดักลาสดูเคร่งขรึมกว่าเดิม

ดักลาสจ้องไปยังเจ้าหนูน้อย เด็กชายคนนี้หมายความว่าอะไรกัน? ถ้าตนปฏิเสธที่จะรับชารอนเป็นลูกสะใภ้ เด็กน้อยคนนี้ก็จะไม่ยอมรับให้เขาเป็นปู่งั้นหรือ?

ชารอนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นอกจากนี้ ไซม่อนยังไม่เข้ามาช่วยอะไรด้วย ไซม่อนยังยืนกรานให้ชารอนเรียกดักลาสว่าคุณพ่ออยู่งั้นเหรอ?

บรรยากาศรอบตัวค่อนข้างน่าอึดอัด ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าของผู้หญิงคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามา “คุณพ่อคะ หนูมีเรื่องจะบอก”

ฟิโอน่ารีบวิ่งเข้าไปอย่างเป็นกังวลและตะโกนอุทานออกมาก่อนที่เธอจะเห็นว่าผู้ในห้องนั่งเล่นนั้นเป็นใครบ้าง

ทันทีที่ฟิโอน่าสบตากับพวกเขา ฟิโอน่าก็จับจ้องไปที่ชารอน เธอเผยเสียงแหลมออกมา “เธออีกแล้วเหรอ? ใครอนุญาตให้เธอเข้ามาที่นี่กัน?!”

“คุณป้าฟิโอน่า ไหน ๆ ป้าก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมอยากจะแนะนำให้ป้ารู้จักกับชารอน ภรรยาใหม่ที่ผมเพิ่งจะแต่งงานด้วย” ไซม่อนกล่าวคำพูดออกมาอย่างใจเย็น

ฟิโอน่ายิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเธอพลันเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ... เมื่อกี้นายเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ภรรยาใหม่งั้นรึ?”

"ใช่แล้วครับ ตอนแรกผมกำลังจะโทรไปเชิญชวนให้คุณป้าและโฮเวิร์ดมาที่บ้านเพื่อฉลองกับเราในวันพรุ่งนี้ แต่ผมขอเดาว่าจัดตอนนี้ไปเลยก็ไม่เสียหายอะไร" ไซม่อนกล่าว

ฟิโอน่ารู้สึกงุนงงจนพูดไม่ออก เธอรีบหันหน้ากลับไปยังชารอน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟิโอน่าก็หันไปมองดักลาส “พ่อได้ยินที่เขาพูดไหมคะ? คุณพ่อจะรับผู้หญิงแบบนี้มาเป็นลูกสะใภ้งั้นเหรอคะ?”

ก่อนที่ดักลาสจะพูดออกมา เซบาสเตียนก็โต้กลับ “คุณป้านิสัยไม่ดี! คุณป้าตบหน้าแม่ผม แถมคุณป้ายังลักพาตัวผมไปด้วย! เรายังไม่เคลียร์เรื่องนี้กับคุณป้าเลยด้วยซ้ำ!"

ดักลาสขมวดคิ้วและมองไปที่ฟิโอน่าพร้อมหรี่ตา “ลักพาตัวอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"

ฟิโอน่ากะพริบตาเล็กน้อย “พ่อคะ อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเด็กน้อยเลยค่ะ”

ฟิโอน่าจ้องมองไปที่เซบาสเตียน เดิมที เธอมาที่นี่เพื่อแจ้งกับดักลาสว่าไซม่อนมีลูกนอกสมรส แต่ทว่า ฟิโอน่าเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าไซม่อนจะเป็นคนบอกเองเร็วขนาดนี้ เขาจดทะเบียนสมรสกับชารอนไปแล้วด้วยงั้นเหรอ?

“ผมไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระสักหน่อย คุณป้าเป็นคนไม่ดีที่ลักพาตัวผมไปที่โรงพยาบาล คุณป้าต้องการทำการทดลองกับผม! คุณป้าตบหน้าแม่ผมด้วย ผมจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ!!” เซบาสเตียนไม่ปล่อยให้ฟิโอน่าหลุดรอดจากความผิดที่ตัวเองก่อเอาไว้แน่

ดักลาสจ้องมองไปที่ฟิโอน่าอย่างเย็นชาทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ “เธอตั้งใจจะทำการทดลองอะไรกับเด็กน้อยคนนี้กัน? บอกฉันมาตรง ๆ เดี๋ยวนี้”

ก่อนหน้านี้ ดักลาสไม่อนุญาตให้เซบาสเตียนเรียกตนว่าปู่ แต่ตอนนี้ เขากำลังปกป้องเด็กน้อยอยู่

ชารอนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจกับทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันของดักลาส

ไซม่อนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เห็นด้วยกับท่าทีของเซบาสเตียนเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO