ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 60

นั่นเป็นเรื่องจริง ไซม่อนยังมีธุระอีกหลายเรื่องให้ต้องจัดการที่บริษัทในวันนี้ เมื่อเห็นว่าชารอนไม่เป็นไรแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้นและตอบกลับ “ก็ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น รีบโทรหาผมเลยนะ” หลังจากนั้น ไซม่อนก็หันหลังและเดินจากไป

ทว่า เรื่องที่น่าแปลกใจคือชารอนกลับตะโกนออกมา “เดี๋ยวก่อนค่ะ”

ไซม่อนถึงกับหยุดชะงัก เขาหันกลับมาและจ้องมองไปยังชารอน “ทำไม? มีอะไรหรือเปล่า?” ริมฝีปากบาง ๆ ของไซม่อนพลันขดเป็นรอยยิ้มโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

ชารอนแอบมองไปยังไซม่อนและหลับตาลง เธอจับชายเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่นและตะโกนออกมา “ฉันแค่อยากจะบอกว่าฉันไม่ได้ผลักแซลลี่”

ทั้งนี้ ชารอนรู้ดีว่าหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นในตระกูลแซคคารี่ ไซม่อนจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากครอบครัวขนาดไหน พวกเขาจะต้องบังคับให้ไซม่อนหย่ากับเธอ หรือไม่ก็ไล่ชารอนออกไปอยู่ข้างนอกแน่ อันที่จริง ถึงแม้ว่าเมื่อเขารับแรงกดดันมากมายขนาดไหน ชารอนก็ไม่อยากให้ไซม่อนหมดศรัทธาในตัวเธอเลย

ก่อนหน้านี้ ไซม่อนเองก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับชารอนเลยว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อในตัวเธอ ชารอนไม่รู้เลยว่าไซม่อนคิดอะไรอยู่ ทั้งหมดที่ชารอนต้องการทำคือบอกทุกอย่างออกไปตรง ๆ เพราะถ้าไซม่อนเลือกที่จะไม่เชื่อ ชารอนเองก็คงทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี

ทั้งสองยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาล ไซม่อนยืนอยู่ข้างหน้าชารอน แสงแดดส่องมาที่ทั้งสอง ต้นไม้ข้างกายสั่นไหวไปพร้อมกับสายลม ดวงตาของไซม่อนที่จ้องมายังชารอนเผยให้เห็นประกายระยิบระยับ

การเต้นของหัวใจของชารอนเป็นปกติ หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าชารอนเองก็ไม่อยากหวังเอาไว้สูงแล้วว่าไซม่อนจะเชื่อเธอ

ผ่านไปครู่หนึ่ง ชารอนได้ยินเสียงใส ๆ ของไซม่อนลอยมากลับสายลม "อ่า"

ไซม่อนเพียงแค่ตอบกลับมาด้วยเสียงในลำคอระหว่างที่จ้องมองมาหาชารอนด้วยดวงตาสีดำสนิท

ชารอนมองไปยังชายตรงหน้าและรู้สึกสับสน 'เขาหมายความว่ายังไงกันนะ?'

'เขาจะเชื่อไหมนะว่าเราบริสุทธิ์?'

เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไซม่อนไม่เชื่อในตัวชารอน เขาคงไม่เข้ามาปกป้องเธอต่อหน้าพ่อของตัวเองรวมถึงพี่สะใภ้และโฮเวิร์ดหรอก

แต่ทว่า ถ้าไซม่อนเลือกที่จะไม่เชื่อในตัวเธอ เธอก็คงถูกไล่ออกจากตระกูลแซคคารี่ไปนานแล้ว หรือในกรณีที่เลวร้ายสุด ดักลาสก็คงจะบังคับให้เธอต้องแยกจากเซบาสเตียนพร้อมกับเอาตัวเด็กน้อยไป

ในระหว่างที่โฮเวิร์ดกำลังบีบคอและพยายามฆ่าเธอ ไซม่อนถึงพุ่งเข้ามาปกป้องเธอเอาไว้

แม้ว่าไซม่อนจะไม่ได้บอกว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อในตัวชารอน แต่การกระทำของไซม่อนก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าเขายังคงมีศรัทธาในตัวชารอนอยู่มาก

ในตอนนั้นเอง อารมณ์นับล้านพลันท่วมท้นอยู่ภายในตัวชารอน แม้ว่าทุกคนจะดุด่าหรือว่ากล่าวเธอ แต่ชารอนก็ยังคงจะพอใจหากมีเพียงลูกชายและไซม่อนที่เชื่อในตัวเธออยู่

ถึงอย่างไร ไม่นานนัก เสียงหนึ่งพลันผุดขึ้นมาในใจ 'บางที ไซม่อนที่อยู่เคียงข้างเราอาจจะไม่เชื่อในตัวเราก็ได้ แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเราในฐานะสามีและภรรยา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องช่วยเหลือกัน'

ชารอนส่ายหัวและสลัดความคิดเชิงลบเหล่านั้นทิ้งไป ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไซม่อนยังคงเผยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากนี้ การคิดมากไปก็มีแต่จะทำให้ชารอนหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น

“อีกสองวัน เดี๋ยวผมจะส่งคนไปรับคุณและเซบาสเตียนกลับไป” เขากล่าว

ชารอนกลับมาได้สติ เธอรู้สึกประหลาดใจ “เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” อันที่จริง ชารอนไม่ต้องการอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่เลยแม้แต่น้อย

“ทำไมล่ะ? คุณไม่กล้ากลับไปเหรอ? คุณรู้สึกผิดหรือยังไงกัน?" ไซม่อนมองชารอนพร้อมเผยยิ้ม

“ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ?” ชารอนมองกลับมาที่ไซม่อนอย่างงงงวย

“งั้นก็รีบกลับไปห้อง จะได้ไม่มีใครพูดจาไร้สาระใส่อีก”

ชารอนเข้าใจได้ในทันทีที่ไซม่อนพูดเช่นนั้น ทุกคนคงคิดว่าเธอเป็นคนผลักแซลลี่ ในตอนนี้ ถ้าเธอเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างนอกและไม่กล้ากลับไปยังคฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่ ชารอนก็คงจะถูกสงสัยมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม

'ไม่คิดเลยว่าเขาจะรอบคอบขนาดนี้'

ชารอนพยักหน้า "ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่อีก แต่ทว่ ชารอนเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่แล้วในตอนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO