นั่นเป็นเรื่องจริง ไซม่อนยังมีธุระอีกหลายเรื่องให้ต้องจัดการที่บริษัทในวันนี้ เมื่อเห็นว่าชารอนไม่เป็นไรแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้นและตอบกลับ “ก็ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น รีบโทรหาผมเลยนะ” หลังจากนั้น ไซม่อนก็หันหลังและเดินจากไป
ทว่า เรื่องที่น่าแปลกใจคือชารอนกลับตะโกนออกมา “เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ไซม่อนถึงกับหยุดชะงัก เขาหันกลับมาและจ้องมองไปยังชารอน “ทำไม? มีอะไรหรือเปล่า?” ริมฝีปากบาง ๆ ของไซม่อนพลันขดเป็นรอยยิ้มโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ชารอนแอบมองไปยังไซม่อนและหลับตาลง เธอจับชายเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่นและตะโกนออกมา “ฉันแค่อยากจะบอกว่าฉันไม่ได้ผลักแซลลี่”
ทั้งนี้ ชารอนรู้ดีว่าหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นในตระกูลแซคคารี่ ไซม่อนจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากครอบครัวขนาดไหน พวกเขาจะต้องบังคับให้ไซม่อนหย่ากับเธอ หรือไม่ก็ไล่ชารอนออกไปอยู่ข้างนอกแน่ อันที่จริง ถึงแม้ว่าเมื่อเขารับแรงกดดันมากมายขนาดไหน ชารอนก็ไม่อยากให้ไซม่อนหมดศรัทธาในตัวเธอเลย
ก่อนหน้านี้ ไซม่อนเองก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับชารอนเลยว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อในตัวเธอ ชารอนไม่รู้เลยว่าไซม่อนคิดอะไรอยู่ ทั้งหมดที่ชารอนต้องการทำคือบอกทุกอย่างออกไปตรง ๆ เพราะถ้าไซม่อนเลือกที่จะไม่เชื่อ ชารอนเองก็คงทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี
ทั้งสองยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาล ไซม่อนยืนอยู่ข้างหน้าชารอน แสงแดดส่องมาที่ทั้งสอง ต้นไม้ข้างกายสั่นไหวไปพร้อมกับสายลม ดวงตาของไซม่อนที่จ้องมายังชารอนเผยให้เห็นประกายระยิบระยับ
การเต้นของหัวใจของชารอนเป็นปกติ หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าชารอนเองก็ไม่อยากหวังเอาไว้สูงแล้วว่าไซม่อนจะเชื่อเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชารอนได้ยินเสียงใส ๆ ของไซม่อนลอยมากลับสายลม "อ่า"
ไซม่อนเพียงแค่ตอบกลับมาด้วยเสียงในลำคอระหว่างที่จ้องมองมาหาชารอนด้วยดวงตาสีดำสนิท
ชารอนมองไปยังชายตรงหน้าและรู้สึกสับสน 'เขาหมายความว่ายังไงกันนะ?'
'เขาจะเชื่อไหมนะว่าเราบริสุทธิ์?'
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไซม่อนไม่เชื่อในตัวชารอน เขาคงไม่เข้ามาปกป้องเธอต่อหน้าพ่อของตัวเองรวมถึงพี่สะใภ้และโฮเวิร์ดหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO