ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 69

ทว่า เมื่อดักลาสเห็นชารอน รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันแทนที่ด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึมทันที “ลูกพาเธอกลับมาทำไม?” ดักลาสถามไซม่อนอย่างแข็งกร้าว

ไซม่อนไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงตอบด้วยน้ำเสียงสงบ “พ่อไม่ได้ขอให้ผมพาหลานชายกลับมาที่นี่หรอกเหรอครับ?”

“พ่อแค่ขอให้ลูกไปรับเด็กคนนั้นกลับมา ไม่ใช่เธอสักหน่อย!” ดักลาสเผยท่าทางเย็นชา

ชารอนไม่ได้พูดอะไรกลับมา อันที่จริง ดูเหมือนว่าดักลาสจะไม่ยอมรับเธอ

เซบาสเตียนจับมือแม่ของตัวเองเอาไว้แน่นและกล่าวคำพูดสุดจริงจังออกมา “แม่ครับ ไปกันเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกเรา” ทันทีที่พูดจบ เซบาสเตียนก็ลากชารอนออกไป

“เซบาสเตียน หลานจะไปไหนกันน่ะ? ไม่คิดจะทักทายปู่หน่อยหรือยังไง?” ดักลาสกล่าวคำพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เขาถึงกับหางตากระตุก

“คุณปู่ไล่แม่ผม ผมก็จะไม่อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน!” เด็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา เซบาสเตียนเผยสีหน้าไม่พอใจ

ดักลาสเผยโทสะออกมา แต่ทว่า เขาไม่สามารถทำอะไรเซบาสเตียนได้

รีเบคก้าตกใจจนต้องลุกขึ้นทันที “คุณลุงแซคคารี่คะ นี่ก็ดึกมากแล้วด้วย พ่อกับแม่กำลังรอหนูกลับไปกินข้าวเย็นด้วย ยังไงเสีย เดี๋ยวหนูกราบลาก่อนนะคะ ไว้เดี๋ยวหนูจะกลับมาเยี่ยมใหม่"

ในตอนแรก ดักลาสคิดว่าจะให้รีเบคก้าอยู่รับประทานอาหารเย็นด้วย แต่สำหรับตอนนี้ หลายสิ่งหลายอย่างคงไม่น่าสะดวกเท่าไหร่ เพราะไซม่อนดันพาชารอนกลับมาด้วย หลังจากนั้น ดักลาสตอบกลับ "ก็ได้ ส่วนพรุ่งนี้ก็ไปทำงานตามปกติแล้วกันนะ ถ้ามีปัญหาอะไร ก็มาบอกฉันได้"

ทันทีที่ไซม่อนได้ยินคำพูดของผู้เป็นบิดา ท้ายที่สุด ไซม่อนก็เข้าใจเหตุผลที่รีเบคก้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว มันต้องเป็นเพราะเรื่องที่เขาไล่รีเบคก้าออกจาบริษัทแน่

รีเบคก้ารู้สึกหดหู่ใจไม่น้อยทันทีที่เห็นไซม่อน ชารอนและเซบาสเตียน ถึงกระนั้น เธอเองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ถูกไซม่อนไล่ออกไปแบบนั้น ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจแล้วหันกลับมาตอบดักลาส "เข้าใจแล้วคะ ขอบคุณนะคะคุณลุงแซคคารี่"

ระหว่างที่รีเบคก้ากำลังจากไป เธอเหลือบมองไซม่อน ทว่า เขายังคงเผยใบหน้าเย็นชาเช่นเคย หลังจากนั้น เธอก็มองไปที่ชารอน ท้ายที่สุด นั่นก็คือเซบาสเตียน

ในตอนนั้น รีเบคก้าเองก็ยังไม่สามารถยอมรับความจริงได้ว่าพวกเขาทั้งสองมีลูกชายที่โตขนาดนี้แล้ว

ทันทีที่รีเบคก้าจากไป ช่วงเวลาอาหารเย็นก็มาถึง ดักลาสลุกขึ้นและใช้ไม้เท้าหัวมังกรพยุงตัวเอง “อ่า เจ้าหลานชายตัวดี มานี่มา ไปกินข้าวกับปู่กันเถอะ”

เซบาสเตียนยังคงจับมือชารอนเอาไว้แน่น เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ผมจะไม่ไปกินข้าว ผมอยากอยู่กับแม่มากกว่า” ต่อให้พ่อครัวทำอาหารเอาไว้มากมายขนาดไหน เซบาสเตียนก็จะไม่ยอมแพ้!

ดักลาสจ้องมองไปที่ชารอนและกล่าวคำพูดดุดันออกมา "ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนทั้งนั้น ทุกคนต้องไปทานข้าวเย็นด้วยกันทั้งหมด!" หลังจากพูดจบ ดักลาสพลันเผยท่าทีหัวร้อนออกมา ทว่า เขายังคงเดินต่อไปด้วยไม้เท้าหัวมังกร ทันใดนั้น เขาก็หมุนตัวและมุ่งหน้าไปยังห้องอาหารทันที

“พ่อครับ คุณปู่ยอมให้แม่อยู่ที่นี่ไหมครับ?” เด็กน้อยได้แต่มองไซม่อนแล้วถามขึ้น

“ให้สิลูก ปู่บอกแล้วไงว่าไม่อนุญาตให้ใครออกไปไหนทั้งนั้น” ไซม่อนเผยยิ้ม ดูเหมือนว่าจะมีเพียงเซบาสเตียนเท่านั้นที่สามารถทำให้ชายชรายอมแพ้ได้

อันที่จริง ชารอนไม่อยากเห็นดักลาสเป็นเช่นนี้เลย ดังนั้น เธอจึงรีบดึงลูกชายไปที่ห้องอาหาร “ไปกินข้าวกันเถอะ เมื่อสองวันก่อน ลูกบ่นว่าอยากกินปลาเปรี้ยวหวานที่บ้านคุณปู่มาก ๆ เลยไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”

ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกาย “ใช่ครับ ผมอยากกินปลาเปรี้ยวหวาน!” เด็กน้อยผู้รักการกินพลันลืมความหัวร้อนของคุณปู่ไปทันที เขารีบวิ่งเข้าไปในห้องอาหารอย่างใจจดใจจ่อ

ชารอนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ไม่นานนัก เธอก็ตามลูกชายเข้าไปในห้องอาหารโดยมีไซม่อนอยู่ข้างหลังหนึ่งก้าว

ถึงกระนั้น ดักลาสก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับชารอนเลย นั่นก็เป็นเพราะเซบาสเตียน

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ชารอนกับเด็กน้อยก็กลับไปที่ห้อง เธอช่วยลูกชายทำการบ้านจนเสร็จ

เวลาผ่านไปจนถึงเวลาสามทุ่ม เซบาสเตียนกำลังเตรียมเข้านอนแล้ว ในระหว่างนั้น ชารอนพลันคิดว่าเธอต้องไปหาไซม่อนเพื่อหารือเรื่องโครงร่างการออกแบบ

ทว่า หลังอาหารเย็น ไซม่อนไม่กลับมาที่ห้อง เขาน่าจะอยู่ในห้องหนังสือ ชารอนเดินออกมาจากห้องนอนและปิดประตูเบา ๆ หลังจากนั้น เธอก็เดินตรงไปยังห้องอ่านหนังสือทันที

เมื่อเธอมาถึงทางเข้าห้อง ชารอนพลันสังเกตเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อคและมีแสงลอดออกมาจากภายใน

ทันใดนั้น ชารอนก็พลันได้ยินเสียงของดักลาสดังออกมา "ลูกควรหย่ากับผู้หญิงสารเลวคนนั้นทันที!"

ชารอนยืนอยู่ที่ทางเข้าหน้าประตู เธอได้ยินบทสนทนาจากภายในห้อง ในตอนแรก ชารอนต้องการกลับไปที่ห้อง เพราะการแอบฟังคนอื่นคงไม่ใช่เรื่องที่ควรเท่าไหร่นัก 'แต่... ผู้หญิงสารเลวที่เขาพูดถึงคือเราหรือเปล่านะ?'

ทันใดนั้น ฝีเท้าของชารอนพลันหยุดลงโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO