ในตำหนักยา หมอเทวดามองเห็นโหลชี ได้รีบเข้ามาต้อนรับ "แม่นางโหลในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว"
"ไม่ได้รอนานใช่หรือไม่?" โหลชีหมดคำพูด นางรู้ว่าหมอเทวดาอยากได้บัวหิมะของนาง นางได้เรียกลูกน้องดูแลยามาหนึ่งคน "เจ้าไปที่ตำหนักสามไปหาเอ้อร์หลิง ให้นางนำห่อผ้าสีฟ้าของข้ามาที่นี่
"ขอรับ" ลูกน้องดูแลยารีบเดินออกไป
สีหน้าของหมอเทวดาทรุดลงทันที "แม่นางโหลไม่ได้นำติดตัวมาด้วยหรือ?"
"เป็นทางผ่านของข้าน่ะ จำนำมาอย่างไร รออีกสักหน่อยก็ได้แล้ว" โหลชีเดินไปที่ที่เขาตากสมุนไพร จากนั้นดึงเก้าอี้ขึ้นนั่งแล้วลง แล้วหยิบโสมชิ้นเล็กๆ โยนเข้าไปในปาก
หมอเทวดามองออกแล้ว นางต้องการนำของมาส่งให้เขาที่ไหนกัน เหมือนเป็นการมาหาสงบสติอารมณ์ในที่ของเขาอย่างชัดเจน เขาส่ายหน้าและยิ้ม จากนั้นได้เข้าชงชาที่เขาทำเองให้นางหนึ่งแก้ว
"แม่นางโหลนี่มีเรื่องไม่สบายใจหรือ?"
โหลชีหยิบชาขึ้นมาจิบ ทันใดนั้นดวงตาก็สว่างขึ้น "ชานี้อร่อย ทำมาจากอะไร?"
"บัวหิมะและได้เพิ่มยาอื่นๆ ด้วย โดยใช้น้ำบ่อถังแรกในตอนเช้าตรู่" หมอเทวดาเห็นว่านางไม่ได้ตอบคำถามตัวเองก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
"อร่อย คราวหน้าข้าจะมาดื่มบ่อยๆ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หมอเทวดาได้ยิ้มอย่างขมขื่น บัวหิมะก็มีไม่มาก และเขาก็ชงเป็นแค่บางครั้งเท่านั้น
แต่ประโยคถัดมาของโหลชีทำให้เขารู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก "ใช้ดอกในหิมะมาแช่ชาก็น่าจะอร่อย ครั้งนี้ที่ข้าเด็ดมาไม่ใช่แค่ดอกเดียว มีตั้งหลายดอก"
ดอกในหิมะ ต้องยิ่งหายากกว่าบัวหิมะเขาน้ำแข็งแน่นอน และคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ไม่รู้ว่า ดอกในหิมะนั้นมีประสิทธิภาพทางยาดีกว่าบัวหิมะ
โหลชีไม่ต้องการเก็บไว้กับตัวเองแม้แต่นิดเดียว ดอกในหิมะสำหรับนางแล้วไม่มีประโยชน์อะไร นางไม่ได้อยากเป็นหมอเทวดา ดังนั้นสิ่งที่นางทำออกมาจึงเป็นสิ่งที่ตัวเองสามารถใช้ได้มากกว่า หรือที่บอกว่าช่วงเวลาวิกฤติสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ แม้ว่าหลังจากที่ตอนนี้ได้อยู่กับเฉินซ่าและคนอื่นๆ นางได้ทำของพวกนั้นต้องมากเมื่อก่อน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ดอกในหิมะ สิ่งที่หมอเทวดาสามารถทำได้ เยว่และคนอื่นๆต้องการใช้ให้มาเอาที่เขาก็ได้แล้ว
"หมอเทวดา ข้ามาที่นี่มีเรื่องต้องการให้ท่านช่วยหน่อย ท่านเคยได้ยินดีจิ้งจอกมารหรือไม่?"
"ดีจิ้งจอกมาร?" หมอเทวดาตกใจ "เคยได้ยินมาแน่นอน! นั้นเป็นของดีนี่ เป็นของดีจริงๆ แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าใครได้ไปแล้ว!"
โหลชีหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากเอว แล้วยื่นออกไป "เจ้าดูนี่สิใช่หรือไม่"
แม้ว่าดีจิ้งจอกมารจะเคยใช้มาหลายครั้งแล้ว และพบว่ามันมีประโยชน์เช่นนั้นแล้ว แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องกินเข้าไป และเป็นสิ่งที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน นางยังอยากรอบคอบให้มากขึ้น ร่างกายของนางไม่กลัวสารพิษใดๆ แต่สำหรับกู่สิ่งเหล่านั้นกลับยังไม่ได้ยอมรับ
มือของหมอเทวดาสั่นเทาขึ้น เขาเปิดฝาอย่างระมัดระวัง นำขวดไว้ใต้จมูกและดมกลิ่นอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาหยิบเข็มเงินยาวๆ มา จากนั้นเอื้อมมือเข้าไปในขวดแล้วคนให้เข้ากัน จึงหยิบเข็มดึงออกมา โหลชีพบว่าเข็มเงินทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีทอง เหมือนเข็มเงินจู่ๆ ก็กลายเป็นเข็มทองในทันที
นางตกใจ และยังไม่รู้ว่าดีจิ้งจอกมารสามารถเป็นแบบนี้ได้
"ตำนานเล่ากันว่า มีของเหลวสีทองชนิดหนึ่งอยู่ในดีจิ้งจอกมาร อะไรก็ตามที่เป็นธาตุเงินเมื่อสัมผัสมันจะถูกย้อมเป็นสีทองทันที และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้หนอนพิษและพิษกู่กลัว หากคำเล่าขานไม่มีผิดเพี้ยน แม่นางโหล นี่คือดีจิ้งจอกมารจริงๆ!"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็อดอิจฉาไม่ได้ "แม่นางโหลช่างโชคดีจริงๆ ของแบบนี้ปรากฏเพียงแค่ในตำนานเท่านั้น คาดไม่ถึงว่าก็สามารถทำให้ท่านได้มันมา! อีกอย่าง แม่นางโหลควรเอาของสิ่งนี้ไปใช้โดยเร็วเถิด ไม่เช่นนั้น มีข้อดีอยู่ในมืออาจมีความผิดได้นะ!"
หมอเทวดาไม่ได้คิดที่จะขอสิ่งนี้แทนเฉินซ่า เพราะตอนนี้ในร่างกายเขาได้มีกู่ปลิดชีพ ราชากู่แห่งใต้หล้าแล้ว ดีจิ้งจอกมารก็ไม่มีทางที่จะขับมันออกมาได้
โหลชีพยักหน้า "แค่อยากจะถามหมอเทวดา ของสิ่งนี้ใช้อย่างไร" ของดีเช่นนี้ เฉินซ่ากลับไม่สามารถใช่ได้ นางถึงไม่อาจจะให้ใครง่ายๆ
"พอดี ที่แม่นางโหลได้มีดอกในหิมะแล้ว เป็นการดีที่สุดที่จะนำสิ่งนี้ไปแช่น้ำดอกในหิมะ เพราะทั้งสองมาต่างมาจากทุ่งน้ำแข็ง และด้านในยังมีชี่หนาวเย็นเหมือนกัน จึงเหมาะสมที่สุด"
โหลชีกลับไม่เคยคิดเลยว่าที่นางได้รับดอกในหิมะมาจะยังมีประโยชน์เช่นนี้ ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเกี่ยวกับโชคของตัวเองในทันที
ในเวลานี้ ลูกน้องดูแลยาได้พาเอ้อร์หลิงมาถึงตำหนักยาแล้ว อยู่ในอ้อมแขนของเอ้อร์หลิงมีห่อผ้าหนึ่งห่อ เมื่อเห็นโหลชีจึงได้ส่งมันให้กับนาง โหลชีผลักมันไปตรงหน้าหมอเทวดา
หมอเทวดาหยิบมันขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เปิดมันออกดู และพบว่ายังมีกล่องเล็กๆ ที่บรรจุกลีบดอกสีแดงเลือดหลายใบอยู่ด้านใน และทันใดนั้นก็อ้าปากกว้าง ดวงตาก็เปล่งประกายออกมาด้วยความประหลาดใจ
"นี่ นี่หรือ บัวเลือด?"
โหลชีพยักหน้า "ไม่ผิด คือบัวเลือด ของสิ่งนี้เอาไว้กับตัวข้าก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ มอบมันให้กับเจ้าแล้วกัน" ตัวนางเองเคยทานบัวเลือดไปแล้ว และประสิทธิภาพของบัวเลือดนั้นก็แปลกมาก หลังจากทานแล้วมันยังคงทำงานในร่างกายเป็นเวลานาน ที่ว่าคือ แม้ว่าต่อไปนางจะได้รับบาดเจ็บภายใน อยู่ในร่างกายของนางก็จะได้รับการหล่อเลี้ยงดีขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีบัวเลือด
ดังนั้นไม่ใช่ว่ายิ่งทานเยอะยิ่งดี เคยทานครั้งเดียวก็ดีมากแล้ว แต่ไขหินพันปีนั้นไม่เหมือนกัน ไขหินพันปีคือได้ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน และแปรสภาพเป็นพลังภายในของนาง
หลังจากหมอเทวดาดีใจจนแทบเป็นบ้าและอดพูดไม่ได้ว่า "แม่นางโหลช่างเป็นคนใจกว้าง ดอกบัวเลือดนี้เป็นสมบัติที่หายากในโลก แม้นว่าแม่นางโหลจะไม่ต้องการ จะแลกเปลี่ยนเป็นแก้วแหวนเงินทองก็สามารถเปลี่ยนได้มากมาย ตลอดชีวิตไม่ต้องห่วงล้วนมีกินมีใช้อย่างแน่----"
โหลชีเลิกคิ้วขึ้น "หากเจ้าไม่พูดข้าคงคิดไม่ถึง เจ้าพูดก็มีเหตุผล เช่นนั้นคือให้ข้าเถิด ข้าจะเอาไปขาย----"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ